เปิดกลยุทธ์..เจ้เล้ง..สู้วิกฤติ โควิด อย่างไร?

สัมภาษณ์: “เจ้เล้ง” คุณอารยา ลาภชีวะสิทธิฉัตร เจ้าของห้างเจ้เล้ง ดอนเมือง

โดย ดร.นงค์นาถ ห่านวิไล

ดร.นงค์นาถ : เจ้เล้ง ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 อย่างไรบ้าง

เจ้เล้ง : โควิด-19 เที่ยวที่แล้วไม่สะเทือนเลย แต่ครั้งนี้จิตใจหดหู่มากเพราะไม่เคยเจอร้ายแรงขนาดนี้ และการระบาดระลอกใหม่ กระทบกับชนชั้นล่างทั้งหมด คือ คนทำงานที่ร้านได้รับผลกระทบมากๆ  ส่วนคนทำงานที่ทำด้านบัญชีและไอที อาจจะเจอปัญหานี้น้อย เราก็ไม่คิดว่าจะเจอแบบนี้ ระลอกที่แล้วไม่เจอ แต่ระลอกนี้มีคนติดโควิด-19 จากร้านขายอาหารข้างๆ ที่ขายอาหารปักษ์ใต้ เราจึง swab ตรวจทั้งร้าน สิ่งที่น่าเศร้าตอนนั้น คือ หาโรงพยาบาลให้ลูกน้องไม่ได้ ทั้งที่ทุกคนมีประกันสังคมหมด ลูกน้องชาวพม่า ก็มีประกันสังคมจ่ายกันคนละ 750 บาท ร้านจ่ายให้อีก 750 บาท ทุกคนจ่าย 1,500 บาทหมด ปรากฏว่าโรงพยาบาลไม่รับคนต่างชาติ  พนักงานที่ร้าน ตรวจเจอติดเชื้อ 10 คน แต่หาเตียงให้ไม่ได้ ลำบากมาก

ดร.นงค์นาถ : พนักงานที่ร้านเจ้เล้ง มีทั้งหมดมีกี่คน และติดเชื้อโควิดกี่คน

เจ้เล้ง : พนักงาน 100 กว่าคน ติดเชื้อไป 10 คน และพวกนี้เวลาเป็นก็ พารานอยด์ (Paranoid ) ด้วย เพราะฟังข่าวบอกว่าเป็นโรคนี้แล้วตาย

พนักงานพวกนี้ อยู่กับเรามาเฉลี่ย 10-30 ปี คนงานพม่าของเราที่ติดเชื้อ ไม่สามารถหาโรงพยาบาลให้ได้เลย ไม่มีที่ไหนรับ

ดร.นงค์นาถ : แล้วทำอย่างไร

เจ้เล้ง : ก็เปิดโรงพยาบาลสนามเองเลย บนฝั่งพลาซ่าชั้น 6 ลูกสาวคนโต ช่วยจัดการไปหาซื้อยาต่างๆ ทั้ง ยาแก้ไข้ แก้ไอ แก้เจ็บคอ ส่วนเจ้เล้งสั่งยาจีนมาให้ล้างพิษออกไป ยาฟาวิพิราเวียร์ (Favipiravir) ก็ไปหามา แต่หาไม่ได้ง่ายๆ ช่วงนั้นหายากมาก แล้วเรามีลูกน้องใกล้ตัวที่อยู่กันมา 30 กว่าปี เขามีอาการมาก บังเอิญลูกๆ รู้จักเพื่อนเยอะ พยายามติดต่อไปซื้อมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ หามาได้ 50 เม็ด ไปซื้อเครื่องออกซิเจนรุ่นใหม่ที่ใช้ไฟฟ้า หมอที่รู้จักกัน บอกว่าต้องใช้สเตียรอยด์ตัวหนึ่ง เราก็สั่งมาจากโรงพยาบาลใหญ่ ให้เอามาให้ เฉพาะค่ายาฟาวิพิราเวียร์ กับ สเตียรอยด์ ก็หลายหมื่นบาท ที่บ้านมียาจีน ยาญี่ปุ่น ยาไทย ยาฝรั่ง เวลาไปไหนจะซื้อยาเพราะลูกน้องเยอะ ถ้าเป็นอะไรมาจะได้เอาให้เขากิน ก็ให้กินยาเป็นสิบๆ อย่าง

ดร.นงค์นาถ : เห็นว่ามีการซื้อยาที่เป็นสมุนไพรจีนด้วยใช่ไหม มีประโยชน์อย่างไร เป็นตัวไหนบ้าง

เจ้เล้ง  : คนหนึ่งๆ ให้กินยาเป็น 10 อย่าง เราต้มยาจีนหม้อใหญ่ๆ เป็นยาจัดสด ปกติครอบครัวจะกินปีละ 1-2 ครั้ง เป็นยาล้างพิษ จะขับถ่ายออกมาเป็นสีดำ ตอนนี้ต้มทุกวันให้ลูกน้องกินก็ดีขึ้น ตอนนี้หายทุกคนแล้ว เราดูแลลูกน้องเอง หายเร็วกว่า ตอนที่เราส่งยาไปให้ที่ Hospital อีก เพราะบางคนต้องส่งไปที่นั่น  เพราะฉะนั้นทุกคนไม่ต้องกลัวว่าจะตาย โรคนี้รักษาหายได้ ตอนนี้ คิดว่าถ้าเกิดใครติดเชื้อก็จะไม่ส่งไป Hospitel แล้ว เรารู้แล้วว่าจะรักษาอย่างไร สิ่งแรกคือ กินยาล้างพิษก่อน

