ปี 64 เป็นช่วงที่เรากำลังจะก้าวออกจากวิกฤติ เริ่มกลับสู่ความเป็นปกติมากขึ้น ทุกธุรกิจจะต้องมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งหลักการบริหารยุคใหม่ต้องปรับตัวได้ไว สร้างความสมดุล ให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูล และมองหาบิสเนสโมเดลใหม่
ทินกร เหล่าเราวิโรจน์ นายกสมาคมอุตสาหกรรมซอฟท์แวร์ไทย จำกัด กล่าวว่า ปี 2564 เป็นช่วงเวลาที่เรากำลังจะก้าวออกจากวิกฤติ เป็นช่วงที่บรรยากาศต่างๆ ความรู้สึกของคนในสังคมเริ่มเปิดรับ และเริ่มกลับมาสู่ความเป็นปกติมากขึ้นแต่ยังไม่ 100% กำลังซื้อก็ควรจะเริ่มกลับมา เพราะปี 64 ก็ไม่มีแนวโน้มที่กำลังซื้อจะตกไปอีก ผู้บริโภคยินดีที่จะเปิดรับ หรือมีอารมณ์อยากจะซื้อของมากขึ้น แต่ไม่ใช่อารมณ์ที่กลับไปปกติ เป็นการกลับออกมาจากวิกฤติแต่ไม่ได้กลับไปที่เดิม เหมือนเป็นโลกใหม่อีกโลกหนึ่ง
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/10/ทินกร-เหล่าเราวิโรจน์-195x300.jpg)
ผู้บริโภคจะไม่ได้ใช้ชีวิตแบบเดิม การทำงานแบบเดิมๆ บางอย่างเปลี่ยนไปเลย เช่น Work From Home หลายบริษัทลดพื้นที่ในออฟฟิศลง เปลี่ยนเลย์เอาท์ เปลี่ยนรูปแบบการทำงาน พนักงานไม่ต้องเข้าออฟฟิศทุกวัน ทำงานที่บ้านก็ได้ เมื่อคนทำงานอยู่บ้าน ก็อยากแต่งบ้าน อยากมีอินเตอร์เน็ตที่แรงขึ้น เราก็ต้องคอยจับทิศทางว่าอะไรบ้างที่เปลี่ยน เช่น ธุรกิจอาหาร เมื่อมีฟู้ดเดลิเวอรี่ เวลาเปิดสาขาใหม่ ก็ต้องดูว่าจำเป็นต้องเป็นร้านที่มีคนนั่งหรือเปล่า หรือเป็นสาขาที่เปิดไว้รับเดลิเวอรี่อย่างเดียว
ทุกธุรกิจต้องเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว เพียงแต่จะเปลี่ยนมากหรือน้อย ซึ่งคนทำธุรกิจต้องติดตามว่าความต้องการของผู้บริโภคจะไปทางไหน หรือเครื่องมือดิจิทัลเข้ามาเปลี่ยนแปลง เราต้องพยายามคิดหาสิ่งใหม่ๆ จากฐานเดิมที่เรามีอยู่ เช่น ได้ยินมาว่าปีหน้า จะมีบริษัทจัดทัวร์พาคนไปฉีดวัคซีนในต่างประเทศ ซึ่งเดิมบริษัทนี้เป็นบริษัททัวร์พาคนไปดูงานบิสเนสแมชชิ่ง ก็จะมีเครือข่าย มีบุคคลากรอยู่แล้ว เขาก็พยายามเปลี่ยนไอเดียไปทำธุรกิจที่มีโอกาสมากกว่า
ทินกร กล่าวถึงหลักการบริหารธุรกิจในยุคใหม่ว่า ข้อแรกต้องเป็นคนที่ปรับตัวได้ไว ซึ่งไม่ใช่แค่ผู้บริหารที่ปรับตัวไว แต่ทีมงานก็ต้องปรับไวด้วย ต้องถูกฝึกมา
ข้อสองต้องสร้างความสมดุล ต้องปรับตัวไวแบบให้มีสมดุล ไม่ใช่รีบทำไปหมด เพราะจะมีข้อเสียเหมือนกัน บางไอเดียเราคิดได้แต่อย่าเพิ่งทำ ถ้ายังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม หรือตลาดยังไม่พร้อม ต้องเร็วให้เป็น ช้าให้เป็น
ข้อสาม อยากให้ทุกธุรกิจให้ความสำคัญกับเรื่องข้อมูลให้มากขึ้น เพราะเมื่อมีการแข่งขัน เรื่องของข้อมูลยิ่งสำคัญมากขึ้น เทคโนโลยีดิจิทัลทำให้เราได้ข้อมูลต่างๆ เกี่ยวกับลูกค้า เราก็ต้องเอาข้อมูลพวกนี้มาคิดมาทบทวนอยู่ตลอดเวลา เพื่อจะหาอะไรที่เหมาะสมที่สุด เช่น จะออกโปรโมชั่นอะไรถึงจะประสบผลสำเร็จ
สุดท้าย ลองพยายามมองหาบิสเนสโมเดลใหม่ ยุคนี้การจะชนะหรือแพ้ไม่ได้อยู่ที่ใครผลิตดีกว่า หรือใครขายดีกว่า แต่อยู่ที่ใครมีโมเดลที่ดีกว่า เพราะโมเดลที่ดีกว่า จะทำให้ธุรกิจโตได้เร็วกว่า หรือมีกำไรมากกว่า
@