ชวนคนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี รับคนจีนไหลกลับตรุษจีนนี้

แนวโน้มทองคำปีนี้ดีกว่าปีที่แล้วเล็กน้อย แต่เทียบกับช่วงตรุษจีน จะชะลอตัวเล็กน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว คาด นักท่องเที่ยวจีนจะมาเที่ยวตรุษจีนปีนี้ 3 แสนคน

“จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี” ประธานหอการค้าไทย-จีน และนายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวในรายการ”ลับคมธุรกิจ”ทางคลื่นมิติข่าว 90.5 ถึงแนวโน้มตลาดทองคำปีนี้ว่า เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว ปีนี้ก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย โดยปีนี้ นำเข้าทองทั้งปีเทียบกับปีที่แล้ว มีเพิ่มขึ้นมาระมาณ 50 ตัน ส่งออกปีนี้ตัวเลขก็มากกว่า เนื่องจากราคาทองปีนี้เฉลี่ยทั้งปีก็มีขึ้นมาหน่อย ส่งออกปีนี้ เพิ่มขึ้นจากปี 2560 เพิ่มขึ้นมา 113 ตัน แต่ราคาในตลาดปีนี้ทรงๆ เนื่องจากมีการผันผวน ทั้งเรื่องการเมืองต่างๆ และสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ทำให้ธุรกิจซบเซา ประกอบกับเงินบาทแข็งค่าขึ้นมาประมาณ 9% ทำให้ปีนี้ราคาทองกลับลดลง แต่เฉลี่ยทั้งปีก็ดีขึ้นมาเล็กน้อย

แต่ถ้าเทียบกับตรุษจีน ปีใหม่ ก็น่าจะชะลอตัวนิดหนึ่ง เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ เฟด ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ปกติจะต้องทำให้เงินแข็งค่า แต่กลับสวนทาง เพราะดอลลาร์สหรัฐกลับอ่อนค่าลงเรื่อยๆ ตอนนี้เหลือ 31 บาทกว่า ทำให้นักธุรกิจไม่มั่นใจเรื่องดอลลาร์สหรัฐ หันมาลงทุนทองคำเพื่อป้องกันความเสี่ยง เลยทำให้ราคาทองคำขึ้นมา

แต่การที่เงินบาทแข็งค่า ทำให้ราคาทองคำถูกลงไปประมาณบาทละ 900 บาท ถ้าบาทไม่แข็งค่า ตอนนี้ทองคำก็2 หมื่นกว่าบาทแล้ว อย่างไรก็ตาม เทรนด์ทองคำในตลาดโลกยังขึ้นได้อยู่ มองว่าระยะสั้น ยังลงทุนได้

นายกสมาคมค้าทองคำ กล่าวด้วยว่า การซื้อทองในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมา ก็ลดลงเมื่อเทียบกับปี 2560 แต่ก็ยังไปได้เรื่อยๆ ไม่ตกลงไปมากเท่าไร ส่วนในช่วงใกล้ตรุษจีนที่จะมาถึงในสัปดาห์หน้า การซื้อทองให้เป็นของขวัญก็ถือว่าลดน้อยลง เพราะคนรุ่นใหม่ที่เข้ามาบริหารงานแทนคนรุ่นเก่า จะให้ของขวัญในช่วงปีใหม่มากกว่า เพราะคนรุ่นใหม่จะบอกว่าช่วงตรุษจีนจำยากว่าเป็นวันไหน เพราะแต่ละปีจะไม่ตรงกัน

เพราะฉะนั้น ช่วงปีใหม่จะดีกว่า และคนก็จะซื้อทองด้วยน้ำหนักที่ลดลง ปัจจุบันร้านทองก็ต้องปรับตัวออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อดึงดูดคนซื้อ เช่น สมัยนี้วัยรุ่นจะนิยมใส่ทองเส้นเล็กๆ ก็จะทำสร้อยเส้นละครึ่งสลึงออกมาขาย หรือปีนี้ตรงกับปีหมู ก็จะทำจี้หมูทองออกมา ซึ่งขายดีมาก

สำหรับตรุษจีนปีนี้ จิตติ ตั้งสิทธิ์ภักดี ในฐานะประธานหอการค้าไทย-จีน คาดว่าน่าจะมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาไทยถึง 3 แสนคน หลังจากเหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตเมื่อปีที่แล้ว ทำให้นักท่องเที่ยวจีนชะลอตัวไปประมาณ 2 เดือน หลังจากนั้นก็มีการประชาสัมพันธ์ มีการพูดคุยกันระหว่างภาครัฐกับสถานทูตจีน รวมทั้งหอการค้าไทย-จีน ก็ทำหน้าที่ช่วยเชื่อมต่อประสานงาน ทำให้ปี 2561 มีนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มขึ้นทะลุ 10 ล้านคน

ส่วนปีนี้คาดว่าน่าจะมีถึง 11 ล้านคน ซึ่งเมื่อมีนักท่องเที่ยวจีนเข้ามาจำนวนมาก เราก็จะต้องมีมัคคุเทศก์ และบุคลากรต่างๆ ให้เพียงพอในการรองรับ ในส่วนของหอการค้าไทย-จีน ก็พยายามส่งเสริมให้มีการเรียนภาษาจีนเพิ่มขึ้น เพราะนักลงทุน นักธุรกิจที่เข้ามาลงทุนในไทยจะบอกว่า เขาหาบุคลากรที่พูดภาษาจีนได้มาทำงานด้วยค่อนข้างยาก และไม่เพียงพอ ผู้ที่สนใจสามารถไปสมัครเรียนได้ที่อาคาร ไทยซีซี ทาวเวอร์ ถนนสาทร

ประธานหอการค้าไทย-จีน กล่าวด้วยว่า หลังจากที่ภาครัฐออกมาตรการฟรี Visa on Arrival เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนแล้ว ควรจะมีแบบฟอร์มที่จะผ่าน ตม.เป็นภาษาจีนด้วย เพื่ออำนวยความสะดวก เพราะปัจจุบันมีแต่ภาษาไทย กับภาษาอังกฤษ ในส่วนของคนไทยก็อยากให้เป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยเราก็นิสัยดีอยู่แล้ว

ไม่มีประเทศไหนสะดวกเหมือนมาเมืองไทย นักท่องเที่ยวจีนมาแล้ว เขาก็อยากกลับมาเที่ยวอีก โดยเขาชอบไปเที่ยวเยาวราช อาหารราคาถูก อร่อย บริการดี นอกจากนี้ สมาคมค้าทองคำได้ให้ ททท. ช่วยประชาสัมพันธ์ร้านทองในเมืองไทย โดยเยาวราชมีฉายาว่าถนนทองคำ ซึ่งทองคำในบ้านเราทำด้วยมือ สวยงาม ราคาไม่แพง และมีรูปแบบที่หลากหลาย ก็อยากให้นักท่องเที่ยวมาซื้อทองกัน เพราะสมัยก่อน นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มากับทัวร์ เขาก็จะไม่พามาเยาวราช เพราะทองคำเยาวราชนั้นมีราคามาตรฐาน ไม่มีเปอร์เซ็นต์ให้ แต่เดี๋ยวนี้นักท่องเที่ยวมากันเอง จะทำให้เยาวราชคึกคักมากขึ้น @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น