ดร.นงค์นาถ : แล้ว เจ้เล้ง มีการดูแลลูกค้าที่ไปใช้บริการที่ร้านอย่างไรบ้าง

เจ้เล้ง : ไม่ต้องห่วง เพราะเราตรวจโควิด-19 พนักงานเราทุกคน ตรวจก่อนจะมีอาการ ถ้าตรวจเจอเราก็จัดการแยกตัวไปรักษา เพราะฉะนั้นลูกค้าวางใจได้เลย อีกอย่างที่ร้านต้องทำความสะอาด เพราะเจ้เล้ง ก็พักอยู่ที่นั่น

ดร.นงค์นาถ : ก่อนหน้านี้ ปิดร้าน 14 วัน ตอนนี้กลับมาเปิดปกติแล้วใช่ไหม

คุณอารยา : ใช่ เปิดแล้ว คนเต็มร้านทุกวัน แต่เราก็เสียหายไปหลายสิบล้าน

ดร.นงค์นาถ : ตอนนี้ลูกค้าจะมั่นใจได้อย่างไร เมื่อไปซื้อของที่ร้านว่าจะปลอดภัย ไม่มีเชื้อ

เจ้เล้ง : เรามีการจ้างบริษัทมาพ่นฆ่าเชื้อ รมควันฆ่าเชื้อไป 3 รอบแล้ว มันไม่เหมือนห้างทั่วไป เพราะเจ้เล้งเองก็พักที่นี่ ห้องนอน ห้องลูกน้องทุกซอกทุกมุมเราฆ่าเชื้อทั้งหมด

ส่วนลูกค้าทุกคน ที่เข้ามาก็ต้องใส่ถุงมือ เราสั่งมาเยอะ ก่อนเข้ามาก็ต้องใส่แมสก์ ใส่ถุงมือให้เรียบร้อยก่อนหยิบเลือกของ

ดร.นงค์นาถ : มีกลยุทธ์ การตลาด การขาย อย่างไร ถึงอยู่รอดได้ ในภาวะแบบนี้  

เจ้เล้ง : ตัวเจ้เล้งเอง มีการเตรียมตัวล่วงหน้า เราต้องมีธุรกิจอื่น ที่จะมีรายได้แน่ๆรองรับ หลายธุรกิจที่ตั้งไว้รองรับที่ได้เงินแน่ๆ ยังสะเทือนเลย ถึงแม้ว่ารายได้จะน้อยกำไรน้อย ก็ต้องทำใจ

และก็ขอบอกว่า ตอนนี้ อย่าเพิ่งเริ่มทำธุรกิจอะไรทั้งนั้น ทำไปก็ขาดทุนเพราะคนกำลังซื้อไม่มี คนใช้เงินอนาคตกันหมด และคนที่เพิ่งจบใหม่สมัครบัตรเครดิตใช้เงินอนาคตกัน จ่ายเป็นแต่หาไม่เป็นก็เจ๊งกันล่วงหน้า ตอนนี้บริษัทส่วนหนึ่งที่ไม่มั่นคงไม่เสถียร ก็ปลดพนักงานออก ลดเงินเดือนบ้าง รายได้หนึ่งแสนเหลือสองหมื่นก็มี ขณะนี้ทุกคนต้องช่วยๆ กัน ตอนนี้ธุรกิจอะไรๆ ก็โดนหมด แม้แต่ร้านอาหาร ขายของกินก็ยังเจ๊ง

ดร.นงค์นาถ : อพาร์ทเม้นท์ที่ลงทุนย่านสุวรรณภูมิ คงจะได้รับผลกระทบด้วยใช่ไหม  และจากที่เจ้เล้ง เคยให้สัมภาษณ์ ธุรกิจนี้ใช้เงินสดในการลงทุน สูตรการลงทุนแบบนี้กลายเป็นข้อดีที่สามารถอยู่รอดในสถานการณ์วิกฤติใช่ไหม

คุณอารยา : ใช่ ถ้าคนที่ใช้เงินกู้ลงทุนช่วงนี้ก็จะเหนื่อยหน่อยเพราะเงินที่ได้จะไม่เท่ากับเงินที่เสีย ช่วงนี้เงินก็ไม่คล่อง แต่เราไม่ได้เสียอะไรมาก ถึงแม้ว่ารายได้จะลดลงไปหน่อยแต่ก็ยังอยู่ได้สบายๆ ลูกจ้างเราไม่มีใครโดนลดเงินเดือน ยังจ่ายเต็มทุกคน

ดร.นงค์นาถ : ขอข้อคิดในการทำธุรกิจช่วงนี้

เจ้เล้ง : อย่าเสพข่าวเยอะ ข่าวจริง ข่าวปลอมก็เยอะ มีที่มาหลอกให้ลงทุนก็เยอะ เจ๊งเพราะไปเสพข่าวปลอมที่ให้ลงทุน อย่าคิดอะไรที่ได้มาง่ายๆ นาทีนี้ยังมีเงินสำรอง ก็ค่อยๆ เก็บเงินนั้นกินไป อย่าเพิ่งลงทุน คุณลงทุนอะไรก็เจ๊ง ยืนยันได้เลย เพราะฉะนั้น เวลาทำอะไรทุกอย่าง อย่าหลงตัวเอง นาทีนี้คุณเก่งแค่ไหนคุณก็อยู่ไม่รอด พยายามเรียนรู้ในสิ่งที่เป็นความจริง อย่าเชื่อในสิ่งที่คนอื่นพยายามมาบอก อาจมาหลอกลวง เช่น มาหลอกให้ลงทุนโน่นนี่ ขอให้อยู่กับความจริง พยายามถนอมตัวเอง และประหยัด!


 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น