มุมมอง ซีอีโอ ครม.ใหม่ “เลือกคนให้เหมาะกับงาน”

ซีอีโอ เบนซ์ บีเคเค เผย ตอนนี้เวทีโลกยอมรับไทย หลังมีรัฐบาลเลือกตั้ง รอลุ้น ครม.ใหม่ จะ “ยี้” หรือ “ยิ้ม” ขอให้ได้ ครม.ดี มีความสามารถ เข้าใจการแข่งขันของโลก

สถานการณ์ทางเมืองหลังจากมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีเรียบร้อยแล้ว แต่การจัดตั้งคณะรัฐมนตรียังไม่เรียบร้อยนั้น “อนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล” ซีอีโอ เบนซ์ บีเคเค กล่าวในรายการ “ลับคมธุรกิจ” ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ว่า เร็ว ๆ นี้คงจะทราบ ซึ่งต้องเป็นไปตามขั้นตอน เนื่องจากเป็นระบบพรรคร่วมรัฐบาล ก็เหมือนประชาคมโลกทั่วไป ไม่ต่างกันมากนักในการฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลที่ต้องมีการจัดสรรตำแหน่ง แต่ขออย่างเดียวขอให้ได้คนที่เหมาะสมกับงาน และมีความสามารถ สามารถนำพาประเทศให้เดินไปข้างหน้าไปแข่งขันได้ บนเวทีโลกการได้มาซึ่งการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะชนะกันมากน้อยแค่ไหน ก็เป็นการได้มาอย่างถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย ในเชิงโครงสร้างตอนนี้เราเข้าเวทีโลกเหมือนเดิมแล้ว เพราะต่างชาติมีเสียงตอบรับเราดีแล้ว น่าจะเป็นบวกแล้ว มาดูในเชิงการเมืองคือในเชิงเทคนิค คือเรื่องการวางตัวบุคคลว่าจบออกมาแล้วจะ”ยี้” หรือจะ”ยิ้ม”

เข้าสู่เงื่อนไขประชาธิปไตย เวทีโลกยอมรับ ทำให้การค้าขายของไทยสะดวกขึ้น

“อนุพล” บอกว่า ในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีสหรัฐมักจะอยู่ 2 สมัยๆ ละ 4 ปี สมัยแรกจะเป็นช่วงฮันนีมูน ประชาชนและหน่วยงานจะสนับสนุน พอสมัยที่ 2 ก็จะปริ่มตลอดอย่างนี้ ถึงเขาจะมีเอกภาพ แต่ก็ไม่ผ่านง่ายๆ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็อยู่มาเกือบ 5 ปี พอสมัยที่ 2 คนก็อิ่มแล้ว ก็จะยากหน่อย ซึ่งมันก็ผ่านจุดที่ดีๆ มาเยอะแล้ว แต่จากจุดนี้ไปจะทำอะไรมันก็ดีแต่จะไม่ง่ายแล้ว ต้องทำให้ดีกว่า ชัดเจนและคมมากขึ้น

การที่มองว่ารัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ อาจอยู่ไม่ครบ 4 ปี และต้องยุบสภานั้น ก็เป็นเรื่องปกติของรัฐบาลผสม ถ้าเขาเห็นว่าไปไม่รอด จะชิงยุบสภาแก้ปัญหา เลือกตั้งใหม่ ก็เป็นสิทธิของเขา นี่เป็นเรื่องการเมือง เป็นเกมการเมืองอย่างหนึ่ง ไม่ใช่การบริหารประเทศ เพราะเมื่อบริหารประเทศไปแล้วเกิดปัญหาติดขัด หลายๆ ประเทศก็ยุบสภา ซึ่งในเวทีโลกเขามองว่ามันอยู่ในกลไกของการบริหารภายใต้ระบบประชาธิปไตย เขาไม่มีปัญหา

