OfficeMate ฝ่าวิกฤติ Covid อย่างไร? ทำไมต้องเปิดช่องทาง Marketplace

OfficeMate สร้างช่องทางการขายใหม่ หลังเจอโควิด-19 จัดทำแพลตฟอร์ม OfficeMate’s Online B2B Marketplace ช่วยคู่ค้าเข้าถึงลูกค้าได้มากถึง 5 แสนราย ทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้น

จิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ ออฟฟิศเมท กล่าวว่า ออฟฟิศเมทได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 เยอะมากพอสมควร เพราะร้านค้าของเราเดิมมีอยู่ 80 กว่าร้าน ก็ลดลงเหลือ 10 กว่าร้าน ในส่วนของลูกค้า ซึ่งเราจะเน้นลูกค้าที่เป็นองค์กร หลายๆ องค์กรก็ Work from Home ทำให้ได้รับผลกระทบว่าแล้วเขาจะซื้อของอะไรเพื่อที่จะใช้ในการทำงานบ้าง

จิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย

ซึ่งเราก็พยายามปรับเปลี่ยน เช่น การที่เปิดขายหน้าร้านไม่ได้ เราก็ผันเป็นนิวแชนแนล สร้างช่องทางใหม่ให้พนักงานขายผ่านทางโทรศัพท์ หรือเฟซบุ๊กก็มีการทำไลฟ์ มีการทำไลน์ ที่แต่ละร้านค้าจะสามารถติดต่อกับลูกค้าประจำได้โดยที่ไม่ต้องเข้ามาที่ร้าน และที่ช่วยได้เยอะมากก็คือช่องทางออนไลน์

ในช่วงล็อกดาวน์ ออนไลน์ของออฟฟิศเมทโตมากขึ้นถึงกว่า 100% ทำให้เราเล็งเห็นว่าช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางที่ขาดไม่ได้ และได้จัดทำแพลตฟอร์ม OfficeMate’s Online B2B Marketplace ทำให้ไม่ต้องเอาของมาสต๊อกไว้ หรือให้ร้านค้าจากที่ไหนก็ได้สามารถที่จะมาขึ้นบนแพลตฟอร์มออนไลน์

ทำให้เรามีของที่จะขายมากขึ้น การมีอินโนเวชั่นใหม่ๆ ของสตาร์ทอัพหลายรายที่จะขึ้นมาอยู่บน Marketplace การมีสินค้าที่ฮิตในช่วงนั้นๆ ทำให้เรามีของที่เข้ากับสถานการณ์มากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างยอดขายเพิ่มขึ้นด้วย

สำหรับ OfficeMate’s Online B2B Marketplace จัดทำขึ้นในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เพื่อช่วยเหลือคู่ค้า ช่วยเหลือเอสเอ็มอีให้มีช่องทางที่จะเข้าถึงลูกค้าที่เป็นองค์กรได้อย่างรวดเร็ว เพราะออฟฟิศเมทมีลูกค้าที่เป็นองค์กร 5 แสนราย ซึ่งเราเป็นแพลตฟอร์มที่ลูกค้าองค์กรเชื่อใจและมั่นใจในเรื่องของคุณภาพและความน่าเชื่อถือ

ผู้ประกอบการที่เข้าร่วมในแพลตฟอร์มนี้ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแรกเข้า ไม่ต้องเสียค่าลงสินค้า แต่จะเก็บค่าคอมมิชชั่นในกรณีที่ขายสินค้าได้เท่านั้น ถ้าขายไม่ได้ก็ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไร ซึ่งค่าคอมมิชชั่นจะอยู่ที่ 5-20% แล้วแต่หมวดสินค้า และตอนนี้บริษัทมีการให้เครดิตเทอมแก่ลูกค้าที่เป็นเอสเอ็มอี หรือองค์กรด้วย

ตอนนี้เรามีสินค้าหลายหมวดหมู่ ทั้งด้านไอที อิเล็กทรอนิกส์ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเรามีหลายแบรนด์ เช่น ไทยวัสดุ เจนบรรเจิด ตั้งแต่เปิดมาตอนนี้มีมากกว่า 150 ร้านค้าที่มาร่วมแล้ว โดยเป็นเจ้าใหญ่ๆ รวมไปถึงร้านค้าที่อยู่ในเครือเซ็นทรัลด้วย เช่น บีทูเอส เพาเวอร์บาย ซูเปอร์สปอร์ต ก็ขึ้นมาอยู่บนแพลตฟอร์มเราแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้สร้าง SKU มากกว่า 30,000 SKU แล้ว

ดังนั้นจึงอยากจะเชิญชวนผู้ที่คิดว่ามีสินค้าที่ตอบโจทย์องค์กร หรือธุรกิจต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอุตสาหกรรม ธุรกิจ HORECA ธุรกิจเมดิคอลต่างๆ เข้ามาอยู่บน OfficeMate’s Online B2B Marketplace

และช่วงนี้สินค้ากำลังมาแรงเป็นสินค้ากลุ่ม Healthcare กลุ่ม WorkAnywhere การทำออนไลน์ต่างๆ เฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ในบ้านและใช้ในเวิร์คสเตชั่นต่างๆ หรือ Food Packaging อาจจะเข้ามาแล้วตอบโจทย์กับลูกค้าของออฟฟิศเมทได้เลย

จิตรลดา กล่าวว่า ถึงแม้ OfficeMate’s Online B2B Marketplace อาจจะเป็นช่องทางหลักต่อไปในอนาคต แต่เรายังไม่ทิ้งสาขา เพราะเราต้องการสร้างความเป็นออมนิแชนแนล เพราะสิ่งที่จะแตกต่างระหว่างบริษัทที่เป็น Pure Marketplace เช่น คนที่ทำ B2C กับเรา คือ หน้าร้านจะเป็นตัวที่สร้างตัวเซอร์วิสต่างๆ เช่น การที่สามารถคลิกจากเว็บไซต์ แล้วก็สามารถที่จะไปรับสินค้าได้ที่ร้านค้า

หรือบางที่ร้านค้าเราจะผันตัวเป็นเซอร์วิสเซ็นเตอร์ เช่น การบริการต่างๆ ที่เรามีตอนนี้ การทำนามบัตร การออกแบบเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ตรงนี้ร้านค้าจะเข้ามามีบทบาทในการเป็น Experience ให้กับลูกค้าที่จะสามารถตอบโจทย์ในตัวที่ออนไลน์ทำไม่ได้ ทั้งนี้ การที่จะลดสาขาอาจจะมีความเป็นไปได้ แต่ตัวร้านค้าเองก็จะเปลี่ยนรูปแบบโมเดลของตัวเอง ผันไปให้เข้ากับสถานการณ์มากขึ้นด้วย  @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น