MAP Food จากร้านอาหาร สู่โรงงานผลิต OEM ควบคู่สร้างแบรนด์

ภาพจาก Facebook : MAP Food Co.,Ltd.

MAP Food ธุรกิจที่ต่อยอดจากร้านอาหาร สู่การเป็นโรงงาน OEM เคล็ดลับความสำเร็จ ไม่ใช่แค่รับจ้างผลิต แต่ต้องสร้างแบรนด์ตัวเองควบคู่ไปด้วย

ธุรกิจหลายรายเกิดมาจากการต่อยอด หรือขยายการดำเนินธุรกิจของครอบครัว หนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท เอ็มเอพี ฟู้ด จำกัด ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากรุ่นคุณแม่อย่าง ฐิติพร ตรีสุขเกษม ที่มีประสบการณ์ทำอาหารแปรรูปแช่แข็งมากว่า 40 ปี พอมาถึงรุ่นลูก มนัสสิทธิ์ ตรีสุขเกษม ซึ่งปัจจุบันเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท เอ็มเอพี ฟู้ด จำกัด ได้หันมาทำร้านอาหาร จากนั้นก็ต่อยอดไปสู่การทำโรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้เงินลงทุนประมาณ 70-100 ล้านบาท

อมรรัตน์ ตรีสุขเกษม

อมรรัตน์ ตรีสุขเกษม ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เอ็มเอพี ฟู้ด จำกัด เล่าว่า บริษัท เอ็มเอพี ฟู้ด จำกัด ตั้งขึ้นในปี 2549 ทำเกี่ยวกับแผ่นแป้งปอเปี๊ยะสด ส่งให้โรงงานอุตสาหกรรมแปรรูปแช่แข็ง เพื่อการส่งออก และสะสมประสบการณ์การผลิตอาหารแช่แข็ง ติ่มซำแช่แข็ง

หลังจากทำแป้งปอเปี๊ยะแล้ว ต่อมาก็เปิดร้านอาหารอาหลง ซึ่งได้รับผลตอบรับดีมาก เพราะลูกค้าชอบรับประทานติ่มซำอยู่แล้ว ซึ่งทางร้านมีติ่มซำทั้งนึ่ง ทั้งทอด และอาหารจานเดียว มีบักกุ๊ดเต๋

เมื่อทำร้านอาหารมาได้สักระยะ เราก็เล็งเห็นว่าสามารถทำตัวติ่มซำได้ จึงอยากกระจายสินค้าให้ใกล้ชิดผู้บริโภคมากขึ้น จึงหยุดทำร้านอาหาร และมาโฟกัสที่โรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งเป็นการขยายกำลังการผลิตด้วย โดยทำแบรนด์ส่งร้านอาหาร ภัตตาคาร โรงแรม และโรงเรียน

อมรรัตน์ กล่าวว่า เอ็มเอพีฟู้ด ผลิตติ่มซำแช่แข็ง ขนมจีบ ซาลาเปา ฮะเก๋า ขึ้นรูปด้วยเครื่องมือ เครื่องจักร นอกจากนี้ ยังมีอาหารแช่แข็ง อาหาร ready to eat มีข้าวไรซ์เบอรี่กะเพราหมูสับ ข้าวไรซ์เบอรี่กะเพราไก่ ข้าวเหนียวไก่ย่าง สปาเก็ตตี้คาโบนารา ข้าวเหนียวมะม่วง และทำแผ่นแป้งปอเปี๊ยะส่งตามโรงงานอุตสาหกรรม โดยสามารถผลิตแผ่นแป้งผลิตได้เต็มที่ 3 ตันต่อวัน

