3 แนวทางสร้างความแตกต่างสำหรับธุรกิจ SME

คอลัมน์: สื่อสารการตลาดตามใจฉัน

โดย…บราลี อินทรรัตน์

เมื่อการทำการตลาดออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักที่สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารและเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ได้ง่ายขึ้น ทําให้เกิดการเเข่งขันทางการตลาดสูงมากขึ้น เพราะใครๆ ก็ทำ จะทำมากน้อย กี่โซเชี่ยลแพลตฟอร์มจำครบมั้ย ก็แล้วแต่เป้าประสงค์ของเจ้าของธุรกิจ เพราะบางเจ้าของก็กังวลว่า ถ้าทำการตลาดออกไปเยอะๆ อาจผลิตไม่ทันส่งให้ลูกค้าเอา จะเกิดความเสียหายได้

บทความนี้จะมาบอกกลยุทธ์วิธีสร้างความแตกต่างสําหรับธุรกิจ SME ที่ต้องการเติบโตพร้อมทั้งสร้างความแตกต่างให้กับแบรนด์หรือสินค้าของตัวเอง เพื่อดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างโอกาสทางธุรกิจ

1.จัดการอัพเดทคอนเทนต์ต่างๆ ลงบนช่องทางหลัก ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ

ผู้ประกอบการหลายคนมักคิดว่า จะแจ้งข่าวสาร ข้อมูล ลงไปในช่องทางโซเชี่ยลที่มีเฉพาะช่วงที่ทางแบรนด์มีอะไรใหม่ๆ อย่าง ออกสินค้าใหม่ ทำโปรโมชั่นใหม่ ถ้าไม่มีอะไรมาใหม่ก็จะไม่โพสต์อะไรเลย ปล่อยช่องทางนั้นทิ้งร้างไป ซึ่งแนวคิดนี้มักส่งผลเสียต่อทางร้าน ทางแบรนด์ได้ง่ายๆ เพราะเมื่อลูกค้าเลื่อนฟีด มาเจอโพสต์ร้านเราแล้ว ไม่เห็นมีอะไรใหม่ๆ มีข้อมูลอัพเดทเลย หรือเกิดอยากสั่งซื้อสินค้า แต่เห็นโพสต์ล่าสุด เมื่อ 6 เดือนที่แล้ว ทำให้ลูกค้่ชักไม่แน่ใจว่า ร้านนี้แบรนด์นี้ยังขายของอยู่รึป่าวน๊า

เพราะฉะนั้น การอัพเดทข้อมูลข่าวสารจากทางแบรนด์อย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 1 โพสต์ก็จะช่วยให้ลูกค้าเห็นเราสม่ำเสมอเช่นกัน ซึ่งเนื้อหาในการโพสต์ไม่จำเป็นต้องเป็นข้อมูลสินค้าที่เน้นวิชาการ ความรู้จริงจัง อาจจะเป็น การเขียนบทความ อินโฟกราฟฟิค วิดีโอสั้น มีมตลก ประเด็นไวรัลที่แมทซ์กับสินค้าเรา รูปภาพ ข้อความบนพื้นหลังสีสรรสะดุดตา แม้กระทั่งการส่งอีเมล์มาร์เก็ตติ้ง ทั้งนี้แล้วแต่ประเด็นที่เราต้องการ เพื่อให้มีความเคลื่อนไหวอัพเดทจากทางแบรนด์อย่างสม่ำเสมอนั่นเอง

