ผ่ากลยุทธ์ “เจ๊เกียว” ฝ่าวิกฤติ สะสมที่ดินเป็น “ทุนสำรอง” เตรียมขายสู้ขาดทุนทัวร์เชิดชัย

สัมภาษณ์ : ดร.สุจินดา เชิดชัย (เจ๊เกียว) เจ้าของธุรกิจเดินรถ-อู่ต่อรถทัวร์เครือเชิดชัย

โดยดร.นงค์นาถ ห่านวิไล

ดร.นงค์นาถ: วิกฤติจากโควิด และ สงครามรัสเซีย-ยูเครน ส่งผลกระทบต่อธุรกิจใน “เครือเชิดชัย” อย่างไรบ้าง

ดร.สุจินดา: ตอนนี้ในประเทศไทยก็กระทบทุกราย ที่ทำธุรกิจใหญ่ๆ เพราะว่าเราเจอมาตั้งแต่โควิด ปี 2563  ทั้งธุรกิจการเดินรถทัวร์เชิดชัย ธุรกิจการต่อตัวถังรถยนต์ กระทบทั้งหมดเลย การค้า ธุรกิจ ทั้งหมดของเครือเชิดชัย ขณะนี้มีรายได้เหลือไม่ถึง 10% ของรายได้ที่เคยทำได้ในช่วงที่ผ่านมาก่อนวิกฤติโควิด

ดร.นงค์นาถ: ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดน่าจะเป็นธุรกิจเดินรถทัวร์ใช่ไหม และเป็นธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดในเครือเลยใช่ไหม

ดร.สุจินดา: ใช่ ก็ใหญ่พอๆ กัน แต่ธุรกิจต่อตัวถังรถยนต์ จะใหญ่กว่านิดหน่อย เพราะเราต่อรถขายทั้งประเทศเลย ไม่ใช่แค่ในนครราชสีมา

ดร.นงค์นาถ: ธุรกิจเดินรถทัวร์ที่ขาดทุนอยู่ในตอนนี้ จะไปต่ออย่างไร

ดร.สุจินดา:  เราเตรียมการไว้ ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ การทำธุรกิจนี้ ก็ต้องมีวันหนึ่งที่จะต้องเจอปัญหาเราก็เก็บส่วนที่คิดว่าจะต้องขาดทุนเท่าไร แล้วขาดทุนกี่ปี เราทำธุรกิจมาตั้ง 60 กว่าปี เราก็ต้องเก็บจนพอจะใช้หนี้ได้ พออยู่ได้ พอเลี้ยงลูกน้องต่อไปได้ เราคิดแต่ว่าลูกน้องไม่ใช่ลูกจ้าง เป็นผู้ร่วมงานเพราะฉะนั้นเราก็ต้องเตรียมการให้เขา ว่าเขาจะอยู่อย่างไร ของเรานี่ไม่มีเกษียณทำไปเรื่อยๆ จนแก่ตาย

ดร.นงค์นาถ: พนักงานมีจำนวนเท่าไหร่

ดร.สุจินดา: เมื่อก่อนมีสามพันคน ตอนนี้เหลือไม่กี่ร้อยคนแล้ว เขาก็ลาออกเอง ไปอยู่บ้านบ้าง ไปทำงานของตัวเองบ้าง ซึ่งเราก็ได้เตรียมการให้เขา สอนการใช้ชีวิตอย่างไร ให้อยู่เป็น และแก่เป็น ก็สอนให้เขารู้จักซื้อบ้าน ส่งลูกเรียนสูงๆ ฝึกให้ลูกทำงาน และอยู่ทำงานจนไม่ต้องเกษียณ จนแก่ตายนี่แหละ

ภาพ : https://web.facebook.com/Cherdchai.Korat21

ดร.นงค์นาถ: เมื่อเร็วๆ นี้ เจ๊เกียว ประกาศขายธุรกิจเดินรถทัวร์ ล่าสุด มีคนสนใจบ้างหรือยัง

