“เซลล์ T พิฆาต” อัศวินปกป้องระบบภูมิคุ้มกัน เรื่องต้องรู้ เพื่อสุขภาพผู้บริหาร-คนทำงาน

สัมภาษณ์: ศ.ดร.พิเชษฐ์ วิริยะจิตรา CEO นักวิทยาศาสตร์ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชียน ไฟย์โตซูติคอลส์ จำกัด(มหาชน) หรือ APCO

โดยดร.นงค์นาถ ห่านวิไล

ดร.นงค์นาถ : ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายมีอะไรบ้าง

ศ.ดร.พิเชษฐ์ : ระบบภูมิคุ้มกันมีความสำคัญมาก ถ้าเรามีความรู้มากขึ้นมันก็ทวีความสำคัญกับตัวเรามากขึ้น จริงๆ ที่ง่ายที่สุด ก่อนที่เราจะติดเชื้อ จะเข้าไปทำร้ายร่างกายของเรา เราก็มีระบบภูมิคุ้มกันอยู่ที่ในตา เรามีน้ำตาที่จะย่อยสลายเชื้อแบคทีเรียได้ ในหูของเราก็มีขี้หูที่ป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือแมลงเข้าไป ในระบบท่อทางเดินหายใจของเราก็มีเมือกที่เคลือบอยู่ตามระบบทางเดินหายใจที่ไม่ให้เชื้อมันทะลุผ่านแบบเดียวกันก็มีซิเลีย(Cilia)กระพือไล่เชื้อพวกนี้ออกไปจากระบบของเรา ทางผิวหนังเราก็มีระบบที่ป้องกันไม่ให้เชื้อลุกลามเข้าไป ในกระเพาะเองก็จะมีกรดไฮโดรคลอริก(HCI)ซึ่งจะฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แล้วก็ลงไปถึงต่อมเหงื่อของเราก็มีความสามารถในการฆ่าเชื้อแบคทีเรียไม่ให้ขยายตัวได้ และเข้าไปในร่างกายเราต่ออีกนิดหนึ่งก็คือ กระเพาะปัสสาวะเราก็มีระบบการขับปัสสาวะให้พาแบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ออกจากร่างกาย ในช่องคลอดมีความเป็นกรดมากกว่าปกติ ก็จะทำให้เชื้อไม่เจริญเติบโตในนั้น นี่คือระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย

ซึ่งเราทุกคนก็เห็น และทราบดี แล้วที่เราอยากจะรู้ตอนนี้ก็คือว่า ถ้าหากเชื้อหรือสิ่งแปลกปลอมเหล่านี้มันทะลุผ่านระบบภูมิคุ้มกันภายนอกเข้าสู่ข้างในแล้วจะเกิดอะไรขึ้น วันนี้เราก็ทราบดีว่าเมื่อเชื้อทะลุเข้าไปสู่ร่างกาย เข้าไปในระบบกระแสเลือดแล้ว ก็จะมีการกระตุ้นเม็ดเลือดขาว2เม็ด เม็ดที่ 1 คือ B cell ซึ่งตัวนี้จะอยู่ภายนอกต่อมน้ำเหลือง และจะพัฒนาต่อสู่พลาสมาเซลล์ (Plasma cell) แล้วก็ต่อไปเป็นแอนติบอดี (Antibody) ซึ่งปัจจุบันเราก็ทราบดีว่าแอนติบอดีว่ามันทำอะไร มันจะจำเพาะเจาะจงไปจัดการกับแอนติเจน (Antigen) ซึ่งคือ เชื้อหรือสิ่งแปลกปลอมที่เข้ามา

ในขณะเดียวกันเราก็มีเซลล์ที่มีความสำคัญพอๆ กันหรือมากกว่าด้วยซ้ำ ก็คือ T cell ซึ่งตัวนี้อยู่ภายในต่อมน้ำเหลืองของเรา แล้วมันก็จะพัฒนาไปเป็น T cell ที่มีความสามารถในการกำจัดเซลล์ที่ติดเชื้อทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นเชื้อรา แบคทีเรีย ไวรัส หรือแม้กระทั่งมะเร็ง และที่สำคัญที่สุดของ T cell ก็คือ เซลล์ T พิฆาต หรือ Killer T cell ที่เราจั่วหัว

