หลังจากถูกวิจารณ์มาเสียหลายปีในท่วงทำนองว่า ไม่เปิดกว้าง ไม่ทันโลกบ้าง ย้อนแย้งตัวเองบ้างล่ะ กรณีไม่ยอมปรับกฎเหล็กบางข้อที่ใช้ในการแข่งขันบาริสต้าชิงแชมป์โลก ล่าสุด “สมาคมกาแฟพิเศษ” ออกมาเคลื่อนไหวในประเด็นนี้แล้ว
ในเฟสบุ๊คของสมาคมกาแฟพิเศษ หรือ SCA วันที่ 22 ธันวาคม 2022 ได้มีการอัพเดตกฎและระเบียบหลายข้อสำหรับใช้ในการแข่งขันรายการ “เวิลด์ คอฟฟี่ แชมเปี้ยนชิพ” 4 รายการ ประจำปี 2023 ณ กรุงเอเธนส์ เมืองหลวงของประเทศกรีซ ซึ่งเป็นรายการที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการของ SCA โดยหนึ่งในกติกาใหม่ก็คือ การไฟเขียวให้ใช้ “นมทางเลือก” เช่น นมพืช และนมสัตว์อื่นๆ ในเมนูเครื่องดื่มกาแฟผสมนม ของรายการชิงแชมป์โลกบาริสต้าที่เอเธนส์ จากเดิมที่เคยควบคุมให้ใช้ได้เฉพาะ“นมวัว” เท่านั้น
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2023/05/1-1-1024x683.jpg)
เครื่องดื่มผสมนม หรือ Milk Beverage ในการแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้า ประกอบด้วยเอสเพรสโซหนึ่งช็อต ผสมกับนมวัวที่ผ่านการสตรีม ในปริมาณไม่เกิน 240 มิลลิลิตรต่อแก้ว เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มสามชนิดที่ผู้แข่งขันต้องเสิร์ฟให้กรรมการพิจารณา อีกสองชนิด คือ เอสเพรสโซ ช็อต กับ ซิกเนเจอร์ เบเวอเรจ
ทั้งนี้ ในงานเทศกาลกาแฟโลกที่เอเธนส์ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 มิถุนายน ปีนี้ จะมีการจัดประกวดเวิลด์ คอฟฟี่ แชมเปี้ยนชิพ 2023 ทั้งสิ้น 4 รายการ ได้แก่ World Barista Championship, World Brewers Cup, World Cup Tasters Championship และ World Cezve/Ibrik Championship
SCA แถลงไว้ในเฟสบุ๊คว่า อันที่จริงการอัพเดตกฎและระเบียบสำหรับการแข่งขันประจำปี 2023 นั้น มีการวางแผนกันมาก่อนแล้วแต่ดันไปติดปัญหาเรื่องการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้า เลยทำให้การเปลี่ยนแปลงกฎกติกาใหม่เลื่อนมาประกาศใช้ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม SCA ไม่ได้บอกว่า การอนุญาตให้เพิ่ม “นมทางเลือก” มาใช้ในการแข่งขันบาริสต้าปีนี้นั้น จะมีผลเชื่อมโยงต่อเนื่องไปถึงรายการ World Latte Art Championship 2023 ที่จะมีขึ้นในช่วงปลายปี ที่ไต้หวัน ด้วยหรือไม่
นอกจากนั้น กฎกติกาใหม่ยังห้ามใช้ “นมคน” (Human milk) เข้าแข่งขันด้วย บางท่านอ่านแล้วอาจหัวเราะและนึกขำ แต่ผู้เขียนเห็นว่า ห้ามไว้ก็ดีครับ มิเช่นนั้นอาจมีเรื่องเหนือตามคาดหมายเกิดขึ้นก็ได้ เพราะในเชิงพาณิชย์ มีการผลิตในรูปแบบนมผงจำหน่ายกัน