ดร.สุจินดา: ขายแน่นอน ขอให้เข้ามาคุย แต่ขณะนี้ยังไม่มีคนมาคุย รถมันเยอะ และเป็นธุรกิจที่ขาดทุน คนที่จะมาซื้อตอนนี้ก็ไม่มีหรอก เพียงแต่เข้ามาติดต่อว่าจะเอาสายนั้น สายนี้ นโยบายของเจ๊เกียว คือ ต้องขายให้หมด ไม่แบ่งขาย ขายเป็นภาคๆ ได้ เรามีใบอนุญาตเดินรถทัวร์ อยู่ 3 ภาค  คือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และ ภาคอีสาน ถ้าซื้อเป็นภาคๆ ได้ แต่ซื้อเป็นสายนี้ไม่ได้

ดร.นงค์นาถ: รถทัวร์ที่รอขายไปพร้อมกับใบอนุญาตเดินรถมีกี่คัน

ดร.สุจินดา: เมื่อก่อนมี 900 คัน ตอนนี้เหลือ 500 กว่าคัน และที่ประกาศขายคือ รถทะเบียนหมวด 10 มีใบอนุญาตรถร่วม บขส. แต่มีอีกส่วนหนึ่งคือ ทะเบียนหมวด 30 คือ รับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างรับส่งพนักงงาน รับจ้างเหมาทัวร์เที่ยว ฯลฯ ส่วนนี้ไม่ขาย จะขายเฉพาะทะเบียนหมวด 10

ดร.นงค์นาถ: อยากทราบว่าธุรกิจเดินรถร่วม บขส. ที่จะขายนี้ ตั้งราคาไว้ประมาณเท่าไร

ดร.สุจินดา: เราก็ยังไม่รู้เลย เราต้องรู้ก่อนว่าคนที่จะมาลงทุน เขาอยากได้อะไรบ้าง อาจจะอยากได้แค่ license หรือใบอนุญาต แต่ license ขายไม่ได้ต้องขายรถพ่วงด้วย นโยบายไม่ตรงกันก็เลยไม่ได้คุยต่อ

ดร.นงค์นาถ: ถ้าไม่มีใครสนใจ จะมีทางออกอื่นอีกอย่างไรบ้าง สำหรับธุรกิจเดินรถเชิดชัย

ดร.สุจินดา: เราก็ต้องวิ่งขาดทุนไปก่อน แล้วก็ขยับขยายไปตามสถานการณ์

ดร.นงค์นาถ: ตอนนี้ราคาน้ำมันพุ่งสูงมาก เจ๊เกียว เคยบอกว่า เดือนหนึ่งขาดทุน 4 ล้านบาท แต่ก็ยังต้องวิ่งให้บริการอยู่ในบางเส้นทางใช่ไหม

ดร.สุจินดา: ใช่ 4ล้านบาทต่อเดือน และยังวิ่งอยู่ในบางเส้นทาง แต่ทะเบียนหมวด 30 ยังวิ่งครบ

ดร.นงค์นาถ: สุดท้าย ถ้าขายไม่ได้จริงๆ จะเลิกกิจการนี้เลยไหม

ดร.สุจินดา: คิดว่าคงจะยังวิ่ง แต่วิ่งให้พอดีกับการขาดทุนนิดๆ หน่อยๆ เพื่อบริการประชาชนไปก่อน และได้วางแผนไว้  ว่าจะขายที่ดิน มาใช้จ่ายสนับสนุนธุรกิจเดินรถ และใช้หนี้ ในส่วนที่ขาดทุน

