ทำคอนเทนต์อะไรดีปีนี้?

คอลัมน์: สื่อสารการตลาดตามใจฉัน

โดย…บราลี อินทรรัตน์

ใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจ ผู้ประกอบการธุรกิจสินค้าหรือบริการมักจะตันคิดไม่ออกกับหัวข้อในการคิดคอนเทนต์ คิดงานไม่ออก ไม่รู้จะทำประเด็นไหนดี เรื่องนี้จัดว่าเป็นเรื่องคลาสสิคที่เป็นปัญหาของหลายๆ คนที่ทำธุรกิจบนออนไลน์ เพราะของมันต้องทำทุกวัน แล้วมันต้องทำอะไรดีล่ะ ถึงจะอยู่ในสโคปเดียวกับธุรกิจของเรา ไม่แปลกแหวกแนวออกไปกลายเป็นธุรกิจที่เราไม่ได้ทำซะงั้น

ก่อนจะมาถึงประเด็นการทำคอนเทนต์ ขอมาสรุปสั้นๆ ว่า คอนเท้นต์ที่ทำๆ กัน คืออะไร
คอนเทนต์ ก็คือ ทุกสิ่งที่คุณสื่อสารออกไปจากแบรนด์ของคุณผ่านช่องทางโซเชี่ยลมีเดียต่างๆ ที่มีลูกค้า มีผู้มุ่งหวังของคุณรวมกันอยู่ในช่องนั้นๆ ของคุณ ซึ่งคอนเทนต์จะเป็นได้ทั้ง ข้อความ รูปถ่าย คลิปวิดีโอสั้นและยาว สติ๊กเกอร์ สื่อสารส่งไปถึงผู้อ่านที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคุณนั่นเอง

แล้วปีนี้จะทำคอนเทนต์อะไรดี?
1.อันดับแรก เราก็ต้องวางเป้าหมายของคอนเทนต์นั้นๆ ก่อนว่า จะทำไปเพื่อสนองวัตถุประสงค์อะไร อย่างเช่น จะทำคอนเทนต์เพื่อสนับสนุนโปรโมชั่นที่แบรนด์กำลังจัดอยู่ในขณะนี้
ตัวอย่าง ถ้าคุณทำเครื่องดื่มชาเขียวมัจฉะ ทั้งร้อนทั้งเย็น และกำลังจัดโปรโมชั่น ซื้อ 1 แถม 1 คอนเท้นต์ที่คุณจะทำผ่านช่องโซเชี่ยลมีเดีย สามารถทำได้ประมาณนี้
• ดื่มชาเขียว ดีต่อสุขภาพยังไง?
• ดื่มชาเขียวหรือดื่มกาแฟ แบบไหนได้ประโยชน์กว่ากัน
• ดื่มชาเขียวร้อน หรือชาเชียวมัจฉะ ควรเลือกแบบไหนดี?
• โปรโมชั่นคุ้มค่า 1 แถม 1 คุ้มค่าสำหรับคอชาเขียว
จะเห็นว่า เมื่อได้หัวข้อหรือประเด็นออกมาแล้ว ก็มาดูว่า คอนเท้นต์นี้จะสามารถสนับสนุนโปรโมชั่นที่เราทำหรือไม่ ก็ได้ทั้งในแง่คอนเท้นต์ที่ให้คุณค่าแก่ผู้คน ให้ความรู้ในการดื่มชาเขียว และกระตุ้นโปรโมชั่นที่กำลังจัดขึ้นได้ทั้งสองอย่าง
คอนเท้นต์นี้ ก็มีเป้าหมายในการสนับสนุนโปรโมชั่นที่ร้านค้ากำลังจัดขึ้น