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2023/05/2-1-1024x538.jpg)
หลังจากแถลงอัพเดตกฎกติกาใหม่ของศึกเวิลด์ คอฟฟี่ แชมเปี้ยนชิพ ได้สักพัก เฟสบุ๊คของ SCA ก็ได้โพสต์ข้อความว่า “อัลโปร” (Alpro) แบรนด์แพลนต์เบสอันดับต้นๆของยุโรป จะเป็นสปอนเซอร์ผลิตภัณฑ์นมจากพืช ในรายการชิงแชมป์โลกบาริสต้าที่เอเธนส์ ทั้งยังบอกว่าบริษัทนมทางเลือกแห่งนี้ เป็นสปอนเซอร์มาอย่างยาวนานแล้วให้กับ SCA และการแข่งขันเวิลด์ คอฟฟี่ แชมเปี้ยนชิพ
การอัพเดตกฎกติกาในการประกวดกาแฟโลกของ SCA ครั้งล่าสุดนี้ คาดว่าจะส่งผลให้สมาคมกาแฟพิเศษของประเทศต่างๆ พลอยปรับกฎระเบียบการแข่งขันภายในประเทศตามไปด้วย เพื่อให้สอดคล้องต้องกัน เพราะผู้ที่ชนะเลิศการแข่งขันในเวทีระดับชาติ จะได้เป็นตัวแทนประเทศเข้าร่วมการแข่งขันในระดับโลกนั่นเอง
SCA เป็นสมาคมไม่แสวงหาผลกำไร เกิดจากการรวมตัวกันสมาคมกาแฟพิเศษแห่งสหรัฐอเมริกา (SCAA) กับสมาคมกาแฟพิเศษของยุโรป (SCAE) ประมาณปีค.ศ. 2016 มีสำนักงานอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา จัดได้ว่าเป็นสมาคมกาแฟพิเศษนานาชาติหรือของโลกก็ว่าได้
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2023/05/5-1-1024x683.jpg)
ภารกิจมากมายหลายหลากที่ดูเหมือนครอบจักรวาล ได้แก่ การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานกาแฟพิเศษ (Specialty coffee) จากต้นน้ำยันปลายน้ำ ตั้งแต่การปลูกกาแฟ, การโปรเซสกาแฟ, การคั่วกาแฟ, การผลิตเมล็ดกาแฟที่มีคุณภาพ, การพัฒนาตลาดกาแฟให้ดีขึ้น รวมไปถึงกำหนดมาตรฐานการคัปปิ้ง สกอร์ เพื่อเป็นเกณฑ์ในการประเมินคุณภาพกาแฟ และจัดการแข่งขันประกวดสุดยอดการชงกาแฟและบาริสต้าในเวทีระดับโลกด้วย
หลายปีทีเดียวที่ SCA โดนวิพากษ์วิจารณ์ในประเด็นไม่เปิดกว้าง และไม่อัพเดตให้ทันพฤติกรรมผู้บริโภคสายกาแฟ เนื่องจากมีกฎข้อบังคับให้ผู้เข้าร่วมการแข่งขันบาริสต้าชิงแชมป์โลก ใช้ “นมวัว”เท่านั้นในหมวดเครื่องดื่มกาแฟผสมนม ทั้งๆที่นมทางเลือก เช่น นมจากพืช ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นทุกขณะในฐานะผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพและช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน จนกลายเป็น “เทรนด์ใหม่” ของการดื่มกาแฟที่ใช้นมพืชแทนนมวัว ทั้งยังช่วยให้ผู้ที่แพ้นมวัวมีทางเลือกมากขึ้นในการดื่มกาแฟถ้วยโปรด เช่น ลาเต้,คาปูชิโน ,มัคคิอาโต้ และเมนูกาแฟนมตัวอื่นๆ
นอกจากนั้น บาริสต้าหลายๆคนที่อยู่ใน “กลุ่มวีแกน” ซึ่งงดเว้นการบริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทั้งหมด ดูจะฝืนใจตัวเองเป็นอย่างมากที่ต้องใช้หรือสัมผัสนมวัวในการแข่งขันทำเครื่องดื่มกาแฟนม บางรายแสดงออกด้วยการเลือกใช้นมพืชแทนนมวัว เป็นการไม่เห็นด้วย จนถูกดิสควอลิฟายไม่มีคะแนนให้ ตกรอบไปอย่างคับข้องหัวใจก็มี