การทำงานของมันก็คือ จะวิ่งไล่หาเชื้อ ซึ่งจะมีความผิดปกติที่เยื่อหุ้มเซลล์(Cell membrane)ที่พื้นผิวของเซลล์ พอพบแล้วมันก็จะจับติดเลย เจาะรู และก็พ่นสารแกรนไซม์(Granzyme)เข้าไปแล้วทำให้เซลล์ที่ติดเชื้อนี้ย่อยสลายไปเลย เป็นวิธีการที่กำจัดเชื้อที่อยู่ในเซลล์ที่ติดเชื้อทั้งหลายก็จะย่อยสลายแตกไป แม้กระทั่งเซลล์มะเร็งที่ผิดปกติที่เยื่อหุ้มเซลล์เหมือนกัน

ดร.นงค์นาถ : Killer T cell นี่จะจับเฉพาะเซลล์ที่เป็นอันตรายหรือผิดปกติใช่ไหม

ศ.ดร.พิเชษฐ์ : ใช่ ถ้าเซลล์ปกติจะไม่แตะเลย นี่คือ ความมหัศจรรย์ของธรรมชาติคือ ว่าจัดการเฉพาะเซลล์ที่ผิดปกติโดยที่ไม่แตะเซลล์ปกติของร่างกาย เป็นเซลล์ T พิฆาตที่ทุกคนใฝ่ฝันอยากจะได้ถ้ามีความผิดปกติเกิดขึ้นในร่างกายเพราะมันไม่มีผลข้างเคียงใดๆ เลย สิ่งที่เกิดขึ้นตรงนี้เป็นวิวัฒนาการที่พัฒนากันมาหลายสิบปี และก็มีความพยายามที่จะเพิ่มเซลล์ T พิฆาตขึ้นมาได้ให้มีประโยชน์ในการช่วยรักษาสุขภาพร่างกาย

ก่อนที่จะเข้าเรื่องตรงนี้ อยากจะบอกว่าเราเองได้มีความสนใจเกี่ยวกับตรงนี้มานานแล้ว เราเริ่มจากการที่มีงานวิจัยสารสกัดจากมังคุด เมื่อ 43 ปีที่แล้ว แล้วก็พบว่ามันสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้ ตลอดจนจัดการกับเซลล์มะเร็งได้อย่างฉมังมาก ความพยายามตอนนั้นก็คือ เราจะทำอย่างไรให้มันเกิดประโยชน์ขึ้นมา เราก็มีการพัฒนาต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งได้มีการพัฒนาสูตรหนึ่งขึ้นมา ตอนนั้นก็หวังว่ามันจะช่วยจัดการกับการอักเสบคือ ไปฆ่าเชื้อ และป้องกันข้อเข่าเสื่อมไม่ให้มีอาการลุกลาม

ภาพ http://www.apco.co.th/

จากการที่เราทดสอบกับอาสาสมัครตอนนั้นก็พบว่า นอกจากอาการข้อเข่าเสื่อมจะดีขึ้นแล้ว อาการโรคกระเพาะก็ดีขึ้นด้วย นอนหลับดี ภูมิแพ้ก็หายไป เราเกิดความสงสัยว่ามันเป็นอย่างนี้ได้อย่างไร ก็เลยเข้าใจว่าสิ่งที่เราทำนี้ไม่ใช่เพียงวิ่งชนกับปัญหาแต่ตรงกันข้ามมันไปกระตุ้นร่างกายของเราให้ทำหน้าที่นั้นแทน นั่นคือ ไปกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวเราไปทำหน้าที่แทน เพราะร่างกายของเรามีเม็ดเลือดขาวประมาณ20,000ล้าน – 55,000ล้านเม็ด ซึ่งเยอะมาก นับไม่ไหว เพราะฉะนั้นเราก็เลยคิดว่าเราควรไปทำงานกับเม็ดเลือดขาวเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ทำงานกับภูมิคุ้มกันนี่แหละ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เราสังเกตผลพิกัดได้จากการทดสอบในอาสาสมัครในขณะนั้น เราก็มีการพัฒนาสูตร สูตรหนึ่ง จริงๆ ก็ได้หลายสูตรแล้ว สูตรรักษาช่วยคนที่มีปัญหาแพ้ภูมิตัวเองก็ได้ เช่น โรคSLE โรคพาร์กินสัน โรคสะเก็ดเงิน เราก็ทำได้

