วิธีคิด ใช้ชีวิต ทำธุรกิจอย่างไรในห้วงเศรษฐกิจขาลง

สถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อธุรกิจต่างๆ ทำให้การค้าขายไม่ดี หลายคนอาจโทษรัฐบาล

แต่นักธุรกิจอย่าง อนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล ซีอีโอ เบนซ์ บีเคเค กล่าวว่า ตนเองไม่โทษรัฐบาล และจากที่ได้พูดคุยกับเพื่อนๆ ในวงการธุรกิจหลายคนบอกว่าจะไปโทษใคร ถ้าเราไม่ทำเอง ประเทศเดินมาถึงจุดที่เหมือนกับหุ้นคือมันจะต้องมีแรงต้าน ไม่มีใครให้เราอยู่ง่ายๆ เพราะประเทศไทยไม่ได้อยู่คนเดียวในโลกและต้องแข่งขันกับต่างประเทศด้วย แล้วในเวทีต่างประเทศตอนนี้ก็ลำบากสาหัสสากรรจ์มาก

“ค่าเงินแข็งเกือบ 20-30% ส่งออกก็ไม่ได้เงิน อิมพอร์ตก็ไม่มีคนซื้อ คำถามคือใครผิด บางคนเจอสองเด้ง เพราะส่งออกไปประเทศที่กำลังมีปัญหาเศรษฐกิจ เช่น แถวยุโรป ตุรกี ค่าเงินของเขาขึ้นเป็น 2 เท่า ทำอย่างไรลูกค้าจะจ่ายเงิน หรือซื้อของเรา เพราะซื้อของแพงขึ้น ต้นทุนเท่าเดิมแต่ซื้อของได้เพียงครึ่งเดียว เงินที่จ่ายให้เราก็หายไป 20% เพราะอัตราแลกเปลี่ยน” อนุพล กล่าว

อนุพล ลิขิตพฤกษ์ไพศาล

เมื่อเศรษฐกิจมีปัญหา อนุพล กล่าวว่า ก็ต้องทำตามพุทธภาษิตที่ว่า “ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน” ไม่ได้โทษรัฐบาล แต่ดูที่ตัวเราก่อน ตรวจสอบอุตสาหกรรมที่เราอยู่ อย่างตนเองนั้นตลาดรถยนต์โดยรวมยังดีอยู่ เพราะเจ้าของแบรนด์มีนโยบายส่งเสริมการขาย กระตุ้นยอดขาย ส่วนสินค้าก็ต้องมีความหลากหลายเพื่อบริหารความเสี่ยง อย่างรถยนต์ก็ทำออกมาหลายเซกเมนต์ ทำทุกอย่างตามไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย ทำให้มีโอกาสขายได้เยอะหลากหลายกลุ่ม

จะต้องเก็บให้หมดทุกเม็ดทั้งในเชิงโพรดักส์ ที่มีหลายเซกเมนต์ และในเชิงบริการ เช่น จากเคยทำอาหารหน้าร้าน ก็ต้องทำข้าวกล่อง จากทำข้าวกล่องแล้วก็ต้องทำเดลิเวอรี่ เพราะลอจิสติกส์คือคิง ดิจิทัลคือความสะดวก คือตัวแทนของคำว่าสปีด เมื่อดิจิทัลซื้อง่าย ก็ต้องหาคนส่งง่าย

ดังนั้นจะต้องหาคำนิยามว่าอะไรคือคำว่าง่ายของงานที่เราทำ ธุรกิจที่เราทำ หรือบริการที่เราทำ แล้วเพิ่มประสิทธิภาพเข้าไป โดยผ่านช่องทางของการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “ดิจิทัล ดีไวซ์” อะไรที่ยังไม่คิดก็ต้องพยายามคิด และสิ่งที่คิดนั้นต้องเป็นตรรกะ ถ้าไม่ใช่ตรรกะ เป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ก็อย่าไปทำ ข้อสำคัญเราต้องทำ“แบรนด์ดิ้ง”ด้วย เพราะในอนาคตที่มีเรื่องของความเร็ว คนจะจดจำสินค้าได้จากแบรนด์

อนุพล กล่าวด้วยว่า เงินทุนที่เข้าไปในดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งตอนนี้ มีความเสี่ยงมหาศาล เพราะเป็นการละลายเงินที่เร็วมาก วันนี้ ออนไลน์ก็ต้องออกแคมเปญ แล้วไปลงโฆษณาในออฟไลน์ เพื่อดึงกลุ่มเป้าหมายกลับไปที่ออนไลน์ ซึ่งก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาล อย่างลาซาด้าที่ออกแคมเปญ วันที่ 9 เดือน 9 ก็ต้องไปซื้อโฆษณาในทีวีช่องต่างๆ และสื่อออฟไลน์

การแข่งขันในออนไลน์เป็นการแข่งขันในเชิงสปีดมาร์เก็ตติ้ง ต้องเร็วกว่า ดีกว่า มีความแตกต่าง ซึ่งใครๆ ก็ทำได้ ตอนนี้กองทัพมดที่เป็นออนไลน์ก็ต้องขอพรให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วย เพราะเข้าไปในโลกออนไลน์ เราไม่รู้ว่าลูกค้าอยู่ตรงไหน เพราะฉะนั้นสิ่งที่ต้องทำให้ดีก่อนทำออนไลน์ก็คือ การทำเรื่องของ Demography หรือเรื่องของประชากรศาสตร์

“ใครคือลูกค้าของคุณ สินค้าของคุณแมทช์กับใคร ใครจะซื้อสินค้าคุณ เพราะฉะนั้นคุณต้องเขียนตรงนี้ให้ชัดเจนที่สุด
นิยามสงครามให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปรบ ถ้าเราทำเฟซบุ๊กตัวเอง เราต้องทำเรื่องทาร์เก็ตมาร์เก็ตติ้งก่อน แล้วค่อยทำสินค้า” อนุพล กล่าว

ส่วนประชาชนทั่วไป สิ่งที่ควรจะทำในภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว คือ 1.การบริหารงบประมาณของตัวเอง โดยทุกคนต้องทำบัญชีส่วนตัว บัญชีครัวเรือน จะได้รู้เรื่องรายรับ รายจ่าย 2.ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการ ควบคุมให้เป็นไปตามแผนที่คิดไว้

“อยากให้กำลังใจทุกคน ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ทำ อย่าท้อ อย่าถอย อยู่อย่างมีสติ พิจารณา หาความรู้ เพราะข้อมูลจะพัฒนาเราได้ แล้วเราก็จะผ่านไปได้ ช่วงนี้เป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่ยุคประสิทธิภาพเพื่อจะให้ได้ประสิทธิผลที่ดี จะทำอะไรก็ให้ลงมือทำเลย ในที่ที่แย่อาจมีคนทำรวยได้ และในที่ที่ดีก็อาจมีคนทำเจ๊งได้ เราต้องขยันเดิน ขยันหา อย่าหมดกำลังใจ ต้องให้กำลังใจตัวเองทุกวัน” อนุพล กล่าว

@

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น