ภาพ : FB บริษัท อู่เชิดชัยอุตสาหกรรม จำกัด

ดร.นงค์นาถ: การบริหารธุรกิจในช่วงวิกฤติแบบนี้ โดยรวมๆ มีหลักการบริหารอย่างไรบ้าง

ดร.สุจินดา: เราก็คิดว่าทุกอย่างมันต้องดีขึ้น ตอนนี้เป็นลบบ้าง เราก็ต้องจำยอม มันเป็นเพียงแค่ภาวะในแต่ละวันที่ต้องดูไปเรื่อยๆ โครงการแต่ละโครงการ เราจะทำอย่างไร แต่เราก็เตรียมเรื่องการขาดทุน ในส่วนธุรกิจเดินรถไว้แล้วว่า จะรับไหวกับการขาดทุนประมาณสัก 5-10ปี เงินที่มาใช้หนี้ส่วนขาดทุนก็เอามาจากการขายที่ดินที่เจ๊เกียว ซื้อเก็บไว้ตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจ ซื้อมาเรื่อยๆ สะสมที่ดินไว้

เงินที่นำมาใช้หมุนเวียนช่วงที่ธุรกิจขาดทุน ได้มาจากการขายที่ดิน เพราะเราคิดว่า การค้าไม่ขาดทุน ก็ กำไร ตอนนี้เราเจอภาวะขาดทุน เราจะมาบอกว่าไม่เอาเททิ้ง ไม่ได้ เราก็หาวิธีปรับปรุงให้มันดีขึ้น อย่างรถนี่ เราก็วิ่งน้อยลง หาทางแก้ไข หาเงินมาไว้ก่อน

เจ๊เกียว สำรองเงินไว้เพื่อที่จะขาดทุนนี้ด้วยการเก็บสะสมที่ดินไว้เยอะ นโยบายก็คือ ต้องขายที่ดินเก็บเอามาไว้ใช้จ่ายต่อไป ที่ดินก็มีอยู่นับหมื่นไร่  คิดเป็นราคาก็หลักหมื่นล้าน เมื่อก่อนซื้อถูก อย่างตอนนี้ ประกาศขายที่ดินที่กรุงเทพฯ ก็มีคนติดต่อซื้อแล้วประมาณ 2-3ราย และถ้าใครจะซื้อที่ดิน หรือติดต่อธุรกิจ ขอให้โทรศัพท์มาได้ทุกเวลา

ดร.นงค์นาถ: ขอปิดท้ายด้วย แนวคิดเรื่อง “พลังหญิง” ขับเคลื่อนธุรกิจ เศรษฐกิจ ในฐานะที่เป็นนักธุรกิจหญิงผู้ประสบความสำเร็จ

ดร.สุจินดา: อยากฝากผู้หญิงทุกๆ ท่าน ที่อยู่ในประเทศไทย เราเก่งกว่าผู้ชายเพราะเรารับภาระมากกว่าผู้ชาย เพราะฉะนั้นจงภูมิใจ และถ้าเห็นโอกาสการทำธุรกิจต่างๆ ถ้ามีโอกาสอย่าปล่อยให้เสียไป ทำได้ก็ทำเลย ถ้าทำไม่ได้ก็โทรศัพท์หาเจ๊เกียว จะให้กำลังใจ

ดร.นงค์นาถ: ขอข้อคิดในการใช้ชีวิต ในฐานะผู้มีประสบการณ์ ผ่านพ้นมาหลายวิกฤติ

ดร.สุจินดา: เราทุกคนเกิดมาก็ต้องผจญภัยบ้าง โดยที่จะต้องต่อสู้กับปัญหาต่างๆ แต่ เจ๊เกียว ที่ใช้ชีวิตอยู่ทุกวันนี้ ไม่เคยคิดเลยว่า ปัญหาอุปสรรคต่างๆ จะเป็นปัญหากับชีวิต อยู่กับปัญหา กับสิ่งต่างๆ ที่เข้ามา ต่อสู้แล้วมันจะหยุดไปเอง ถ้าเรากลัวมัน มันก็จะถาโถมเข้ามาเยอะๆ ถาโถมให้เราคิด  สุดท้าย เราก็ต้องบอกตัวเองบ้างเหมือนกันว่า “ช่างมันปล่อยมันไป”


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น