“ไม้หมอนฟาร์ม” คาเฟ่ & อาหารในสวน คว้าโอกาสในวิกฤติโควิด ลูกค้ามองหามุมสงบ

สัมภาษณ์: คุณอารีพร สุยะ เจ้าของไม้หมอนฟาร์ม จังหวัดเชียงราย

โดยดร.นงค์นาถ ห่านวิไล

ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสอยู่เสมอถ้าเรามองหาให้เจอ เช่นเดียวกับ วิกฤตโควิด ที่หากเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วปรับตัว ปรับธุรกิจ ปรับกลยุทธ์ ให้สอดคล้องกับพฤติกรรมของผู้คนที่จะต้องปรับตัว เช่นกัน เมื่อธุรกิจปรับเปลี่ยนมาถึงจุดที่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค ก็สามารถคว้าโอกาสมาได้ เช่นเดียวกับ “ไม้หมอนฟาร์ม คาเฟ่”

ดร.นงค์นาถ: ช่วยเล่าถึงความเป็นมาและแนวคิด คาเฟ่ & อาหารในสวน ของ “ไม้หมอนฟาร์ม” 

คุณอารีพร : เดิมพื้นที่ของเราเป็นสวนลำไย พอลำไยไม่ได้ผลผลิตดีเท่าที่ควร เราเลยคิดที่จะปรับเปลี่ยนพื้นที่แห่งนี้ ให้มีมูลค่าเพิ่ม และเป็นช่วงที่ลูกสาวเรียนจบมา ก็อยากให้ลูกอยู่กับบ้าน คนโตเรียนจบประมง จากมหาวิทยาลัยแม่โจ้ คนที่สอง ก็ จบ แม่โจ้ เหมือนกัน แต่จบการท่องเที่ยว ซึ่งลูกเองก็อยากทำธุรกิจของตัวเอง

ดร.นงค์นาถ : ตอนนี้ที่ร้านขายอะไรบ้าง มีผลิตภัณฑ์อะไรบ้าง

คุณอารีพร : เราเริ่มปลูกองุ่นไว้ให้คนมาชม มาถ่ายรูป ส่วนผลองุ่น ก็นำมาทำน้ำองุ่น ทำซอสองุ่น ส่วนสตรอว์เบอร์รี ก็มีปลูก ผลผลิตจะออกในช่วงพฤศจิกายน-มีนาคม เรานำมาแปรรูป เป็นแยม อบแห้ง และทำน้ำสตรอว์เบอร์รี คือ มี ทั้งขายผลสดๆ และแปรรูปออกมาเป็นผลิตภัณฑ์

และมีช่วงหนึ่งได้ไปเรียนรู้กับโครงการพลังชุมชน อาจารย์แนะนำให้นำวัตถุดิบในชุมชนก็มาผลิต มาแปรรูปเป็นสินค้า ก็ได้ความคิดมาผลิตสินค้าหลายๆ อย่าง เช่น การสกัดน้ำมันหอมระเหย จากสมุนไพร เช่น ขมิ้น ตะไคร้หอม มะกรูด มะนาว ซึ่งเราปลูกไว้ใช้ในครัวเรือนอยู่แล้ว  ผลิตภัณฑ์ ชามินต์  พิมเสน ยาหม่อง สเปรย์ไล่ยุง

ดร.นงค์นาถ : การผลิตสินค้า มีกระบวนการอย่างไร ส่งต่อให้โรงงานผลิต หรือ ผลิตกันเองในครอบครัว

คุณอารีพร :  เราผลิตเอง นำวัตถุดิบ มาทำเองทั้งหมด โดยมีคนในชุมชนมาช่วยทำด้วย  และมีลูกน้อง 2–3 คน ช่วยกัน

