ยามลมหนาวมาเยือน ก็ให้สะเทือนใจใคร่ลางานออกจากบ้านไปท่องเที่ยวตามดงตามดอย สูดอากาศบริสุทธิ์ สัมผัสความหนาวเย็น ชื่นชมวิวทิวทัศน์ของขุนเขาแมกไม้ให้สุขสดชื่น กางเต้นท์นอนกลางธรรมชาติให้สบายอุรา คลายเหนื่อยเมื่อยล้าจากภารกิจหน้าที่การงานในเมืองกรุง กลางคืนนอนมองดาว เช้าๆตื่นขึ้นมารับอรุณด้วยการชงกาแฟหอมอร่อย ดื่มสักแก้วสองแก้ว
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/11/0-1024x768.jpg)
พูดถึงการชงกาแฟแบบแคมปิ้งกลางป่าเขาลำเนาไพรแล้ว มีอุปกรณ์หรือหม้อต้มให้เลือกมากมายหลายชนิดด้วยกัน ตามความชอบ รสนิยม และความชำนาญในการใช้ แน่นอนว่า กลางดงพงพนาย่อมไม่มีไฟฟ้าใช้ อีกทั้งแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติในบ้านเรานั้น อยู่ไกลออกมากจากตัวเมือง หลายๆแห่งลำบากและสมบุกสมบัน ต้องเดินเท้าเข้าไปแบกเป้กันจนหลังอาน
จึงจำเป็นต้องเลือกใช้อุปกรณ์ชงกาแฟที่ตอบโจทย์ นั่นคือ ทนทาน พกพาสะดวก ชงง่าย น้ำหนักเบา ไม่เป็นภาระยุ่งยาก และที่สำคัญได้…กาแฟรสชาติดีเอามากๆ
วันนี้ จึงขอแนะนำอุปกรณ์ชงกาแฟที่ได้รับความนิยมในหมู่คอกาแฟนักเดินทางทั้งหลายสัก 10 ประเภท ไม่ว่าจะเป็นการเดินป่า แคมปิ้ง หรือการท่องเที่ยวแนวคาร์แคมป์
1.ถุงผ้าดริปกาแฟของ Brew Buddy
หากต้องการอุปกรณ์ชงกาแฟที่ราคาไม่แพง มีน้ำหนักเบา แถมเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เหมาะยิ่งสำหรับพกพาติดตัวไปเดินป่าหรือแม้กระทั่งปีนเขา อันดับแรกต้องยกให้ Primula Coffee Brew Buddy ถุงผ้าไนลอนสำหรับกรองกาแฟสไตล์ใหม่ที่มีด้ามจับวงกลมเป็นพลาสติกทนความร้อน ถือเป็นอุปกรณ์ดริปกาแฟที่มีขนาดกระทัดรัด น้ำหนักเบา ทำจากวัสดุที่ไม่แตกหักง่าย แม้จะใช้หลักของการดริปกาแฟ แต่ไม่ต้องใช้กระดาษเป็นฟิลเตอร์กรองผงกาแฟคั่วบดและไม่จำเป็นต้องมีโถหรือหม้อสนามมารองรับน้ำกาแฟเหมือนการดริปกาแฟทั่วๆไป
วิธีการใช้ก็ถือว่าง่ายมาก เพียงวางหรือแขวนอุปกรณ์ดริปไว้บนแก้ว ใส่กาแฟคั่วบดระดับหยาบลงไปในถุงผ้ากรอง รินน้ำร้อนเล็กน้อยลงไปแบบพรมให้ทั่วเป็นวงกลมเพื่อให้กาแฟคล้ายแก๊สออกมา จากนั้นรินน้ำร้อนลงไปช้าๆ จนถึงระดับที่ต้องการ ปล่อยทิ้งไว้ให้กาแฟแช่ในน้ำร้อนประมาณ 1-2 นาที ได้เวลาก็ยกถุงกรองขึ้น แค่นี้ก็มีกาแฟสดรสเลิศให้ดื่มด่ำกันกลางป่ากลางเขากันแล้ว
อ้อ…ใครจะนำไปใช้งานในออฟฟิศหรือบ้านก็ได้เลย เพราะล้างทำความสะอาดง่ายมากๆ
จุดที่พึงสังเกตก็คือ อย่าปล่อยให้กาแฟหลับไหลในน้ำร้อนนานไป ด้วยจะทำให้เกิดรสขม เพราะกาแฟถูกสกัดออกมามากจนเกินไป หรือที่เรียกว่า Over-extracted นั่นเอง
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/11/1.jpg)
2.กรวยกรองแบบใช้ซ้ำได้ไม่เป็นขยะ