ส่วนการค้าจะติดขัดหรือไม่ เขาดูโครงสร้างเชิงเศรษฐศาสตร์มากกว่า ตนเองเคยคุยกับอดีตนายกรัฐมนตรีของไทยคนหนึ่ง เขาบอกว่าแค่เป็นไปตามระบบกลไกสากลยอมรับ มันเหมือนมีตั๋วเดินผ่านได้สบายแล้ว ถ้าเราอยู่บนเงื่อนไขประชาธิปไตย บนประชาคมโลกเมื่อไร เราจะได้ความสะดวก และความสะดวกก็คือหัวใจของความสำเร็จในวันนี้ ไม่ใช่ความเก่ง เราสามารถติดต่อเพื่อนบ้าน อารยะประเทศ เขาจะยินดีต้อนรับเรามาก

เพราะฉะนั้นกลไกต่างๆ เงื่อนไขต่างๆ เราจะได้เหมือนเขา ทำให้การค้าขายของเราสะดวกขึ้น เขาจะไม่ปฏิเสธเรา จะตอบรับเรา ในเวทีการทำงาน การประชุม การแลกเปลี่ยน ทุกอย่าง ภาครัฐเองก็จะทำงานได้ดีขึ้น ดังนั้นในเวทีประชาคมโลกไม่มีปัญหาแล้ว ส่วนในประเทศก็ไม่น่ามีปัญหาในเชิงโครงสร้าง แต่ในเชิงเทคนิคก็เป็นเรื่องความรักใคร่ชอบพอ จะให้โอกาสง่ายๆ ก็คงไม่ใช่

อย่างการเมืองในโลกนี้ จะเห็นว่าเสียงในสหรัฐก็ปริ่มๆ มานานแล้ว ชนะในสภาสูง แพ้ในสภาล่าง เขาถึงมีปัญหาชัตดาวน์ ซึ่งมันเป็นเรื่องของเทคนิค แท็กติกของการจัดการ แต่สิ่งแรกของบ้านเขาที่จะทำให้เห็นตอนนี้ คือ ฝ่ายค้านเขาจะหยุด เพื่อให้ฝ่ายที่ชนะเป็นคนออกมาจัดตั้งรัฐบาล แล้วให้ไปทำงาน จากนั้นจะเกิดปัญหา ความสำเร็จ ความล้มเหลว ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

หลังตั้งรัฐบาลได้ ก็ต้องสู้กับสารพัดปัญหา ใครมาเป็นรัฐบาลวันนี้ ไม่ใช่เรื่องง่าย

ซีอีโอ เบนซ์ บีเคเค กล่าวว่า การที่ฝ่ายค้านจะค้านตลอดเวลานั้นมันไม่มีประโยชน์ เพราะรัฐบาลเลือกตั้งจะตายก็เพราะการบริหารไม่ดี หรือฝ่ายค้านจะใช้เงื่อนไขกฎหมายมาล้มการเมืองก็ทำกันไป แต่ในเชิงธุรกิจนั้น ประชาคมโลกยอมรับแล้วว่าเราเป็นประชาธิปไตย และเราก็จะดูว่าเมื่อฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลได้แล้ว เราก็ยังต้องต่อสู้กับปัญหาประชาคมโลกเหมือนกัน คือ ปัญหาเศรษฐกิจ สงครามการค้า ภัยพิบัติ

ปัจจัยที่เหนือความคาดหมาย อื่นๆ หรือการแข่งขันกับเทคโนโลยีที่กำลังแข่งขันกันดิสรัป เราก็ต้องสู้กับเขา ตนเองว่าใครมาเป็นรัฐบาลวันนี้ก็ไม่ง่ายสักคน ประเทศไทยเราจะต้องช่วยกัน ที่ผ่านมา ภาคเอกชนไทยก็เติบโต โครงสร้างเข้มแข็งเป็นสากล เพราะฉะนั้นการเมืองควรยุติและเดินหน้าก่อน ส่วนเราก็ช่วยกันกำกับดูแล ทำให้คนที่ได้ต้องระมัดระวังในการที่จะเลือกตัวบุคคลมากขึ้น การตรวจสอบก็เป็นกลไกที่ดี เป็นเครื่องมือในการจัดตั้งรัฐบาลจากภาคประชาชน