ดร.นงค์นาถ : ที่ “ไม้หมอนฟาร์ม คาเฟ่” สรุปแล้วมีสินค้าอะไรบ้าง

คุณอารีพร : เรามีปลูกผักสลัดเองด้วย เพื่อมาทำเป็นเมนูอาหารในร้านอาหารของเรา มีมินต์ ที่นำไปสกัดทำเป็นน้ำมันหอมระเหย และมาทำชามินต์ ด้วย ซึ่งมีสรรพคุณช่วยลดความเครียด มีกาแฟสมุนไพร ซึ่งมีสมุนไพร ถึง 25 ชนิด และยังมีผลิตภัณฑ์ของชุมชนมาฝากขาย เช่น พวงกุญแจ หมวก เสื้อผ้า และยังมีสินค้าจากสมาชิกในโครงการพลังชุมชน จังหวัดอื่นๆ มาฝากขายด้วย

ดร.นงค์นาถ : คิดว่า อะไร คือ จุดแข็งของ “ไม้หมอนฟาร์ม”

คุณอารีพร : คงเป็นเรื่องเนื้อที่ ของเราเป็นพื้นที่โล่งกว้าง แต่ละจุดก็จะมีโต๊ะอาหาร ที่มีระยะห่างจากกัน ถ้ามาเป็นครอบครัวมาใช้บริการ 10-15คน ก็สามารถจองมาก่อนทางเพจของเรา เราก็จะจัดพิเศษ รักษาระยะห่าง ส่วนอาหาร ที่นี่มาจากวัตถุดิบ ที่เราปลูกเอง ปลอดสารพิษ  ส่วนเมนูอาหารก็มีไฮไลท์ที่ลูกค้านิยมสั่ง เช่น ผัดไทยจานใหญ่ ไก่ราดซอสองุ่น นี่คือ จุดแข็งที่ไม่เหมือนใคร

ดร.นงค์นาถ : คนต่างถิ่นก็รู้จัก “ไม้หมอนฟาร์ม” กันมากขึ้น ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง คึกคักไหม

คุณอารีพร : ช่วงนี้มีลูกค้ามาใช้บริการเยอะ ในช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ และจันทร์ จะมากันเยอะมาก ซึ่งเหนือความคาดหมาย ทีแรกก็ทำใจ คิดว่าช่วงนี้ เป็นช่วงการระบาดของโควิด เราควรทำอะไรเล็กๆ ไม่ทำอะไรเยอะ

          

แต่พลิกความคาดหมาย ซึ่งคิดว่า มาจากความร่มรื่นในบริเวณสวน มีการจัดโต๊ะห่างๆ กัน ในแต่ละจุด มีความห่างกันมาก บางคนพาเด็กๆ มานั่งพักผ่อนรับประทานขนม รับประทานอาหารกัน ลูกค้ามั่นใจในเรื่องความปลอดภัยจากโควิด

ดร.นงค์นาถ : ช่วงที่เกิดวิกฤติโควิดหนักๆ  “ไม้หมอนฟาร์ม” แทบจะไม่ได้รับผลกระทบเลยใช่ไหม

คุณอารีพร : ใช่ เพราะลูกค้าเรา จะติดใจ ความเป็นร้านอาหาร และคาเฟ่ ในสวน มาใช้บริการ แบบมาแล้วมาอีก ลูกค้าจากทางกรุงเทพฯ  ก็มี บางคนลงจากเครื่องแล้ว ก็เดินทางมาที่ร้านเลย แบบตั้งใจมาจริงๆ

ดร.นงค์นาถ : มีช่องทางการติดต่อ และเข้าไปชม ไม้หมอนฟาร์ม ได้ที่เพจไหนบ้าง

คุณอารีพร : มีเพจ  facebook “ไม้หมอนฟาร์ม Maimorn Farm” ลูกค้าส่วนมากก็จะจองผ่านทางนี้ เบอร์โทรศัพท์ทางร้านคือ 096-146-1945 ทางเรายินดีต้อนรับทุกคน


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น