“มาสด้า” โค้งสุดท้าย ’65 ชูรุ่น Carbon Edition ไฮไลท์ บุกตลาด

สัมภาษณ์: คุณอุทัย เรืองศักดิ์ ผู้อำนวยการ ส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสด้าเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

โดย ดร.นงค์นาถ ห่านวิไล

โค้งสุดท้ายปลายปีเป็นช่วงปิดยอดขายประจำปีของค่ายรถยนต์ต่างๆ และเป็นช่วง ฤดูขายสำคัญของตลาดรถยนต์แต่ละแบรนด์จึงต้องมีจุดขายที่แตกต่างกันไป พร้อมกับประชันโปรโมชั่นกันออกมาอย่างคึกคัก

ค่ายรถยนต์ “มาสด้า” ก็เช่นเดียวกัน ปีนี้ มีรุ่น Carbon Edition ออกมาสร้างความแตกต่างในตลาด พร้อมไฮไลท์ และ โปรโมชั่น แบบจัดเต็ม อย่างน่าสนใจ

ชวนติดตามจากทสัมภาษณ์ คุณอุทัยเรืองศักดิ์ ผู้อำนวยการ ส่วนงานประชาสัมพันธ์ บริษัท มาสด้าเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด

ดร.นงค์นาถ: โค้งสุดท้ายปลายปี 2565 มีอะไรใหม่ใน Mazda บ้าง

คุณอุทัย: ในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ทาง Mazda มีการเปิดตัวแนะนำรุ่นพิเศษ ซึ่งเราเรียกว่า Mazda carbon edition

คำว่า Carbon เป็นคอนเซ็ปต์ ของรุ่นพิเศษ ที่ทาง Mazda อเมริกาได้สร้างสรรค์ขึ้นมา แต่ถ้าใน ญี่ปุ่น จะใช้ Black edition ส่วนตลาดทางอเมริกาจะใช้ชื่อว่า Carbon edition ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกค้าดีมากๆ ทาง Mazda ประเทศไทย เลยออกรุ่นพิเศษนี้ ทีเดียว 4 รุ่น เพื่อตอบสนองความนิยมของกลุ่มเป้าหมายได้ทุกกลุ่ม

ดร.นงค์นาถ: มีรุ่นไหนบ้าง

คุณอุทัย: มีMazda 2 เป็นรุ่นรองTop มีทั้ง Sedan 4 ประตู และ Fastback 5 ประตู อีกรุ่น คือ  Mazda 3 มี 2 Sedan4 ประตู และ Fastback 5 ประตู ส่วน Crossover CX Series ของเราก็มี 2 ตัว คือ Mazda CX-3 และ CX-30 ซึ่งเราเอาตัว Top มาทำทั้งคู่ มี 2 สีให้เลือกคือ Polymetal grey และ Machine grey  สำหรับ Carbon edition เป็นสีที่ขายดีที่สุดของ Mazda ในปัจจุบัน มีตกแต่งภายนอก เป็นล้อลมดำ มีกระจกมองข้างสีดำ ส่วนตกแต่งภายในเป็นเบาะแดง burgundy มีความ Sport หรูหรา premium อยู่ในตัว

ดร.นงค์นาถ: ตอนนี้ มีงานด้านยานยนต์ที่จัดใหญ่แห่งปี คือ งาน Motor Expo 2022 ที่ อิมแพค เมืองทองธานี ในงานนี้ มาสด้า มีอะไรใหม่ๆ บ้าง

คุณอุทัย: ปีนี้ เรามีความแปลกใหม่ของบูธ Mazda เป็นดีไซน์ใหม่ที่นำมาใช้ในงานมหกรรมยานยนตร์ปีนี้เป็นปีแรก  ก็จะมีความแตกต่างจากหลายๆ ครั้งที่ผ่านมา ดีไซน์เป็นบูธชั้นครึ่ง เน้นสีดำที่ดูหรูหรา ตัดกับลายไม้ เพิ่มความโดดเด่นขึ้นมา จอ LED, Stage เวทีต่างๆ ก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด  การจัดวางรถแตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมา ซึ่งปกติเราจะเน้นโทนสีแดงค่อนข้างเยอะ บางปีก็เน้นที่สี Polymetal grey แต่ปีนี้มีความหลากหลาย แตกต่าง และโดดเด่น มากยิ่งขึ้น

อยากเชิญชวนไปชมบูธ มาสด้า ในงาน Motor Expo 2022 งานมีถึง วันที่ 12 ธันวาคม นี้ หรือถ้าไม่สะดวกก็แวะไปที่โชว์รูมหรือศูนย์บริการ Mazda ทั่วประเทศได้เป็นโปรโมชั่นเดียวกัน

ดร.นงค์นาถ: ที่ปรับเปลี่ยนแบบนี้เพราะอะไร มีวิจัยการตลาดมาซัพพอร์ตอย่างไร

คุณอุทัย: เป็นคอนเซ็ปต์ตามสิ่งที่เรากำลังสื่อสารกับลูกค้า จะคล้ายกับศูนย์บริการของ Mazda ที่ปัจจุบัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นสีดำ และข้างในตกแต่งด้วยลายไม้ เพิ่มความหรูหรา โอ่อ่ามากยิ่งขึ้น