ในขณะเดียวกันเราก็มีอีกสูตรหนึ่งที่ไปกระตุ้นภูมิคุ้มกันในคนที่มีภูมิคุ้มกันน้อย ซึ่งจะมีโอกาสติดเชื้อ และมีโอกาสเป็นมะเร็งมากกว่าคนอื่น แล้วเราก็พบว่าจากการวิจัยร่วมกับศูนย์วิจัยหนึ่งของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ก็พิสูจน์ว่าสูตรนี้ที่เราพัฒนาขึ้นมาสามารถกระตุ้นเม็ดเลือดขาวT cellได้อย่างดีเลิศเลย เมื่อพอกระตุ้นไปแล้วนั้นมันจะไปทำหน้าที่เพิ่มอนุภาพของKiller T cell เพิ่มความสามารถของเซลล์ T พิฆาตให้มีมากขึ้น และมีอนุภาพมากขึ้นในการวิ่งไล่จับเซลล์ที่ติดเชื้อด้วยประสิทธิภาพที่มากขึ้น

เราก็ได้นำสูตรนี้ไปใช้กับผู้ติดเชื้อHIVนี้เป็นเชื้อไวรัสพอเข้าไปในร่างกายมันก็จะไปซ่อนตัวอยู่ในเม็ดเลือดขาว ตั้งแต่มีการค้นพบเชื้อHIVเมื่อ39ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบันนี้ ยังไม่มียาที่รักษาได้เลย และไม่มีวัคซีนที่ป้องกันได้ด้วย ได้แต่ทำให้มันไม่ขยายตัวโดยการใช้ยาต้านไวรัส แต่ก็มีผลข้างเคียงจากการใช้ยาเยอะมาก และก็ต้องใช้ตลอดชีวิต ผลข้างเคียงมันลุกลาม คุณภาพชีวิตก็จะไม่ดี

เราก็เลยคิดว่าเราสร้างภูมิคุ้มกันKiller T cellขึ้นมาแล้ว ก็ใช้กับคนกลุ่มนี้ ซึ่งเราก็พบว่าประสบความสำเร็จสูงมาก เมื่อวันเอดส์โลกปีที่แล้ว เราจึงประกาศว่านวัตกรรมของเรานี้ กระตุ้น T cell ซึ่งจัดการกับเชื้อHIVจนกระทั่งตรวจไม่พบเชื้อHIVในร่างกายโดยที่ไม่ต้องใช้ยาต้านไวรัส ซึ่งก็เป็นครั้งแรกของโลก และเป็นข่าวที่น่ายินดีสำหรับคนไทย เราได้มีโอกาสช่วยคนที่มีปัญหาเหล่านี้ให้มีภูมิคุ้มกันขึ้นมา จากงานวิจัยตรงนี้เองทำให้เราได้รับรางวัลหรือประกาศนียบัตรนวัตกรรมแห่งชาติไทย สำหรับผู้ติดเชื้อHIVและเอดส์สำหรับประเทศไทย และทั่วโลก

ดร.นงค์นาถ :  ทราบมาว่าส่วนหนึ่งได้ช่วยเหลือเขาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายด้วยใช่ไหม

ศ.ดร.พิเชษฐ์ : ใช่ ที่สำคัญได้มีโอกาสไปช่วยเด็กที่บ้านแกร์ด้า เป็นเด็กที่ได้รับเชื้อจากแม่ และก็ไม่มีใครช่วยดูแล และก็ไปช่วยตรงนั้น ตอนนี้ก็เป็นปีที่ 9แล้ว เราก็ได้ให้เขามีสุขภาพที่ดีตลอดมา จากการที่เราสามารถจัดการกับคนที่มีเชื้อHIVตรงนั้น เราก็มีความตั้งใจว่าเราได้กระตุ้น Killer T cellมาแน่นอน และเมื่อสักครู่อย่างที่บอกว่าKiller T cellนี่จัดการกับเชื้อ เซลล์ที่ติดเชื้อแล้ว ยังสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้ เพราะเซลล์มะเร็งก็มีตำหนิที่พื้นผิวเหมือนกัน ปัจจุบันนวัตกรรมที่เกี่ยวกับKiller T cellนี้มีความพยายามที่จะสร้างขึ้นมากำจัดมะเร็ง แต่ยังไม่ค่อยมีความสำเร็จมากมายเท่าไร ทำด้วยความยุ่งยาก และมีราคาแพงมาก ของเราได้มีการทดสอบ และมีการใช้กับผู้ที่เป็นมะเร็งตั้งแต่ปี 2008  14ปีมาแล้ว