เอ็มเอพีฟู้ด เป็นโรงงาน OEM ผลิตอาหารทั้งคาวและหวานส่งให้โรงแรมและร้านอาหาร ตั้งแต่เปิดโรงงานมาในปี 2549 ในรอบ 13 ปีที่ผ่านมา บริษัทได้พัฒนาสินค้าให้มีคุณภาพ สะอาด ปลอดภัย เทียบเท่าระดับสากล เอ็มเอพีฟู้ดได้รับรองมาตรฐานความปลอดภัยด้านอาหาร คือ GMP และ HACCP โดยปฏิบัติตามมาตรฐานอาหาร Codex Alimentarlus ตอนนี้มีส่งออกไปประเทศลาว อังกฤษ และออสเตรเลีย

“ลูกค้าต่างประเทศยอมรับสินค้าไทย เพราะอร่อย สะอาด ถ้าเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน และต้นทุนในการผลิตของเรายังถูกกว่า ประเทศจีนก็ส่งออก แต่คุณภาพเขาจะไม่เท่าของไทย และคอนเซ็ปต์อาหารไทยสู่ครัวโลกของเรายังไปได้อยู่” อมรรัตน์ กล่าว

ส่วนปีหน้า มีแผนจะไปขายที่ฮ่องกง สิงคโปร์ ซึ่งมีคนจีนอยู่เยอะ และชอบรับประทานติ่มซำ รวมทั้งวางแผนจะไปที่ตลาดสหรัฐอเมริกาด้วย เพราะเขาชอบกินของทอด ซึ่งเอ็มเอพีฟู้ดชำนาญเรื่องแผ่นแป้งปอเปี๊ยะ ก็จะพัฒนาตัวปอเปี๊ยะ และซาโมซ่าได้

อมรรัตน์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจ OEM ประสบความสำเร็จ คือ จะต้องไม่รับจ้างผลิตเพียงอย่างเดียว แต่ต้องทำแบรนด์ของตัวเองควบคู่ไปด้วย “เพราะแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญ ลูกค้าจะรู้จักเราก็จากแบรนด์ เราจึงต้องสร้างแบรนด์เป็นของตัวเอง”

เอ็มเอพีฟู้ด มี 3 แบรนด์ที่เป็นของตัวเอง ได้แก่ อาหลง เป็นแบรนด์พรีเมียม, ห่าวยิ่วโตว เป็นเซกเมนต์ในตลาดกลางๆ พวกร้านก๋วยเตี๋ยว ร้านอาหารทั่วๆไป และ Siam Delicious จะเป็นอาหารกล่อง พวกข้าวเหนียวไก่ย่าง ข้าวผัดกะเพรา ส่วน Save V ยังไม่ได้ทำ แต่มีแผนที่จะทำเป็นตลาดล่าง น่าจะเปิดตัวในปีหน้า เพราะตอนนี้เอ็มเอพีฟู้ดมุ่งทำอาหลง และห่าวยิ่วโตว

“เอ็มเอพีฟู้ด ไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เรายังมีลูกค้าประจำที่สั่งสินค้าเราอยู่ ยอดขายไม่ตกเพราะสินค้าเราเป็นอาหารเป็นสินค้าจำเป็น คนต้องบริโภคอยู่แล้วเกือบทุกวันก็เลยไม่กระทบตรงนี้ ทั้งยังตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่ไม่มีเวลาปรุงอาหาร และรีบเร่งในตอนเช้า ดังนั้นซาลาเปาจึงสะดวกในการซื้อและรับประทานได้เลย”

อมรรัตน์ กล่าวว่า ธุรกิจนี้ยังเป็นธุรกิจที่สดใส เพราะไลฟ์สไตล์ของคนเริ่มเปลี่ยน ต้องการรับประทานอะไรที่ง่ายๆ และสะดวกรวดเร็ว โดยปีนี้คาดหวังให้ธุรกิจเติบโต 10%

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อสินค้าสินค้าแช่แข็งได้โดยตรง ทางเฟซบุ๊ก MAP Food Co.,Ltd. หรือ ไลน์ : @vrq7899u หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 0643016658 @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น