สื่อสารอย่างไรให้คนนิยมชมชอบ กรณีศึกษา ผลงานรัฐบาล

การสื่อสารต้องมีทิศทาง มียุทธศาสตร์ ต้องรู้ว่าจะสื่อสารอะไร และคนที่รับสารคือใคร รัฐบาลอาจสื่อสารผิดที่ ผิดเวลา ผิดจังหวะ ทำให้ประชาชนไม่เข้าใจ

รัฐบาลถูกวิจารณ์ว่าทำงานล่าช้า โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วม จ.อุบลราชธานี ซึ่งในมุมมองของกูรูด้านการประชาสัมพันธ์อย่าง นิมิตร หมดราคี CEO บริษัท 124 คอมมิวนิเคชั่นส คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า รัฐบาลมีหน้าที่ที่จะต้องสื่อสารกับประชาชนให้ชัดเจนกว่านี้ ซึ่งรัฐบาลมีความตั้งใจดี แต่วิธีการสื่อสารอาจไม่ทันการณ์ ไม่ถูกที่ ไม่ถูกเวลา เวลาทำอะไรพี่น้องประชาชนก็เลยรู้สึกว่าทำช้าไป

ส่วนเรื่องน้ำท่วม นิมิตรบอกว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นทุกปี เกิดขึ้นหลายที่ ส่วนใหญ่จะเกิดในพื้นที่ที่เคยเกิด เพียงแต่หน่วยงานต่างๆ ที่รับผิดชอบโดยตรง ที่ได้บูรณาการว่าจะบริหารจัดการน้ำแบบแบบองค์รวมนั้นเงียบไป และคนที่ต้องสื่อสารออกไปก็คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพราะฉะนั้นกรรมก็ไปตกอยู่กับนายกฯ ทำให้ถูกต่อว่าตลอด เพราะนายกฯ ทำตัวเป็นเซ็นเตอร์ในทุกเรื่อง

นิมิตร กล่าวว่า หลายเรื่องของรัฐบาลเป็นเรื่องดี แต่ไม่สามารถสื่อสารให้ประชาชนรับสารได้ เวลาจะสื่อสารต้องดูว่าคนฟังเป็นใคร วัตถุประสงค์ที่ต้องการสื่อสารออกไปคืออะไร ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจน แต่ทุกวันนี้ ไม่มีเป้าหมายในการสื่อสาร รัฐบาลทำเยอะ แต่ประชาชนไม่เข้าใจ เนื่องจากสื่อสารผิดที่ ผิดเวลา ผิดจังหวะไปหมด นายกรัฐมนตรีนึกอยากจะพูดอะไรก็พูด บางครั้งเป็นเรื่องที่คิดขึ้นมาแต่ยังไม่ได้ตกผลึกก็พูดขึ้นมา เช่น เรื่องการย้ายเมืองหลวง สื่อก็เอาไปขยายเป็นประเด็นต่อไป

“ในการสื่อสาร ยุทธศาสตร์จะต้องมี ทิศทางต้องชัดเจน ถ้ายังไม่มั่นใจอะไรอย่ารีบร้อนสื่อสาร จะได้ไม่ต้องเหนื่อย แล้วสื่อบ้านเราไม่มีใครควบคุมได้ เขามีสิทธิที่จะสื่อสารออกไป แล้วมันก็กลายเป็นประเด็นใหญ่ การที่นายกฯ พูดบ่อยไปหน่อย ก็ทำให้ท่านเสียจังหวะ พูดให้น้อยๆ หน่อยก็ได้ ” นิมิตร กล่าว

นิมิตร หมดราคี

นิมิตร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีก็เหมือน Chief Executive Officer ของบริษัท มีหน้าที่กำกับดูแลนโยบาย ก็ให้ฝ่ายปฏิบัติการไปทำตามนโยบาย ถ้าเขาไม่ทำตามก็มีสิทธิที่จะไปตามเรื่องได้ แต่ไม่ต้องไปเช็กทุกเรื่อง เพราะไม่ใช่หน้าที่ และไม่ใช่ให้นายกฯ ต้องออกมาทุกเรื่อง