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2023/05/3-1-1024x683.jpg)
เรื่องนี้กลายเป็นข่าวครึกโครมเมื่อปลายเดือนกันยายนปีที่แล้ว หลังจากเจ้าตลาดเครื่องดื่มนมข้าวโอ๊ตแห่งสวีเดนอย่าง “โอ๊ตลี่” (Oatly) ได้โพสต์ “จดหมายเปิดผนึก” ลงในโซเชียลมีเดียของบริษัท ส่งตรงถึง SCA เรียกร้องให้ปรับโฉมองค์กรเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 เนื่องจากกติกาที่ให้ใช้เฉพาะนมวัวในรายการบาริสต้าชิงแชมป์โลกนั้นถือว่า “ล้าหลัง” มากๆ ส่งผลให้การแข่งขันถูก “ผูกขาด” โดยบริษัทผลิตนมวัวรายใหญ่
แคมเปญการตลาดของโอ๊ตลี่ พยายามเชิญชวนให้ชาวเน็ตติดแฮชแท็ก #OutdatedCoffeeRules เพื่อกดดันไปยังสมาคมกาแฟพิเศษ เปิดทางให้ใช้นมพืชได้ในรายการบาริสต้าชิงแชมป์โลก ซึ่งสมาคมกาแฟพิเศษเป็นผู้ควบคุมดูแลกฎกติกา
ประเด็นที่แบรนด์นมข้าวโอ๊ตชื่อดังหยิบยกมาเน้นโจมตีสมาคมกาแฟพิเศษนั้น หนึ่งนั้นคือ “ปิดกั้น” ไม่อนุญาตให้ใช้นมพืชเข้าร่วมการแข่งขันเช่นเดียวกับนมวัว สองนั้น “ล้าหลัง” ไม่อัพเดตให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค สามนั้นได้แก่ “ย้อนแย้ง” ตัวเองกับนิยามคำว่ายั่งยืนที่สมาคมฯบัญญัติว่าเป็นหนึ่งในภารกิจก่อตั้งสมาคมฯ แต่กลับไม่เลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่า
โทบี้ วีดอน หัวหน้าทีมพัฒนาบาริสต้าของโอ๊ตลี่ ให้สัมภาษณ์สื่อออนไลน์ต่างประเทศว่า สมาคมกาแฟพิเศษพรีเซนต์ตัวเองว่าเป็นตัวแทนของผู้เชี่ยวชาญกาแฟ แต่เรากลับเห็นบาริสต้าหลายคนสละสิทธิ์ไม่เข้าร่วมแข่งขัน เพราะเป็นกลุ่มคนที่ไม่บริโภคผลิตภัณฑ์จากสัตว์
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2023/05/4-1.jpg)
ในเดือนพฤศจิกายนปีเดียวกัน เว็บไซต์ sprudge.com พาดหัวข่าวว่า บาริสต้าที่เข้าร่วมการแข่งขันภายในประเทศเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง “สมาคมกาแฟพิเศษแห่งเยอรมนี” ขอให้เพิ่มการใช้นมทางเลือกในการแข่งขัน
เรื่องมีอยู่ว่า ระหว่างเทศกาลกาแฟแฟรงค์เฟิร์ตเมื่อเดือนตุลาคม มีการจัดประกวดกาแฟระดับชาติของเยอรมนี 2 รายการคือ การแข่งขันชิงแชมป์บาริสต้ากับการแข่งขันชิงแชมป์ลาเต้อาร์ต ปรากฎว่า ในเวทีชิงชัยบาริสต้านั้น ผู้เข้าร่วมการแข่งขันชื่อ “มิโกลาจ โปเซียชา” ตัวแทนของร้านและโรงคั่วกาแฟ “ซูดฮัง”(Suedhang) ในทูบิงเกิ้น เมืองเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยศิลปะสไตล์โกธิค ใช้นมข้าวโอ๊ตในการทำเครื่องดื่มกาแฟผสมนม“คาปูชิโน่” ซึ่งขัดต่อกฎในการแข่งขันทุกระดับของ SCA