ดร.นงค์นาถ: ถ้าไปซื้อหรือจองรถในงาน Motor Expo 2022 มีสิทธิพิเศษอะไรบ้าง

คุณอุทัย: ในช่วงนี้เราอยากให้คนไทยเป็นเจ้าของรถ Mazda ซึ่งหลายๆ รุ่น หลายสี หลายโมเดล เราสามารถส่งมอบให้กับลูกค้าได้เลย หลังจากจบงานนี้ ปัจจุบันระบบการส่งรถโชว์รูม สามารถเห็นได้เลยว่า รถคันไหนที่กำลังผลิตอยู่ สามารถหยิบมาได้เลย ถ้ามีลูกค้าอยู่ในมือ ภายในสัปดาห์เดียว ก็ส่งมอบให้ลูกค้าได้เลย

ส่วนโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้า อย่างเช่น Mazda 2 เงินดาวน์เริ่มต้นแค่ 29,000 บาท ก็ออกรถได้เลย แถมประกันภัยชั้น 1  รับประกันคุณภาพ 5 ปี 150,000กิโลเมตร ถัดมาคือ Mazda care 5 ปีค่าแรงที่เข้าเช็คระยะทุก 10,000 กิโลเมตร ไม่ต้องจ่าย อย่างที่ 3 ค่าผลิตภัณฑ์ของเหลว เช่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเบรก ก็ไม่ต้องจ่าย

ทั้งนี้ การที่มาสด้า มีแถมโปรแกรม Mazda ultimate service ในตัวรถ 5 ปี ทำให้มูลค่าของรถมือสองมาสด้า ที่เวลาลูกค้าจะขายต่อ เช่น ในปีที่ 3 หรือ 4 จะขาย โปรแกรมก็ยังอยู่กับรถ คือยังเหลืออยู่ก็จะทำให้ราคามือสองของลูกค้าดีขึ้น คนที่จะเป็นเจ้าของคนต่อไปเขาก็ยังได้สิทธิด้วย

ดร.นงค์นาถ: Mazda ตั้งเป้ายอดขายในงานนี้ไว้อย่างไร

คุณอุทัย: ท่านประธานฯ ไม่ได้ตั้งเป้าว่าเราจะมียอดจองเท่าไร แต่ท่านฝากบอกลูกค้าว่าถ้าอยากเป็นเจ้าของรถยนต์ดีๆ สักคัน ก็เชิญแวะมาที่นี่ได้เลย

ดร.นงค์นาถ: ช่วงนี้ รถยนต์ไฟฟ้า หรือ EV กำลังมาแรง Mazda จะเข้าสู่ตลาดรถยนต์ EV เมื่อไหร่ มีความพร้อมแค่ไหน

คุณอุทัย: Mazda มี EV รุ่นที่จำหน่ายอยู่ในตลาดต่างประเทศอยู่แล้ว เช่น MX-30 แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาที่จะทำตลาดในประเทศไทย เราก็พยายามศึกษาอยู่

ดร.นงค์นาถ: อีก 2 ปีข้างหน้าในปี 2025 จะเริ่มจำหน่าย EV ในประเทศไทยได้หรือไม่

คุณอุทัย: ใน mid-term plan ที่ทาง global strategy ของ Mazda ตั้งเป้าไปที่ปี 2030 ทาง Mazda จะมีผลิตภัณฑ์รถยนต์ไฟฟ้า แชร์ส่วนแบ่งการตลาดของ Mazda จะอยู่ที่15-40%

ดร.นงค์นาถ: เห็นมีข่าวการขยายศูนย์บริการและโชว์รูมตลอด สรุปปีนี้ ศูนย์บริการ และโชว์รูม Mazda มีเท่าไรทั่วประเทศ มีแผนขยายต่อไปอย่างไร

คุณอุทัย: ตอนนี้ Mazda มีโชว์รูม และศูนย์บริการที่เป็นมาตรฐานที่เป็นทั้งโชว์รูมส่วนขาย และส่วนบริการมีทั้งหมด 139 แห่ง ส่วนในกรุงเทพฯ มีอยู่ทั้งหมด 40 แห่ง นอกจากนี้มีแยกออกอีกต่างหาก คือ ศูนย์ซ่อมสีและตัวถัง (body& paint) ตอนนี้มีอยู่ประมาณ 50 แห่ง เราไม่ได้เพิ่มแค่ปริมาณเท่านั้น แต่คุณภาพการบริการ และกระบวนการทั้งหมดในการรองรับลูกค้าโชว์รูมก็จะเป็นมาตรฐานที่เปลี่ยนไป หลายท่านที่ใช้รถ Mazda ก็จะได้สัมผัสอยู่แล้วว่าเดินเข้าไปในโชว์รูม Mazda แล้วเหมือนกับอยู่ที่บ้าน อบอุ่นเหมือนคนในครอบครัว ไม่ว่ากระบวนการในการต้อนรับ การรับรถ รวมถึงห้องรับรองลูกค้า ถ้าหิวแวะไปที่โชว์รูมได้เลย มีอาหารอร่อยๆ ให้ทานตลอด


 

 

 

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น