เป็นอุปกรณ์ชงกาแฟแบบดริปอีกประเภทที่กำลังได้รับความนิยมสูงมากในยุคสมัยที่ผู้คนหันมาเอาใจใส่ต่อปัญหาขยะล้นโลก ผลิตในเยอรมนี นอกจากจุดเด่นอยู่ตรงที่ใช้งานได้ง่าย น้ำหนักเบา สะดวกคล่องตัว และทำความสะอาดง่ายแล้ว ยังสามารถใช้ซ้ำได้ไม่เป็นขยะอีกด้วย ด้วยความกระทัดรัดแต่ใช้ชงกาแฟได้มากกว่าหนึ่งแก้ว จึงถูกอกถูกใจกลุ่มนักเดินทางท่องเที่ยวมากๆ
ส่วนวิธีชงกาแฟนั้น ออกแบบมาให้ทำได้ 2 แบบ ทั้งแบบดริปเหมือน Primula Coffee Brew Buddy และแบบสกัดด้วยการแช่กาแฟในน้ำร้อน (Immersion) ตามสไตล์ของเฟรนช์เพรส ขึ้นอยู่กับความชำนาญของแต่ละคน
ทรงของอุปกรณ์ชงกาแฟชนิดนี้ ทำเป็นรูปกรวยหรือกระบอก ตัวโครงที่มีหูแขวนทำจากวัสดุทนความร้อน ส่วนฟิลเตอร์ทำจากผ้าไนลอน ขั้นตอนการใช้นั้นไม่ยุ่งยาก แค่วางกระบอกกรวยลงไปในหม้อสนาม ให้หูจับแขวนไว้กับขอบหม้อทั้งสองด้าน ใส่กาแฟคั่วบดและน้ำร้อนลงไปแล้วปิดฝา ก็สามารถชงกาแฟคั่วบดดื่มแบบหอมๆกันได้แล้ว ทั้งยังประยุกต์นำไปใช้ชงชาร้อนดื่มได้อีกด้วย
กรวยกรองกาแฟสไตล์นี้ มีผลิตจำหน่ายกันหลายเจ้า ที่เห็นบ่อยๆ ใน Amazon.com ก็มี MSR Mugmate กับ Finum
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/11/2.jpg)
3.ดริปเปอร์ซิลิโคนพับเก็บได้
นับเป็นการออกแบบนวัตกรรมอุปกรณ์ชงกาแฟที่ได้รับการยกย่องมากในเรื่องเก็บง่ายและใช้งานสะดวก รูปร่างก็เหมือนดริปเปอร์ทรงกรวยทั่วๆไป แต่ความพิเศษอยู่ตรงที่เป็นดริปเปอร์ที่ผลิตขึ้นจากซิลิโคน ทำให้มีความยืดหยุ่นสูง สามารถพับเและยืดกรวยได้ หรือ Collapsible Coffee Dripper ตรงกลางดริปเปอร์ซิลิโคนเจาะเป็นรูให้น้ำกาแฟไหลผ่านเวลาดริป เมื่อพับเก็บแล้วเหลือเป็นพียงแผ่นดิสก์ขนาดกว้าง 14 ซม. และหนาเพียง 3 ซม.
วัสดุที่ใช้ผลิตต่างไปจากดริปเปอร์แบบดั้งเดิมที่ทำจากผ้า เซรามิค พลาสติกแข็ง และโลหะ อาจเรียกได้ว่าเป็นดริปเปอร์ชงกาแฟที่กินพื้นที่น้อยที่สุดในโลกก็ว่าได้ ณ เวลานี้
เป็นดริปเปอร์ที่ผลิตขึ้นมาจำหน่ายนานหลายปีแล้ว ตั้งเป้าเน้นไปที่กลุ่มนักแคมปิ้งหรือนักเดินทางโดยเฉพาะ แล้วก็ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง สนนราคาก็ไม่ได้สูงอะไรมากนัก แม้ภาพรวมจะเป็นอุปกรณ์ที่ดูบอบบางไปสักหน่อย แต่ประสิทธิภาพการใช้งานก็ไม่ธรรมดา สมบุกสมบันได้เช่นเดียวกับนักเดินป่า เรียกว่าถึงไหนถึงกัน เป็นเพื่อนกันไปตลอด
นอกจาก GSI Outdoors แล้ว ยังมีอีกหลายแบรนด์ที่ผลิตกรวยซิลิโคนแบบผับเก็บได้ออกมาจำหน่าย เช่น Kuissential ,X Brew ,Wolecok และ Mountain Mojo
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/11/3.jpg)
4.ดริปเปอร์สามขาของ GSI Outdoors
