เปิดแผน “มาสด้า” เปลี่ยนผ่านสู่รถพลังงานไฟฟ้า เตรียมพัฒนา “Unique ASEAN Product”

สัมภาษณ์ คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไป ส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

โดย ดร.นงค์นาถ ห่านวิไล

เทคโนโลยียานยนต์ที่กำลังเปลี่ยนผ่านไปสู่รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นแล้วก็ทุกค่ายเตรียมแผนเปลี่ยนผ่านสู่การนำพลังงานอื่นๆมาใช้ผลิตรถยนต์แทนพลังงานแบบสันดาปภายใน หรือรถยนต์ที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิง

วันนี้เราจะมาเปิด Road Map ค่ายรถยนต์มาสด้า ซึ่งมีแผนเปลี่ยนผ่าน สู่การผลิตรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะแผนการพัฒนา “Unique ASEAN Product” หรือ ยนตรกรรมที่ตอบสนองลูกค้าในตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ

ชวนติดตาม บทสัมภาษณ์ คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้ช่วยผู้จัดการทั่วไปส่วนงานประชาสัมพันธ์ ฝ่ายการตลาดและรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท มาสด้า เซลล์ (ประเทศไทย)

ดร.นงค์นาถ : มาสด้ามีแผนเปลี่ยนผ่านสู่การผลิตรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าและ พลังงานอื่นๆอย่างไร

คุณอุทัย : ต้องบอกว่าวันนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว แต่ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ ทางมาสด้าเองก็มีแผนที่จะมุ่งสู่ความยั่งยืนเป็นแผนระยะกลางเพื่อที่จะมุ่งไปสู่ปี2030หรือปีที่เราเรียกว่า Sustainable Zoom-Zoom 2030 ซึ่งอีก 7 ปี ข้างหน้า จะก้าวไปสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน

ปัจจุบันนี้จะมีหลายๆตัวที่ทางมาสด้าเริ่มดำเนินการในเฟสที่1 ซึ่งเริ่มตั้งแต่ปีที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ที่เปิดตัวไปแล้วบางรุ่นในต่างประเทศ อาทิ Mazda CX-60 PHEV ในยุโรปและออสเตรเลีย, Mazda MX-30 e-Skyactiv R-EV ในยุโรป และ Mazda CX-90 PHEV ในอเมริกาและออสเตรเลีย เป็นต้น โดยผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่ในช่วงเฟส 1 ตามแผนการยกระดับการพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์และการผลิต ระหว่างปี 2022-2024

สรุป คือ มาสด้า มีรถยนต์ไฟฟ้าแล้ว มี hybrid ด้วย และในคันเดียวกันก็เรียกว่าใช้ทั้งตัวเครื่องยนต์สันดาป และแบตเตอรี่ไฟฟ้าไปในตัวด้วย แต่ว่าตอนนี้จำหน่ายในอเมริกาในยุโรป และในออสเตรเลียก่อนเพราะว่าในส่วนของ ECO SYSTEMS ของประเทศเหล่านั้น คงจะมีความพร้อมมากกว่าในแถบบ้านเรา เพราะว่าในยุโรปใช้รถไฟฟ้ากันมานานแล้ว

ดร.นงค์นาถ : เคยได้ยินข่าวว่า มาสด้า กำลังพัฒนารถยนต์ที่เหมาะกับผู้ใช้งานในแต่ละภูมิภาค คุณอุทัย ช่วยอธิบายหลักการทางธุรกิจตรงนี้หน่อย

คุณอุทัย : ในแต่ละประเทศและในแต่ละภูมิภาคมีความต้องการที่แตกต่างกัน รวมถึงงานที่จะนำมาใช้ผลิตเป็นพลังงานไฟฟ้าแล้ว ทางมาสด้า  มองว่าในแต่ละภูมิภาคต้องอยู่ภายใต้กรอบเวลาที่เหมาะสมแล้วก็เพื่อที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละภูมิภาค โดยเฉพาะในส่วนของบ้านเราที่อยู่ในส่วนของอาเซียน ซึ่งแน่นอนว่าทางมาสด้าเองก็กำลังพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่จะตอบโจทย์แล้วตอบสนองลูกค้าในภูมิภาคอาเซียน  เรา จะพัฒนาขึ้นมา Unique ASEAN Product หรือ ยนตรกรรมที่ตอบสนองลูกค้าในตลาดอาเซียนโดยเฉพาะ

ดร.นงค์นาถ : ผู้บริโภคในอาเซียน มีความต้องการโปรดักส์ด้านยานยนต์แตกต่างจากภูมิภาคอื่นๆ อย่างไร

คุณอุทัย : คือในกระบวนการ ของการพัฒนา จากบริษัทแม่ที่พัฒนาแพลตฟอร์มภายใต้ multi solutions technology คือสามารถปรับเปลี่ยนในแพลตฟอร์ม ปัจจุบันนี้เรามีทั้งsmall platform แล้วก็ large platform ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ขนาดเล็ก รถยนต์ขนาดกลาง รถยนต์ขนาดใหญ่ก็จะสามาถที่จะปรับปรุงตรงนี้หรือว่าพัฒนาเทคโนโลยีตรงนี้เพื่อใส่ในหลากหลายแพลตฟอร์มมากขึ้นมากกว่าปัจจุบัน

