ทิศทางใหม่ อสมท หลังคืนช่องเด็ก ชู MCOT HD30 เจาะกลุ่มครอบครัว

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ อสมท เผย คืนช่องเด็กเพราะขาดทุนต่อเนื่อง หลังจากนี้จะปรับ MCOT HD สู้กับคู่แข่ง และการ Disrupt โดยวาง Positioning ให้เป็นทีวีสำหรับ Family

ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลได้ภายในวันที่ 10 พ.ค. 2562 หนึ่งในนั้นก็คือ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ที่คืนใบอนุญาต ช่อง 14 MCOT Family หมวดหมู่ช่องรายการสำหรับเด็ก เยาวชนและครอบครัว เหลือไว้เพียง MCOT HD ช่อง 30 “เขมทัตต์ พลเดช” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวในรายการ “ลับคมธุรกิจ” ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ว่า เหตุผลที่ต้องยุติ MCOT Family เนื่องจากการดำเนินงานขาดทุนติดต่อกันมาโดยตลอด และ อสมท อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ด้วย ดังนั้นในเชิงธุรกิจก็ต้องประกอบกิจการที่มีผลกำไรให้กับผู้ถือหุ้น ซึ่งเป็นมหาชนด้วย

นอกจากนี้ ผู้ชมเองก็เปลี่ยนแพลตฟอร์มในการรับชม ซึ่งเดิมคนที่ชมรายการช่องเด็กส่วนใหญ่ 80% จะชมการ์ตูน ไม่ใช่รายการอื่นๆ โดยหลังจากได้รับใบอนุญาตทีวีดิจิทัลแล้ว ปรากฏว่าผู้ผลิตรายการ Content ที่เป็นพาร์ตเนอร์ของทั้ง MCOT Family และ 3 Family ก็ไปทำช่องการ์ตูนเองในดาวเทียม และลงในแพลตฟอร์มตัวอื่น ผู้ชมก็ย้ายฐานจาก Fix Screen เพราะเด็กสามารถนั่งดูในรถกับพ่อแม่ ดูได้ตลอดเวลา ดูย้อนหลังก็ได้ ซึ่งเป็นเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภค และเทคโนโลยีที่มา Disrupt

นอกจากนี้ เม็ดเงินในตลาดซึ่งทีวีต้องอาศัยจากเม็ดเงินโฆษณา ก็จะเจอ Disrupt ของตัวกฎหมายหรือข้อบังคับ เช่น ห้ามโฆษณาขนมขบเคี้ยว ก็เลยไม่มีเม็ดเงินโฆษณาที่จะสนับสนุนสถานี ทำให้สถานีไม่มีเงินที่จะไปผลิตรายการดีๆ ให้กับเด็ก ซึ่งในต่างประเทศ ทั้ง BBC NHK จะได้รับเงินช่วยเหลือจากภาครัฐในการผลิตรายการเขาถึงอยู่ได้ แต่บ้านเราปล่อยให้แข่งขันกันเองโดยเสรี แต่ก็ต้องไปดูว่าการแข่งขันโดยเสรีนั้นมีการช่วยเหลือผู้ประกอบการอย่างไรบ้าง เพราะเรามีใบอนุญาตประกอบกิจการ

ขณะเดียวกันก็มีแพลตฟอร์มอื่นขึ้นมา ซึ่งเขาไม่ต้องเสียค่าใบอนุญาต และเขาไม่ต้องมีค่าโฆษณาแบบที่ต้องไปหาลูกค้าเอง เขาได้เงินจากการยอดดูวิวทั้งหมด โฆษณาก็ตามเขาไป สำหรับโอกาสที่จะเกิดช่องเด็กในไทย ก็ต้องมาช่วยกันคิดช่วยกันแก้ไขว่าควรจะมีกองทุนสำหรับสื่อเด็กหรือไม่ และกองทุนดังกล่าวจะสนับสนุนไปที่จุดไหนบ้าง

15 ช่องจะต้องสร้าง Branding ทำให้ช่องแข็งแกร่ง มี Segmentation ที่ชัดเจน

สำหรับทีวีดิจิทัล 15 ช่องที่เหลือ “เขมทัตต์” บอกว่า ตอนนี้เขากำลังกลับไปทบทวนบทบาทและความแข็งแกร่งของตัวเอง โดย 15 ช่องจะต้อง Segmentation (การแบ่งส่วนตลาด) ให้มีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้มีคนดูที่เหนียวแน่น เช่น ตอนที่มีพิธีบรมราชาภิเษก ทุกช่อง Content เหมือนกัน เพราะโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจถ่ายทอดสด แต่ปรากฏว่าเรตติ้งไม่เท่ากัน เพราะพฤติกรรมของผู้ชมจะติดกับ Branding ของช่องนั้นแล้วเปิดแช่ไว้

 