GSI Outdoors Ultralight Java Drip เป็นดริปเปอร์อีกแนวที่ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา พกพาสะดวก ใช้งานง่าย แต่ชงกาแฟได้รสชาติดีไม่น้อยหน้าดริปเปอร์สไตล์อื่นๆเลย และไม่ต้องใช้กระดาษกรองกาแฟเสียด้วย เลยกลายเป็นอุปกรณ์คู่ใจติดกระเป๋าของใครหลายๆคนไป โดยเฉพาะนักเดินทางท่องเที่ยวทั้งหลาย
เนื่องจากดริปเปอร์ทำจากถุงผ้าไนลอน จึงมีอายุการใช้งานได้ยาวนาน ไม่ต้องเปลี่ยนผ้ากรอง
ดูจากรูปลักษณ์แล้วค่อนข้างแปลกตาเอามากทีเดียว ตัวถุงกรองทำจากผ้าไนลอนสีดำ แต่ดันมีขาพลาสติกโพลีเอสเตอร์สีส้ม 3 ขาโผล่ออกมาจาก ทำหน้าที่หนีบขอบภาชนะ เช่น แก้วหรือหม้อสนามสำหรับดริปกาแฟ พิจารณาจากขนาดของดริปเปอร์ที่กว้าง ก็ชงกาแฟดื่มได้ 2-3 แก้วสบายเลย แถมตัวผุงผ้าไนลอนยังช่วยกรองคราบน้ำมันกาแฟได้อีกด้วย
เวลาจะดริปกาแฟก็กางขาตั้งดริปเปอร์ออก นำไปเกี่ยวหรือหนีบกับขอบแก้วหรือหม้อสนาม 3 ด้าน แล้วใส่กาแฟคั่วบดลงไป เติมน้ำร้อนสัก 30 วินาทีเพื่ออุ่นกาแฟ หรือบลูมกาแฟให้คายแก๊สออกมา เหมือนกับวิธีดริปกาแฟตามมาตรฐานทั่วไป
ที่สำคัญตัวขาตั้งนี้ สามารถพับเก็บเข้าไปในดริปเปอร์ผ้าไนลอนได้ ทำให้เหลือเท่าแผ่นดิสก์วงกลมบางๆ เท่านั้น
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/11/4.jpg)
5.AeroPress เพื่อรสชาติที่แตกต่าง
แม้ดูแล้วจะมีอุปกรณ์มากชิ้นเหลือเกิน แต่จริงๆแล้วเป็นวิธีชงกาแฟที่ง่าย มีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน ใช้หลักผสมผสานกันระหว่างการชงแบบเอสเพรสโซกับเฟรนช์เพรส คือ นำกาแฟคั่วบดแช่ลงในน้ำร้อน ทิ้งไว้ตามเวลาที่กำหนดประมาณ 1-2 นาที แล้วใช้มือกดสร้างแรงดันเพื่อรีดน้ำกาแฟออกมา แต่สามารถดึงรสชาติกาแฟออกมาได้ดีที่สุดวิธีหนึ่งเลยทีเดียว
วิธีชงกาแฟโดยใช้อุปกรณ์ Aeropress นั้น ทำได้ 2 วิธีด้วยกัน คือ 1.แบบดั้งเดิม ใส่ฟิลเตอร์ด้านล่าง เติมกาแฟคั่วบดลงในกระบอก ใส่น้ำร้อนลงไปคนให้เข้ากันช้าๆ เสียบด้ามกดลงในกระบอก รอ 1-2 นาที แล้วค่อยๆกดลงไปให้น้ำกาแฟไหลลงสู้แก้วหรือโถด้านล่าง
ส่วนวิธีชงแบบที่ 2.เป็นแบบกลับหัว ใส่กาแฟคั่วบดลงในกระบอก เติมน้ำร้อนเพื่อแช่กาแฟ คนเบาๆให้น้ำร้อนและกาแฟบดเข้ากัน ใส่ฟิลเตอร์ด้านบน ทิ้งไว้ 1-2 นาที แล้วพลิกกลับอย่างรวดเร็ว วางกระบอกลงบนแก้วหรือโถ เริ่มดันด้ามกดลงไปช้าๆ ขั้นตอนการชงทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที
ตัวอุปกรณ์ก็ทำจากพลาสติกอย่างดี ทนความร้อนสูง น้ำหนักเบา จึงเป็นอีกอุปกรณ์ขวัญใจของเหล่านักเดินทางทั่วโลก
![](https://www.smebiznews.com/wp-content/uploads/2020/11/5-768x1024.jpg)
สัปดาห์หน้า มาว่ากันต่อกับอีก 5 อุปกรณ์ชงกาแฟสายแคมปิ้งในฤดูท่องเที่ยวหน้าหนาวกันครับ
facebook : CoffeebyBluehill