ส่วนโฆษกรัฐบาลของไทยจะแตกต่างจากประเทศตะวันตก ที่ตำแหน่งนี้เทียบเท่ารัฐมนตรี และมีความสำคัญมาก เป็นคนที่กำกับดูแลนโยบาย และการปฏิบัติงานในการสื่อสารของรัฐบาลทั้งหมด เช่น โฆษกทำเนียบขาวของสหรัฐฯ จะเป็นคนกำหนดวิธีการ ขั้นตอน โดยจะแจ้งประธานาธิบดีให้ทราบว่าวันนี้จะแถลงเรื่องนี้ ได้ประสานงานกับรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว ประเด็นที่จะแถลงมีอะไรบ้าง เชิญสื่อมากี่สำนัก รายชื่อสื่อมีใครบ้าง พร้อมทั้งจัดที่นั่งให้สื่อ มีการเตรียมนักข่าวพร้อมคำถามไว้แล้ว เขาทำทุกอย่างเป็นระบบหมด พอถึงเวลาประธานาธิบดีก็ออกมาพูดตามโพย และจะไม่พูดออกนอกสคริปต์

ในต่างประเทศคนที่จะเป็นโฆษกรัฐบาล ส่วนใหญ่เขาใช้คนที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าต้องเป็นนักการเมืองเท่านั้น จะต้องมีความคล่องตัวสูงมาก สามารถสื่อสารได้เก่ง ระยะหลังในทำเนียบขาว หรือประเทศในยุโรป เขาใช้ที่ปรึกษาจากบริษัทประชาสัมพันธ์ซึ่งเป็นผู้อาสุโสไปทำงานเป็นโฆษกรัฐบาล

นิมิตร กล่าวว่า ตนเองเห็นใจโฆษกรัฐบาลในบ้านเรา เพราะเป็นนักวิชาการ และด้อยประสบการณ์ทางการเมือง ตำแหน่งโฆษกรัฐบาลควรเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์ ไม่ใช่นักวิชาการ เพราะบ้านเราการเมืองนำทุกอย่าง นอกจากต้องรอบรู้เรื่องการเมืองแล้ว ต้องมีพวกเยอะ มีฝีมือเยอะ มีของเยอะ รู้เรื่องสื่อมวลชนเยอะ สื่อนับถือเชื่อมือ พูดจาประสาสื่อเป็น ถ้าเทียบประสบการณ์กับโฆษกคนก่อนๆ อย่าง ดร.ไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่รู้เรื่องทุกอย่าง มีลูกล่อลูกชน รู้จักสื่อ และสื่อก็ให้ความนับถือ สิ่งที่พูดออกไปก็ได้เนื้อหา

ถ้าเป็นโฆษกรัฐบาลในต่างประเทศ ทุกคำถามจะเข้าไปที่สำนักโฆษกหมดเลย แล้วสำนักโฆษกจะเป็นคนจัดหาคำตอบ แต่ในบ้านเราดูเหมือนจะไม่มีอะไรไปหาสำนักโฆษก แต่จะไปหารัฐมนตรี นายกรัฐมนตรี หรือผู้ใหญ่ที่รับผิดชอบ ซึ่งเป็นวิธีการที่ไม่ถูกต้อง ใช้โฆษกรัฐบาลในทางที่ไม่ถูก และการสื่อสารในปัจจุบันไม่ใช่เชิงรุก เป็นเหมือนการรายงานข่าวธรรมดา เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว ควรจะต้องปรับ

นิมิตร กล่าวว่า ในกระบวนการสื่อสาร ถ้าสื่อสารผิดนิดเดียว ผู้รับสารก็เข้าใจผิด เมื่อเข้าใจผิดแล้วแก้ยาก และถ้าเป็นผู้บริหารระดับนโยบาย ระดับประเทศ ควรพูดอยู่ในกรอบนโยบายจะดีกว่า เพราะว่าไม่ได้เป็นผู้ปฏิบัติการ ไม่ได้ลงลึกในรายละเอียด แล้วจะต้องมีประโยคที่เป็นวรรคทอง เพื่อเป็นสิ่งที่ทำให้คนจดจำ

“เรื่องของการสื่อสารเลยกลายเป็นเรื่องใหญ่ของรัฐบาล แต่ผู้บริหารหลายคนคิดว่าเป็นเรื่องไม่ใหญ่ เป็นเรื่องง่าย โดยหลักการเราไม่สามารถควบคุมสื่อได้ ถ้าเขาสื่อสารออกไป แล้วไม่ถูก สังคมก็จะลงโทษเขาเอง แต่ในหน้าที่ของเราที่เป็นผู้สื่อสารออกไป เราต้องทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดก่อน” นิมิตร กล่าว

@

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น