หมายความว่าต่อไปนี้ คนไทยเรา อาจจะได้ใช้รถยนต์ มาสด้า ที่เป็นรถพลังงานอื่นที่ไม่ใช่รถสันดาปที่แตกต่างจากยุโรป ต่างจากออสเตรเลีย อเมริกา เป็นแบบเฉพาะของคนในแถบนี้ ซึ่งการพัฒนายานยนต์ของมาสด้า คงควบคู่ไปกับเครื่องยนต์สันดาปภายใน  เพราะการพัฒนาเครื่องยนต์ของสันดาปภายใน ยังไม่ถึงขีดสุด อย่างที่มาสด้ามีโดยเฉพาะเรื่องของเทคโนโลยี สกายแอคทีฟ  (SKYACTIV TECHNOLOGY)  คือเทคโนโลยีใหม่ของมาสด้า เพื่อพัฒนาสมรรถนะของรถและเครื่องยนต์ให้มีกำลังแรง แต่ประหยัดน้ำมัน โดยมาสด้าได้นำนวัตกรรมใหม่ของเทคโนโลยีสกายแอคทีฟผนวกกับ เครื่องยนต์ ระบบเกียร์ บอดี้ และแชสซี ไว้ด้วยกัน เพื่อให้ทุกส่วนทำงานประสานสอดคล้องกัน และให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยได้รับการยอมรับค่อนข้างสูงในปัจจุบัน

ดร.นงค์นาถ คนไทย และ ชาวอาเซียน จะได้ใช้รถพลังงานไฟฟ้า มาสด้า ประมาณปีไหน

คุณอุทัย : ตอนนี้ ในกรอบเวลา ที่เราวางไว้ทั้งหมดก็คือ 3 เฟส ด้วยกัน คือ เฟสแรก ปี2022-2024 เฟสที่ 2 ปี 2025-2027 เฟสที่ 3 ปี 2028-2030 ซึ่งตรงนี้เองมาสด้าก็มองว่าสัดส่วนการจำหน่ายรถยนต์มาสด้าทั่วโลกก็จะเปลี่ยนไปเป็นรถไฟฟ้ามากขึ้น ประมาณ 25-40% ของปริมาณการขายรถยนต์มาสด้าทั้งหมดทั่วโลก

ดร.นงค์นาถ : มาที่งาน มอเตอร์โชว์ 2023 ที่ อิมแพค เมืองทองธานี  มาสด้าไปออกบูธไฮไลท์ของงานนี้มีอะไรบ้าง

คุณอุทัย : มีรถยนต์ไฟฟ้า มาสด้า MX-30 มาจัดแสดงให้ลูกค้าได้ชมกัน  และมีรถยนต์รุ่นอื่นๆที่พร้อมให้ลูกค้าเป็นเจ้าของแล้วก็จับจองได้ง่ายๆด้วยเงื่อนไขพิเศษก็มีตั้งแต่น้องเล็กสุดก็คือรถยนต์นั่ง MAZDA2 ที่มีให้เลือกทั้งSEDAN ทั้ง hatchback รวมถึง carbon edition   MAZDA3 ก็มีให้เลือก 3 รุ่นด้วยเช่นกัน คือมีครบทุกรุ่นในงานนี้

ดร.นงค์นาถ :  จองในงานนี้ มีของแถม ของ พรีเมียมอะไรบ้าง

คุณอุทัย : โปรโมชั่นของมาสด้า พิเศษมากๆในงานนี้  เช่น มาสด้า 2 ดาวน์เริ่มต้นไม่ถึง 3 หมื่นบาท มีโปรโมชั่นดอกเบี้ย 0% มีประกันภัยชั้น 1 และมีมาสด้าแคร์ให้ มาสด้าแคร์ คือ ฟรีค่าแรง ค่าอะไหล่ และของเหลวที่จะให้กับลูกค้า ส่วนรุ่นอื่นๆก็มี Mazda Ultimate Service (MUS) ที่จะเพิ่มให้กับลูกค้าด้วยและจองรถในงานตั้งแต่ 5,000 บาทขึ้นไป มีของที่ระลึกให้ เป็นเครื่องฟอกอากาศ สำหรับลูกค้าที่จองและออกรถภายในเดือนเมษายน เข้ากับยุคที่ PM2.5  โดยจัดส่งให้กับลูกค้าในวันที่รับรถจากโชว์รูม ซึ่งจองตอนนี้ ก็ สามารถรับรถได้เลยภายในเดือนเมษายนนี้

โดยงาน มอเตอร์โชว์ 2023 มีจนถึงวันอาทิตย์ที่ 2 เมษายน นี้ ที่ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น