มาสด้าเผยยอดขายรถยนต์เดือนกันยายนที่ผ่านมาเติบโตสูงสุดหลังวิกฤตโควิด-19 โดยรถยนต์นั่ง Mazda2 ยังคงครองความนิยมสูงสุด ตามด้วยรถปิกอัพ Mazda BT-50 PRO ที่ลูกค้าให้การตอบรับเป็นอย่างดีจากแคมเปญช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ทำให้มียอดจำหน่ายสูงเป็นประวัติการณ์ ตามมาด้วย Mazda3 และครอสโอเวอร์ยอดนิยม Mazda CX-30 ที่ยังคงร้อนแรงไม่แพ้ใคร ส่งผลให้มาสด้าปิดยอดขายไตรมาสที่สามของปีด้วยจำนวน 10,664 คัน เติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าจากไตรมาสที่สอง
นายชาญชัย ตระการอุดมสุข ประธานบริหาร บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า หากเปรียบเทียบระหว่างยอดขายรถยนต์มาสด้าในไตรมาสแรกและไตรมาสสองของปีนี้ จะเห็นได้ชัดเจนว่าในช่วงไตรมาสสองได้รับผลกระทบค่อนข้างรุนแรงจากการระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะเดือนเมษายนกับเดือนพฤษภาคม
หลังจากนั้นตลาดก็เริ่มฟื้นตัวอย่างเห็นได้ชัด อันเกิดจากดีมานด์ทั้งของลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่กลับมาใช้บริการที่โชว์รูมเพิ่มมากขึ้น มาสด้าจึงเดินหน้าตอบรับกำลังซื้อที่กลับมาด้วยการส่งมอบแคมเปญและโปรโมชั่นพิเศษให้แก่ลูกค้า
โดยเฉพาะแคมเปญการตลาดที่ช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลาม สามารถผลักดันยอดขายรถปิกอัพ Mazda BT-50 PRO เพิ่มสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ด้วยจำนวน 786 คัน ทำให้มาสด้าปิดตัวเลขยอดขายในไตรมาสที่สามได้สูงถึง 10,664 คัน ในขณะที่ในไตรมาสที่สองปิดตัวเลขอยู่ที่ 5,256 คัน หรือคิดเป็นการเพิ่มขึ้นถึงสองเท่า
สำหรับเดือนกันยายนที่ผ่านมา มาสด้าสามารถปิดยอดขายรวมได้จำนวน 3,917 คัน ซึ่งเป็นตัวเลขยอดขายที่สูงสุดตั้งแต่เดือนมกราคมเป็นต้นมา โดยแบ่งเป็นรถยนต์นั่งจำนวน 2,049 คัน รถอเนกประสงค์ครอสโอเวอร์เอสยูวีจำนวน 1,082 คัน และรถปิกอัพจำนวน 786 คัน เมื่อแบ่งเป็นรายรุ่น Mazda2 ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดจากลูกค้าด้วยยอดขาย 1,616 คัน ตามด้วยรถปิกอัพ Mazda BT-50 PRO จำนวน 786 คัน, Mazda CX-30 จำนวน 532 คัน, Mazda3 จำนวน 433 คัน, Mazda CX-3 จำนวน 269 คัน, Mazda CX-8 จำนวน 159 คัน และ Mazda CX-5 จำนวน 122 คัน ตามลำดับ
นายชาญชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ยอดจำหน่ายรถยนต์มาสด้าตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนกันยายน 2563 มียอดขายสะสมรวมทั้งสิ้น 26,072 คัน โดยแบ่งออกเป็นรถยนต์นั่งจำนวน 16,665 คัน รถอเนกประสงค์เอสยูวีจำนวน 7,653 คัน รถปิกอัพจำนวน 1,754 คัน
ถึงแม้ว่าปริมาณยอดขายยังห่างกับตัวเลขที่คาดหวัง แต่มาสด้ายังมั่นใจว่าในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ยอดขายจะทะลุตามเป้าหมายที่ประมาณ 40,000–42,000 คัน ในขณะที่ตลาดรวมของอุตสาหกรรมรถยนต์ไทยคาดว่าจะปิดตัวเลขอยู่ที่ประมาณ 750,000 คัน ทั้งนี้มาสด้าเตรียมพร้อมเสริมทัพด้วยรถอเนกประสงค์เอสยูวีรุ่นใหม่และรถปิกอัพ รวมทั้งกิจกรรมส่งเสริมการตลาดและการขายอย่างต่อเนื่องตลอดสามเดือนสุดท้ายของปีนี้
ทั้งนี้เพื่อเป็นการขอบคุณลูกค้าที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี มาสด้ายินดีมอบสิทธิพิเศษอีกมากมาย อาทิ ดอกเบี้ยต่ำสุด 0% ฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ขยายการรับประกันคุณภาพสูงสุด 5 ปี หรือ 150,000 กม. และฟรีค่าแรงเช็กระยะนาน 5 ปี หรือ 100,000 กม. ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 ตุลาคม 2563 เท่านั้น ที่โชว์รูมมาสด้าทั่วประเทศ