เราได้ช่วยผู้ที่เป็นมะเร็งได้มีโอกาสมีชีวิตที่ดีขึ้น บางคนก็หายขาด บางคนก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม ยืดอายุ ก็เป็นสิ่งที่เราทำแล้วตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ก็ให้รางวัลนวัตกรรมดีเด่นให้กับบริษัทของเรา นี่คือ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นจากKiller T cell ในกลุ่มผู้ป่วยที่เป็นโรคมะเร็งก็ดี หรือ HIVก็ดี เมื่ออาการดีขึ้นแล้ว และข้างเคียงจากการใช้ยาต้านไวรัสก็หายไปอย่างรวดเร็ว ผลข้างเคียงจากการทำเคมีบำบัดก็เช่นกัน ปัจจุบันเราก็ได้ช่วยคนที่ทุกข์จากเรื่องนี้ได้เยอะแยะเลย สำคัญที่สุดคือ มันกำจัดเชื้อหรือเซลล์มะเร็งไปได้หมดเลย หลายพันคน ตรงนี้เองเราก็คิดว่ามันทำอย่างนี้ได้ เป็นเพราะภูมิคุ้มกันหรือจริงๆ มันเป็นมากกว่านั้นเพราะเราสังเกตเห็นว่าคนที่มีอาการดีขึ้นมีการใช้ต่อเนื่อง ผิวเขาสวย หน้าก็ใส มันเกินกว่าหน้าที่ของภูมิคุ้มกัน เลยคิดว่ามันน่าจะไปทำการซ่อมแซมส่วนปลายของโครโมโซม ซึ่งเรียกว่าเทโลเมียร์(Telomere) ซึ่งถูกทำลายด้วยยาต้านไวรัสหรือเคมีบำบัด

ที่ปลายของโครโมโซมก็คือเทโลเมียร์ซึ่งมีหน้าที่ปกป้อง DNA ภาพ : https://mylife100club.com/

ปกติมันจะถูกตัดสั้นทุกๆ ครั้งที่เซลล์มีการแบ่งตัว และเทโลเมียร์คือ ส่วนที่ป้องกันโครโมโซมซึ่งเป็นที่อยู่ของDNAและยีน(Gene)ไม่ให้มันถูกทำลาย ถ้าหากมีการบั่นสั้น มันก็จะเกิดโรคตามมา สิ่งที่เราสงสัยก็คือ ว่านวัตกรรมของเรานี้คงจะไปซ่อมสร้างเทโลเมียร์ เราก็เลยทำการทดสอบกับอาสาสมัครที่คุณภาพชีวิตปกติไม่เป็นโรคภัย แล้วเราก็พบว่าเราสามารถเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ได้อย่างสวยงามมากๆ จากการใช้เฉลี่ย5แคปซูลต่อวัน หรือประมาณ2.50ต่อวัน ก็สามารถเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ 408คู่เบสซึ่งเทียบเท่ากับอายุขัยที่ย้อนมาได้ 5.8ปี ภายใน8สัปดาห์

นี่คือ ผลเฉลี่ย บางคนน้อยกว่านี้บางคนก็มากกว่า เราก็คิดว่าเราจะไม่หยุดแค่การกระตุ้นKiller T cellแล้ว มันอาจจะทำประโยชน์ได้มากกว่าคนที่มีปัญหาจากโรคร้าย แต่คนที่กำลังเข้าสู่ช่วงสูงวัย ถ้าเราไปกระตุ้นเทโลเมียร์ขึ้นมา ก็จะมีโอกาสลดอาการป่วยจากความเสื่อมของอวัยวะต่างๆ ในร่างกายเพราะว่าทันทีที่เทโลเมียร์มันสั้น ตามปกติมันก็จะเกิดโรคซึ่งมีมากมาย และตอนนี้เราก็มีการพัฒนาสูตรเพื่อเพิ่มความยาวเทโลเมียร์

ทุกๆ คนมีเซลล์มะเร็งอยู่ในร่างกาย หรือ พร้อมที่จะเป็นเซลล์มะเร็ง แต่ถ้าหากเรามีการกระตุ้นเทโลเมียร์ เซลล์มะเร็งก็จะถูกกระตุ้นขึ้นมา และมันก็จะกลายเป็นเซลล์อมตะนี่คือ สิ่งที่เราเข้าใจแล้ว และสบายใจได้ว่าเราพัฒนาจากสูตรที่จัดการกับเซลล์มะเร็งโดยการเพิ่มKiller T cellอยู่แล้ว เซลล์มะเร็งไม่มีโอกาสที่จะพัฒนาได้เลย