เมื่อได้วัตถุประสงค์ของคอนเทนต์มาแล้ว ถัดไปก็มาวางแผนต่ออีก

2.ว่ากลุ่มเป้าหมายของสินค้าเรา ธุรกิจเราเป็นคนกลุ่มไหน เพราะชาเขียวไม่ได้เหมาะสำหรับคนทุกกลุ่ม คนที่ไม่ดื่มชาเขียว คือคนที่ไม่ดื่มอะไรก็ตามที่มีคาเฟอีน หรือแพ้คาเฟอีน กินนิดเดียวก็เวียนหัว เพราะฉะนั้นก็ต้องเลือกกลุ่มเป้าหมาย ว่าเป็นกลุ่มที่ต้องการได้รับคาเฟอีนแบบอยู่ได้นานกว่ากาแฟ ต้องการความกระฉับกระเฉง ต้องการการช่วยเร่งเผาผลาญพลังงาน ทำให้ช่วยลดไขมันสะสมได้ดีขึ้น ก็ไปช่วยให้ลดความเสี่ยงจากคนมีปัญหาโรคหัวใจตีบ ชาเขียวกระตุ้นให้อินซูลินตอบสนองดีขึ้น ลดน้ำตาลในเลือด รวมๆคือ คนที่ชอบดูแลสุขภาพ เพราะชาเขียวมีดีต่อสุขภาพหลายอย่าง

เมื่อวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมายจะเห็นว่า กลุ่มเด็กในวัยเรียนก็ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายของคอนเท้นต์นี้ เมื่อสกรีนกลุ่มคนที่ไม่ดื่มชาเขียว ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้ ก็จะเหลือแต่กลุ่มที่เป็นเป้าหมายของแบรนด์ได้ชัดขึ้น

3.มาถึงขั้นการวางแผนเพื่อทำคอนเทนต์ จะทำรูปแบบใด
รูปแบบในการทำคอนเทนต์ มีให้เลือกหลายแบบ ตั้งแต่การเขียน การใช้รูป การใช้สีของแบรนด์
• ข้อความ พวกคำคม ใช้ฟอนต์ ใช้แบคกราวน์สีเด่นๆที่ดึงดูดคนให้เข้ามาอ่าน โดยไม่ต้องมีรูปภาพ
• โพสต์ข้อความที่เป็นได้ทั้งยาว และสั้น โดยมีรูปภาพประกอบ
• โพสต์เป็นรูปภาพอย่างเดียว จะรูปเดี่ยว หรือหลายรูปแบบสไลด์เลื่อนไปทางขวา
• โพสต์เป็นวิดิโอทั้งสั้นและยาว
• โพสต์เป็น GIF พวกมีมต่างๆ ภาพเคลื่อนไหวสั้นๆ

รูปแบบต่างๆนี้ เราจะเลือกใช้อย่างไหน ขึ้นอยู่กับว่า กลุ่มเป้าหมายเราเป็นใคร อายุเท่าไหร่ กลุ่มอาชีพแบบไหน ไลฟ์ไตล์เค้าเป็นยังไง และเรามีวัตถุประสงค์ในการทำคอนเทนต์นี้เพื่ออะไร? เราสามารถวางแผนงานเพื่อทำคอนเท้นต์ให้ตรงกับสิ่งที่เราต้องการได้เช่นกัน

4.ได้รูปแบบคอนเทนต์แล้ว จะเอาไปเผยแพร่ที่ช่องทางใด ต้องเลือกให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอรม์โซเชี่ยลมีเดียด้วย และต้องรู้ขนาดภาพ ขนาดวิดิโอที่ควรใช้เหมาะกับแต่ละช่องโซเชี่ยลมีเดียด้วย เช่น หากทำคอนเท้นต์ประโยชน์ชาเขียว แล้วมีเนื้อหามากกว่า 1 นาที ก็ควรเลือกไปลงช่องโซเชียลมีเดียที่รองรับความยาวได้ เช่นลงในเพจเฟซบุ๊คส์ ในช่องYouTube ช่อง TikTok แต่อาจไม่เหมาะกับ ช่องอินสตราแกรม ช่องไลน์ Voom ช่องX (Twitter) ช่องThreads ที่มีความยาวกำหนด ทั้งเนื้อหาและความยาววิดีโอ แต่ถ้าต้องการเอาคอนเท้นต์ที่ลงได้หลายช่อง ก็ต้องเลือกทำคลิปวิดีโอสั้น 1 นาทีขึ้นไป ก็สามารถลงได้หลายช่อง ตั้งแต่ FaceBook Reels, IG Reels, YouTube Short, Line Voom, TikTok หรือถ้าอยากลงจริงๆ ก็ต้องเอาคลิปความยาวเกิน 1 นาที มาตัดให้สั้นก่อน ถึงจะลงได้เช่นกัน

