bubble.inc รุกตลาดทุนดิจิทัล นำร่องปั้นโปรเจกต์เหรียญคริปโททองคำ

บับเบิล.อิงค์ ฟินเทคด้านสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัทไทยสัญชาติสหรัฐฯ ตั้งเป้าปั้นธุรกิจสินทรัพย์ครบวงจร ประเดิมโปรเจกท์แรกจับมือพาร์ทเนอร์ทองคำรายใหญ่ของโลกพัฒนาเหรียญคริปโททองคำ หรือ Gold Backed Digital พร้อมสานต่อโปรเจกต์บล็อกเชนด้าน privacy “bo.network”

นางสาวธัญวลัย อนันต์พิชัยเดช ผู้ก่อตั้ง และประธานกรรมการบริหารบริษัท บับเบิล.อิงค์ เปิดเผยว่า ในภาวะวิกฤตเศรษฐกิจของโลกขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็น ความปั่นป่วนในตลาดการเงินโลก ทั้งตลาดทุนและตลาดคริปโท ภาวะเงินเฟ้อเศรษฐกิจถดถอย หรือปัญหาความขัดแย้งระหว่างประเทศ ฯลฯ ล้วนทำให้หลายคนมองว่า ตลาด คริปโท นั้นจะไปต่อไหวหรือไม่ ทั้งวิกฤตคริปโทขณะนี้ก็สร้างความสั่นคลอน ในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซี่มากทีเดียว

มองว่ามรสุมเศรษฐกิจนี้จะยังคงมีต่อไปอีกอย่างน้อย 4 ปี กว่า Fed จะชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย และเศรษฐกิจอยู่ในระดับ Bottom Out และเงินเฟ้อคงที่ ฉะนั้นโปรเจกต์คริปโทที่จะอยู่รอดได้จะต้องสร้าง Real Yeild หรือผลตอบแทนที่แท้จริงแก่นักลงทุน และเป็นโปรเจกท์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของสังคม บับเบิ้ล.อิงค์จึงมุ่งไปที่การพัฒนาเรื่อง Asset Tokenization หรือการแปลงสินทรัพย์เป็นสินทรัพย์ดิจิทัล ที่จะช่วยเพิ่มโอกาสให้นักลงทุนเข้าถึงสินทรัพย์ประเภทต่าง ๆ ที่มีความหลากหลายได้ง่ายไม่ว่าจะเป็นอสังหาริมทรัพย์ หุ้น ผลงานศิลปะ ผลิตภัณฑ์ในโลกบันเทิงต่าง ๆ  โดยเราจะทำเหรียญคริปโททองคำ เป็นโปรเจกท์แรก”  

สกุลเงินดิจิทัลที่หนุนด้วยทองคำ Gold Backed Digital Token เป็นหนึ่งใน Investment Token ที่ถือเป็นทางเลือกใหม่ในการลงทุนที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้น ในการลงทุนในทองคำจริง โดยเฉพาะในช่วงฝ่าเงินเฟ้อและภาวะความขัดแย้งระหว่างประเทศทองคำจะถูกมองว่าเป็นสินทรัพย์คงคลังที่มีค่า

“หลายคนมองว่าทองคำเป็น Money Metals ด้วยซ้ำ การเคลื่อนไหวของราคาเหรียญ จะผูกโยงกับราคาทองคำในตลาดโลก หากมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นหรือลดลง ราคาของสกุลเงินดิจิทัลที่หนุนด้วยทองคำ ก็จะปรับตัวตามเช่นกัน ซึ่งจะช่วยลดความผันผวนที่เกิดขึ้นในตลาดสกุลเงินดิจิทัลและสร้าง Real Yeild ได้” ธัญวลัย กล่าว

นอกจากนั้น บับเบิล.อิงค์ ยังสานต่อโปรเจกต์บล็อกเชนด้าน privacy ชื่อ bo.network มีเป้าหมายเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่สินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมดและเชื่อมต่อสกุลเงินดิจทัล (cryptocurrencies)  กับการใช้งานจริงทางธุรกิจ

“bo.network หรือ Balance Overall network เป็นโปรเจกท์วิจัยที่โบทำตั้งแต่สมัยเรืยนที่เมืองไทย โดยมุ่งไปที่การทำธุรกรรมบล็อกเชนที่ ให้ทั้งความโปร่งใสและความเป็นส่วนตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์สังคมยุคปัจจุบัน ไม่มีใครอยากสูญเสียความเป็นส่วนตัวในการทำธุรกรรมต่าง ๆ ขณะเดียวกันก็ต้องการความโปร่งใสตรวจสอบได้ถึงที่มาของเส้นทางธุรกรรมนั้น ๆ หากเมื่อมีความจำเป็น”

bo.network นี้ จะเป็นเครือข่ายที่เชื่อมสินทรัพย์ดิจิทัลทุกประเภทในโลกนี้ได้ ไม่ว่าจะเป็น คริปโตเคอร์เรนซี่ ดิจิทัลโทเคนที่ทำงานแทนธนบัตรหรือเงินสดที่ออกโดยธนาคารในทุก ๆ ประเทศสามารถทำธุรกรรมที่มีความเป็นส่วนตัว ได้ โดยยังใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อรักษาคุณสมบัติในความโปร่งใส ตรวจสอบได้อยู่ ซึ่งข้อมูลธุรกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น จะถูกกำหนดการเข้าถึงเฉพาะร้านค้า และผู้ซื้อสินค้าเท่านั้นก็จะเปรียบเหมือนมือนการใช้ธนบัตร ในรูปแบบดิจิทัลอย่างแท้จริง

บับเบิ้ล.อิงค์ จดทะเบียนประกอบธุรกิจ ในสหรัฐอเมริกา เป็นบริษัทพัฒนาด้านเทคโนโลยีบล็อกเชนและสินทรัพย์ดิจิทัล ที่เริ่มก่อตั้งมาจากประเทศไทย ทั้งนี้บริษัทฯเพิ่งเสร็จสิ้นการระดมทุนในรอบไพรเวทฟันด์ ด้วยเม็ดเงิน 1,700 ล้านบาท โดยเงินลงทุนที่ได้รับนั้นจะนำไปใช้พัฒนาโปรเจกท์ ตั้งแต่การทำรีเสิร์ช การสร้างผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ การทำตลาดเพื่อเพิ่มมูลค่าของโทเคนธุรกิจที่บริษัทพัฒนา

“เรามองว่าสหรัฐฯเป็นประเทศที่เปิดกว้างทางโอกาส เอื้อต่อการสร้างฐานให้แก่เน็ตเวิร์คทางการค้าระดับโลก ตั้งแต่ฐานลูกค้าที่หลากหลายในทุกทวีป การเฟ้นหานักพัฒนาซอล์ฟแวร์ระดับแนวหน้าที่มาจากประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเป็นบริษัทคนไทยที่ลงสังเวียนแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีและสินทรัพย์ดิจิทัลเพื่อที่จะก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำโลก” ธัญวลัย ทิ้งท้าย


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น