ขณะที่สื่อโซเชียลก็ทำให้คนที่ได้ไป ต้องฟังเสียงเรา การที่เราออกมาช่วยกันตั้งข้อสังเกต ให้มุมมองตอกย้ำน้ำหนักเรื่องการแข่งขันของเวทีโลก     ก็อาจทำให้เราเกิดบิ๊กเซอร์ไพรซ์ในวันที่เขาตั้งก็ได้ ถ้าเขาตัดสินใจและได้เงื่อนไขเราไปประกอบ ทำให้ผู้นำที่ตั้ง ครม.บอกว่า   เราฟังเสียงประชาชน        และบอกว่าเราเข้าใจการแข่งขัน เรารู้แล้วว่านายกฯ เป็นใคร แต่วันนั้นที่เป็น กับวันนี้ที่จะเป็นใหม่ บริบทมันต่างกันมาก มันมีตัวชี้วัด มีตัวตรวจสอบ มีการแข่งขัน ตนเองว่าเขาก็คงฟังกระแสวิพากษ์วิจารณ์ต่างๆ อยู่ ก็ให้เขาได้ตัดสินใจ

ขอให้ได้ ครม.ที่ดี มีความสามารถ จะ “ยี้” หรือ “ยิ้ม” ต้องรอลุ้น

“อนุพล” กล่าวว่า ขอให้เราได้ ครม.ที่ดี มีความสามารถ เข้าใจการแข่งขันของโลก เข้าใจบทบาทและหน้าที่ของประเทศไทยในเวทีโลก ปากท้องของประชาชน การที่เรามีเวทีสาธารณะทางวิทยุ โทรทัศน์ โซเชียลมีเดีย ช่วยกันกระตุ้น ทีมที่จะตั้ง ครม.เขาก็ต้องฟัง ส่วนคนที่เล่นการเมืองเขามีส่วนได้ส่วนเสียเขาก็ต้องต่อรอง สุดท้ายก็อยู่ที่ผู้นำจะเลือก ตอนนี้แต่ละพรรคก็เรียกร้องเงื่อนไขอยากเป็นรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ตามเงื่อนไขที่เขาหาเสียงไว้ เมื่อเกิดแข่งขันในนโยบายเดียวกันหลายพรรค สุดท้ายก็ต้องดูว่าใครเหมาะสมที่สุด

จากการติดตามการบริหารงานและแบ่งงานของ ครม.ที่ผ่านมา ในบางกระทรวง รัฐมนตรีก็ไม่ได้เข้าไปล้วงลูกงานของรัฐมนตรีช่วย แต่บางกระทรวง นอกจากรัฐมนตรีจะเข้าไปล้วงลูกแล้ว นายกฯ ก็ยังเข้าไปล้วงลูกด้วย โดยนายกฯ ยังคงเป็นอำนาจสุดท้ายในการบริหาร และถึงแม้นายกฯ ไม่สามารถสั่งให้เปลี่ยนแปลงได้

แต่นายกฯ สามารถไล่ออกได้ วันนี้ก็ขอให้กำลังใจนายกฯ เพราะรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งไม่มีทางเหมือนรัฐบาลตอน คสช. เพราะฉะนั้นการทำงาน ความคล่องตัว การตอบสนองโดยภาคเอกชนและเจ้าหน้าที่รัฐก็คงไม่เหมือนกัน และถ้ามีการประกาศว่ามีการนำรายชื่อนายกฯ ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว หลังจากนั้น เราก็คงจะเห็นรายชื่อ ครม. จะ “ยี้” หรือจะ “ยิ้ม” ก็รอลุ้นกันอยู่ @

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น