หลังจบการแข่งขัน โปเซียชาและร้านที่เขาเป็นบาริสต้าอยู่ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางอินสตาแกรม เรียกร้องให้สมาคมกาแฟพิเศษเยอรมนี เลิกปฏิบัติตามกติกาของสมาคมกาแฟพิเศษโลก และอนุญาตให้ใช้นมทางเลือกในการแข่งขันภายในประเทศ พร้อม “ขีดเส้นตาย” ให้เวลาสมาคมกาแฟพิเศษเมืองเบียร์จนถึงวันที่ 21 พฤศจิกายน มิเช่นนั้น จะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายควบคู่ไปกับการประท้วง หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงกฎดังกล่าว
“เพราะเหตุใดสมาคมกาแฟพิเศษเยอรมนีจึงมีความวิตกกังวลเรื่องที่ผู้ชนะการแข่งขันรายการในประเทศไม่สามารถเข้าร่วมการแข่งขันระดับโลก มากไปกว่าความรับผิดชอบทางจริยธรรม” ข้อความส่วนหนึ่งในจดหมายเปิดผนึก ระบุ
เข้าใจว่าเคสนี้แม้จะผ่านเส้นตายมาแล้ว คงไม่ต้องไปขึ้นโรงถึงศาลกันแล้วล่ะ เพราะทาง SCA ระดับโลกได้เปลี่ยนแปลงกติกาไปเป็นที่เรียบร้อย
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2023/05/6-1-1024x683.jpg)
กรณีมิโกลาจ โปเซียชา “แหกกฎเหล็ก” ใช้นมจากพืชเข้าร่วมการแข่งขันบาริสต้าระดับประเทศ เสมือนหนึ่งเป็นการประท้วงนั้น ไม่ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ย้อนกลับไปในปีค.ศ. 2019 บาริสต้าสายวีแกนชื่อ “คริส เทลเลซ” ก็เคยใช้นมข้าวโอ๊ตในศึกชิงแชมป์บาริสต้าของแคนาดามาแล้ว ด้วยความเต็มใจและอย่างมีเป้าประสงค์ ยังผลให้ได้รับ 0 คะแนนในรอบเครื่องดื่มผสมนม จนตกรอบไปในที่สุด ก่อนหน้านี้เขาเคยคว้ารองแชมป์มาแล้วในการแข่งขันเมื่อปี 2015
คริส เทลเลซ หวังเปิดประเด็นเพื่อให้มีการดีเบตแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันในวงการกาแฟ เกี่ยวกับกฎข้อบังคับของ SCA ที่อนุญาตให้ใช้เฉพาะนมวัวในการแข่งขันเท่านั้น ซึ่งหลังจากนั้น ก็เริ่มเกิดเป็นกระแสร้อนๆขึ้นมา จนในที่สุดทาง SCA ก็ปรับเปลี่ยนกฎกติกาใหม่ ไฟเขียวเพิ่มนมพืชและนมจากสัตว์อื่นๆได้ นอกเหนือจากนมวัว จะด้วยเหตุผลกลใดก็ตามแต่
ผู้เขียนเห็นว่า การเพิ่มนมทางเลือกเข้ามาในรายการชิงแชมป์บาริสต้า เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของวงการประกวดกาแฟทีเดียว และเป็นข่าวดีมากๆสำหรับบาริสต้าในกลุ่มวีแกน ว่ากันว่า ในโลกของอาหารและเครื่องดื่มนั้นไม่เคยหยุดนิ่ง แปรเปลี่ยนตลอดเวลา การมีข้อจำกัดผูกมัดหรือกรอบมากมาย รังแต่ขัดขวางความคิดสร้างสรรค์และจินตนการไปเสียเปล่าๆ ท่านผู้อ่านคิดเห็นประการใดกันบ้างครับ
facebook : CoffeebyBluehill