ดังนั้น ต้องสร้าง Branding ทำช่องให้มีความแข็งแกร่ง ให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกกลุ่ม ก็จะทำให้เรตติ้งดีขึ้น ซึ่งตั้งแต่ปี 2557 หลังการประมูลใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ทุกช่องก็จะทำเหมือนกับช่องที่เคยทำ คือ มีละคร มีวาไรตี้ มีเกมโชว์ เมื่อทุกอย่างเหมือนๆ กัน ก็กลายเป็นว่า Content ของใครจะแข็งแรงกว่ากัน ซึ่งเวลาผ่านไป 5 ปี Content ที่เป็นวาไรตี้หรือบันเทิง บางอย่างอาจไม่เป็นที่สนใจของผู้ชมแล้ว

 

เพราะฉะนั้น Content ซึ่งเป็น Product ของธุรกิจทีวีจะต้องเป็นเหมือนน้ำ คือต้องมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มีการเปลี่ยนผังรายการ ถ้าไปดู Netflix สตรีมมิ่งของเขากว่าครึ่งดูได้ตลอดเวลา ดูย้อนหลังก็ได้ ที่เหลือจะเติม Content ใหม่ๆ เข้าไปตลอดเวลา ต่างจากฟรีทีวี ถ้าเติมมากๆ ต้นทุนด้าน Content จะสูงขึ้น แต่ไม่ทำก็ไม่ได้ เพราะคนดูเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

MCOT HD ต้องปรับตัวสู้กับคู่แข่ง และการ Disruption ของทีวีดิจิทัล

กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากนี้จะกลับไปโฟกัสที่ MCOT HD ช่อง 30 โดยจะปรับวิธีการนำเสนอ เอาตัว Content บางรายการที่มีอยู่ในช่อง 14 MCOT Family มาปรับใช้ บางรายการของช่อง 30 ก็ต้องยกเลิก เพราะผู้ชมไม่ดูแล้ว สำหรับการปรับตัวไม่ใช่การปรับใหญ่ แต่จะค่อยๆ ปรับ เพราะเราเป็นองค์กรกึ่งรัฐกึ่งเอกชน ก็จะช้าหน่อย ไม่เหมือนสถานีโทรทัศน์เอกชน ขณะที่การ Disruption ของทีวีดิจิทัล

นอกจาก IoT, OTT แล้ว ยังมีกฎหมายใหม่ที่เพิ่งขึ้น คือการเปิดเสรีทางดาวเทียม ทำให้สามารถทำ Satellite Broadband ได้ เมื่อเขามาตั้ง เขาสามารถดึงสัญญาณของดาวเทียมมา แล้วลงในเคเบิลหรือแอปพลิเคชั่นเราก็ได้ เพราะฉะนั้น Content ของต่างประเทศจะเข้ามาทันทีโดยถูกกฎหมาย ดังนั้น ขณะนี้เราไม่ได้เผชิญเฉพาะคู่แข่ง 15 ช่อง แต่ยังเผชิญกับเว็บไซต์ออนไลน์ สตรีมมิ่ง OTT แล้วยังเจอแพลตฟอร์มใหม่ๆ อีก ขณะนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว คำว่า Broadcasting หมายถึงคนจะเสพ Data หรือ Content จากที่ไหนก็ได้

วาง Positioning ของ MCOT HD ให้เป็นทีวีสำหรับ Family

ในส่วนของ MCOT จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างนั้น “เขมทัตต์” บอกว่า MCOT HD ช่อง 30 จะมีการปรับช่วงไพร์มไทม์ ปรับวิธีการนำเสนอข่าวให้แข่งขันกับตลาดข้างนอกได้ และเพิ่ม Content เกี่ยวกับบันเทิงเข้าไป ในเดือน มิ.ย. – ก.ค.นี้ เราจะมีซีรีส์ที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์จีน เช่น สามก๊ก นางพญางูขาว ซึ่งเป็นซีรีส์ชั้นนำ ส่วนการผลิตของผู้ผลิตในไทยเราก็ยังเปิดให้เข้ามานำเสนอได้ รวมทั้งผู้ที่อยู่ในช่องที่ปิดไปก็สามารถเข้ามานำเสนอได้ ขณะที่อีกส่วนก็จะไปบุกตลาดออนไลน์ เนื่องจาก Content ของเราบางส่วนมีค่อนข้างเยอะ

โดยเฉพาะคลิปข่าวของสำนักข่าวไทย แต่จะปรุงแต่งอย่างไรให้น่าสนใจก็คงต้องพัฒนากันต่อไป สำหรับการวาง Positioning ของ MCOT HD ในปีนี้และปีต่อไป คือเป็นทีวีสำหรับ Family โดยจะเน้นที่กลุ่มผู้ปกครองกับผู้สูงอายุหน่อย ส่วนเด็กนั้นเข้าไปอยู่ในกลุ่มอื่นแล้ว โดยจะได้เห็นหน้าตาช่วงใหม่ของ MCOT HD ในเดือน ก.ค.นี้เป็นต้นไป @

 

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น