ดร.นงค์นาถ : อาการLong COVID เกี่ยวข้องอย่างไรกับสิ่งที่ค้นพบ

ศ.ดร.พิเชษฐ์ : โอมิครอนคือ เชื้อไวรัส มันจะเข้าไปฝังตัวอยู่ในเซลล์ และก็จะทำลายเทโลเมียร์เหมือนกันผลคือ โรคทั้งหลายก็จะตามมา สิ่งที่เราพบ และวิจัยอยู่ในขณะนี้คือ เราสามารถลดอาการของLong COVIDได้โดยการไปเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ คนที่เป็นLong COVIDแล้วก็จะซ่อมสร้างโครโมโซมให้มันดี ก็จะหายจากLong COVIDได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งป้องกันและก็ช่วยให้หายได้เร็วขึ้น เราตั้งชื่อนวัตกรรมที่ซ่อมสร้างเทโลเมียร์นี้ว่า “นวัตกรรมวัฒนชีวา”

โดยวัตถุประสงค์เพื่อให้คนย้อนวัย ชะลอวัยในหนุ่มสาว แต่เป้าหมายใหญ่ๆ คือ เพื่อให้ผู้สูงวัยทั้งหลายมีอายุยืนขึ้น โดยที่ไม่ถูกโรคร้ายรุกราน คนที่หายจากอาการมะเร็งก็สามารถใช้ฟื้นฟูต่อไปได้ เพราะเราพิสูจน์แล้วชัดเจนว่าอาสาสมัครทุกคนที่ใช้ วัดแล้วKiller T cellเพิ่มขึ้นทุกคน และมีงานวิจัยที่ยืนยันชัดเจนว่าเทโลเมียร์ที่สั้นนี้ มันจะทำให้มีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ หัวใจล้มเหลวเป็นปัญหาที่ทำให้คนเสียชีวิตเป็นอันดับ1ของโลก ขณะนี้ พอๆ กับมะเร็ง โรคหลอดเลือดในสมอง(Stroke)อันนี้ก็สามารถป้องกันได้โดยการยืดความยาวเทโลเมียร์

โรคความจำเสื่อมหรืออัลไซเมอร์เกิดขึ้นจากการผิดปกติของเทโลเมียร์ ความดันโลหิตสูงชัดเจนมาก จากนวัตกรรมที่ใช้กับอาสาสมัคร ความดันโลหิตกลับมาปกติภายใน1เดือน อาการเบาหวานก็เช่นกัน โรคที่ว่ามาทั้งหมดนี้คือ เกิดจากความเสื่อมของร่างกายหรือเทโลเมียร์ที่สั้นลง แล้วเราจะแก้ได้โดยการเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ โรคอื่นๆ เช่น โรคตับ โรคไตที่เป็นปัญหาเรื้อรังเราก็สามารถลดตรงนั้นได้ และที่สำคัญเราสามารถลดการสะสมของไขมันหน้าท้อง และไขมันในเส้นเลือด โรคอ้วนแบบถาวรสามารถกำจัดได้โดยการเพิ่มความยาวของเทโลเมียร์ และที่ทุกคนอยากจะได้คือ ทำให้นอนหลับได้ดีขึ้น

เราคิดว่าคนที่อายุ 60ปีขึ้นไปยังมีผลิตภาพ(Productivity) ยังแข็งแรง มีประสบการณ์สูง ถ้าหากยังทำงานได้ต่อไป จะสร้างสังคมได้อย่างมากมาย อยากให้ผู้สูงอายุทั้งหลายไม่ต้องห่วงว่าจะเป็นภาระต่อสังคมถ้าคุณสามารถสร้างเทโลเมียร์ของตัวเองขึ้นมา และประสบการณ์ 60-70ปีที่มีอยู่ จะทำให้สิ่งที่คุณสร้างขึ้นมามีคุณค่ามากกว่าหนุ่มสาวที่ไม่มีประสบการณ์ เพราะปัจจุบันนี้เขาพบว่าคนที่มีผลิตภาพที่สูงๆ มักจะอยู่ที่ 70-80ปี

ดร.นงค์นาถ : สามารถเข้าไปหาความรู้เรื่องเหล่านี้เพิ่มเติมได้ในช่องทางไหนบ้าง

ศ.ดร.พิเชษฐ์ : https://www.bim100apco.com/  และ https://mylife100club.com/ 


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น