ที่สำคัญ เนื้อหาหรือพาดหัว หากสามารถปรับให้เหมาะกับแต่ละโซเชี่ยล ให้วัยของกลุ่มเป้าหมายด้วยจะดีมาก ตัวอย่างเช่น การใช้ภาษาพาดหัวที่เป็นศัพท์เฉพาะวัยรุ่น อาจไม่เหมาะกับการเอามาใช้กับช่องที่มีลูกค้าที่มีวัยเกิน 50 ปีขึ้นไป เช่น กินชาเขียวทั้งวันวันละหลายแก้วอาจ “ตุย” ได้ ตุยเป็นศัพท์ที่คนรุ่นใหม่ใช้กัน หมายถึง ตาย อาจไม่เหมาะกับการเอาไปโพสต์ในช่องที่มีคนสูงวัยเป็นกลุ่มหลัก ที่อยู่ใน line Voom หรือเฟซบุ๊ค เพจ

5.ทำคอนเทนต์ลงช่องเรียบร้อย ก็ต้องมาติดตามผลลัพธ์ วิเคราะห์และประเมินผล
เมื่อทำงานเสร็จส่งคอนเทนต์เสร็จแล้ว ต้องคอยดูฟีดแบคด้วย ว่ามีคนสนใจโปรโมชั่นชาเขียวหรือไม่ มีส่งสติ๊กเกอร์กลับมามั้ย หรือสอบถามข้อมูลสินค้า โปรโมชั่นเข้ามารึป่าว เพื่อที่จะให้แอดมินส่งข้อมูลสินค้า ส่งราคาหรือเสนอส่วนลดพิเศษให้ จนมาถึงการปิดการขายในที่สุด อย่ารอให้ลูกค้าทักมาถามหลายชั่วโมงแล้วค่อยไปตอบ เพราะลูกค้าอาจหายไปกับแบรนด์ของคนอื่นแทนได้เช่นกัน


เกี่ยวกับผู้เขียน: อ.บราลี (ลี)

*มีประสบการณ์การเป็นผู้บริหาร บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาด

การสร้างภาพลักษณ์องค์กร ดูแลวางแผนกลยุทธ์ให้ลูกค้าทุกประเภทธุรกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่า 35 ปี

*ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษางานสื่อสารการตลาด ประชาสัมพันธ์ และการตลาดออนไลน์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ  องค์กร และ SME

*เป็นเจ้าของธุรกิจ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชราระดับยีนทั้งอาหารเสริม   และอุปกรณ์ความงาม

*มีคลาสแนะนำ “การทำธุรกิจโกลบอลออนไลน์บนแพลตฟอรม์ที่ขยายไปยังต่างประเทศ” ฟังฟรี!! ให้กับ SME  ที่สนใจธุรกิจออนไลน์ที่ทำตลาดต่างประเทศได้ ผ่าน ZOOM ตามวันและเวลาที่นัดหมาย

*มีคลาส สอน Line Official Account (Line OA) ไพรเวทคลาส 1 วันเต็ม

ติดต่อสอบถามแอดไลน์ที่นี่ค่ะ  https://lin.ee/smo5I3X

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น