เมื่อ”จีน”กลับมา ทำอย่างไรให้เป็นนักท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

Hands waving flags of China

การทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยแบบยั่งยืน ต้องเจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม ใช้โซเชียลมีเดียจีนให้เป็น ขายเรื่องความผูกพัน และการเป็นเจ้าบ้านที่ดี

“กิตติ พรศิวะกิจ” นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย กล่าวในรายการ “ลับคมธุรกิจ” ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ว่า ถือเป็นข่าวดีตั้งแต่เดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว ที่ตัวเลขท่องเที่ยวกลับมาเป็นบวก จนถึงเดือน ก.พ.ปีนี้ ก็ยังเป็นบวกอยู่ ซึ่งจากการคาดการณ์คิดว่าปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอีก 2 ล้านคน จากปีที่แล้ว 38.25 ล้านคน ตัวเลขน่าจะแตะ 40 ล้านคนนิดๆ โดยอยู่ที่ 40.37 ล้านคนบวกลบเล็กน้อย ถ้าเจาะลึกแต่ละภูมิภาค ซึ่งได้แยกจีนออกมาเป็น 1 ภูมิภาค จากเดิมอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ปีนี้คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนขึ้นมาอยู่ที่ 11.15 ล้านคน เป็นอันดับ 1 ซึ่งปีที่แล้ว นักท่องเที่ยวจีนอยู่ที่ 10 ล้านคนนิดๆ อันดับ 2.ประเทศในกลุ่มอาเซียน ซึ่งปีนี้คาดว่าจะแตะ 10 ล้านคนเป็นครั้งแรก ประมาณ 10.47 ล้านคน อันดับ 3.ฝั่งยุโรป ประมาณ 7.58 ล้านคน อันดับ 4.ภูมิภาคอื่นๆ รวมกัน ทั้งมิดเดิลอีสต์ แอฟริกา อเมริกา และอินเดีย มีอัตราการเติบโตที่สูง น่าจะเกิน 6.25 ล้านคน

นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย กล่าวต่อว่า ปีนี้จะโฟกัสไปที่นักท่องเที่ยวจากอินเดีย ซึ่งเติบโตขึ้นมาก ตั้งแต่มีการออกมาตรการ Free Visa On Arrival และมีแนวโน้มว่าอินเดียจะกลายเป็น New China เป็นปีที่ 2 มีโอกาสที่ประเทศเดียวนักท่องเที่ยวจะทะลุ 10 ล้านคน สำหรับการคาดการณ์ตัวเลขค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่างชาติ อันดับ 1.ฝั่งยุโรป เพราะจะมาอยู่ในเมืองไทยนาน เฉลี่ยอยู่เกิน 10 วัน ค่าใช้จ่ายประมาณ 84,000 กว่าบาท/คน อันดับ 2.ภูมิภาคต่างๆ 7 หมื่นกว่าบาท/คน และอันดับ 3.จีน 54,188 บาท/คน

สำหรับแนวทางที่จะทำให้นักท่องเที่ยวจีนมาเที่ยวไทยแบบยั่งยืน นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย กล่าวว่า สมาคมฯ และสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โฟกัสว่าในส่วนของจีนอย่ามองภาพรวม แต่ให้มองเจาะตลาด ซึ่งนักท่องเที่ยวจีนจะแบ่งออกเป็น 1. กลุ่ม FIT หรือ นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวเอง ซึ่งกลุ่มนี้เติบโตเร็วมาก ปีที่แล้ว หลังเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ต กลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่กลับมาเร็วมาก และกลุ่มนี้มีจำนวนเยอะมาก อัตราส่วนปีนี้ เกิน 40% ของนักท่องเที่ยวทั้งหมดของจีน ซึ่งมีไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ต้องทำการตลาดอีกแบบหนึ่ง ต้องใช้สื่อโซเชียลมีเดียของจีนให้เป็น ที่เน้นมากๆ จะเป็น สื่อวิดีโอ คลิปต่างๆ ที่น่าสนใจ เพื่อให้เขาไปแชร์กันต่อในวีแชท ซึ่งนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ 60% จะเป็นนักท่องเที่ยวที่กลับมาเที่ยวซ้ำ โดยครั้งแรกอาจมากับทัวร์ แล้วกลับมาเที่ยวกันเอง ซึ่งกลุ่มนี้จะมีการใช้จ่ายสูงกว่านักท่องเที่ยวที่มากับทัวร์ จะเน้นชอปปิงประมาณ 25% ของเงินในกระเป๋า

2.กลุ่มเมืองรองของจีน มีรายได้ปานกลาง เป็นกลุ่มที่มีอนาคตค่อนข้างดี ซึ่งเราต้องไปเจาะว่ามีเมืองไหนที่ยังเจาะไม่ถึง เพราะกลุ่มนี้มีไม่ต่ำกว่า 500 ล้านคน เป็นกลุ่มที่เติบโตเร็ว เป็นกลุ่มที่บริษัททัวร์ต้องไปทำความรู้จัก เพราะเขายังเที่ยวแบบทัวร์อยู่ และเป็นกลุ่มคนที่ยังไม่เคยเที่ยว บางคนเพิ่งมีพาสปอร์ต มาเที่ยวครั้งแรกคือเมืองไทย

นายกสมาคมการตลาดท่องเที่ยวไทย กล่าวต่อว่า การจะทำให้นักท่องเที่ยวจีนกลับมาเที่ยวซ้ำ ภาครัฐและเอกชนก็พยายามที่จะขายเรื่องความผูกพัน การเป็นเจ้าบ้านที่ดี ตอนนี้ก็เริ่มมีการติดต่อเข้ามาที่สมาคมฯ เรื่องการจัดกิจกรรม อีเวนต์ต่างๆ ทั้งการแต่งหน้า ทำอาหาร วิ่ง เป็นกิจกรรมที่คนจีนชอบ เพื่อให้เขาผูกพันและกลับมาเมืองไทยอีก ส่วนเรื่องมาตรการความปลอดภัยต่างๆ ตอนนี้ก็มีการพัฒนาขึ้น รวมถึงมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม เพื่อให้นักท่องเที่ยวดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น ที่ให้ข้อมูลข่าวสารต่างๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น