2.ใช้งาน Google Ads เพื่อให้ลูกค้าค้นหาร้านเราเจอ

ถ้าคุณมีร้านค้าที่อยู่ที่ใดที่หนึ่ง แล้วเปิดขายให้คนทั่วไป หรือคนที่เป็นลูกค้าประจำเท่านั้นถึงจะเดินทางมาซื้อกับเรา หรือใช้บริการดิลิเวอรี่ต่างๆ ให้มาซื้อสินค้าร้านเรา ซึ่งในปัจจุบันนี้ ผู้คนค้นหาสินค้าและบริการด้วย เสริจเอนจิ้นอย่าง กูเกิ้ล TikTok (ใช้ค้นหาได้ในระดับนึง) แล้วก็กดดูรายการ ไปที่เว็บไซด์เพื่อสั่งซื้อ หากร้านเราไม่ได้เชื่อมต่อเว็บไซด์ใดๆ ลูกค้าต้องออกจากแพลตฟอรม์นั้น เพื่อมาสั่งซื้ออีกแพลตฟอรม์หนึ่ง อาจทำให้ลูกค้าหายไปในระหว่างขั้นตอนนี้ เพราะไม่สะดวก

แต่ถ้าเราลงโฆษณากับ Google Ads กูเกิ้ลจะช่วยให้เราเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะกูเกิ้ล แอด สามารถแสดงโฆษณาให้กับผู้ใช้ค้นหาคำหลักที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจในพื้นที่นั้นๆ

3.ดึงดูดลูกค้าหน้าใหม่ด้วยการเล่าเรื่อง (Story Telling)

การเล่าเรื่องมักเหมาะกับ แบรนด์ หรือสินค้า ที่มีที่ไปที่มา น่าสนใจ มีกำเนิดจากการคิดค้นเพื่อแก้ปัญหาต่างๆให้ผู้คน หรือเป็นมรดกตกทอดมาจากบรรพบุรุษ การเล่าเรื่องจัดว่า เป็นการเชื่อมต่อข้อมูล ความรู้สึกที่ลึกซึ้ง ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้อย่างดีมากๆ เพราะเมื่อลูกค้าได้รับรู้เรื่องราวที่เป็นเบื้องลึก เบื้องหลังของสินค้า หรือบริการที่เค้าได้ใช้แล้ว มันให้คุณค่าได้มากกว่า แบรนด์สินค้าที่ไม่มีเรื่องราวของตัวเอง เพียงแค่ผลิตสินค้าตามกระแส หรือผลิตเพื่อขายตามแนวคิดเจ้าของสินค้า

การเล่าเรื่องจะนำเสนอในรูปแบบคลิปวิดิโอสั้น ยาว หรืออยู่บนแคตาล็อกสินค้า เว็บไซต์ ก็ได้ทั้งนั้นเพียงแต่นำเสนอให้น่าติดตาม สนุกประทับใจ ให้คุณค่าแก่ผู้คนก็เยี่ยมมากแล้ว

และนี่ก็เป็น 3 แนวทางที่ช่วยแยกผู้ประกอบการให้มีความโดดเด่นที่แตกต่างกัน เมื่อแบรนด์คุณโดดเด่น ลูกค้าก็แยกคุณออกได้อย่างชัดเจนนั่นเอง


เกี่ยวกับผู้เขียน: อ.บราลี (ลี)

*มีประสบการณ์การเป็นผู้บริหาร บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาด

การสร้างภาพลักษณ์องค์กร ดูแลวางแผนกลยุทธ์ให้ลูกค้าทุกประเภทธุรกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่า 35 ปี

*ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษางานสื่อสารการตลาด ประชาสัมพันธ์ และการตลาดออนไลน์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ  องค์กร และ SME

*เป็นเจ้าของธุรกิจ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชราระดับยีนทั้งอาหารเสริม   และอุปกรณ์ความงาม

*มีคลาสแนะนำ “การทำธุรกิจโกลบอลออนไลน์บนแพลตฟอรม์ที่ขยายไปยังต่างประเทศ” ฟังฟรี!! ให้กับ SME  ที่สนใจธุรกิจออนไลน์ที่ทำตลาดต่างประเทศได้ ผ่าน ZOOM ตามวันและเวลาที่นัดหมาย

*มีคลาส สอน Line Official Account (Line OA) ไพรเวทคลาส 1 วันเต็ม

ติดต่อสอบถามแอดไลน์ที่นี่ค่ะ  https://lin.ee/smo5I3X

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น