SCG ปรับขายออนไลน์ในยุค New Normal เน้นการให้บริการ มีแพลตฟอร์มให้ลูกค้าใช้เพื่อความสะดวก ส่วนการทำงานในช่วงวิกฤติโควิด-19 ต้องคุยกันมากขึ้น ร่วมมือกัน ปรับตัวให้เร็ว
บรรณ เกษมทรัพย์ Head of SCG Home Retail and Distribution Business ซึ่งดูแลธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าวัสดุก่อสร้าง และธุรกิจค้าปลีก กล่าวว่า ช่วงที่เกิดวิกฤติโควิด-19 ใน 2-3 เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลสั่งปิดร้านค้า มีเคอร์ฟิว ก็ต้องยอมรับว่าท้าทายมาก แต่ SCG มีการเตรียมความพร้อม ทำให้ยอดขายไม่กระทบมากนัก ซึ่งการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคจะแตกต่างไปค่อนข้างมาก โดยคนจะซื้อของที่คุ้มราคามากขึ้น ไม่ได้เน้นของที่มีราคาแพง
และมุมมองหลังโควิด-19 สินค้าวัสดุก่อสร้าง ลูกค้าจะเน้นเรื่องสุขภาพและความสะอาด แล้วยังมีเทรนด์การตกแต่งบ้าน เพื่อปรับปรุงให้เข้าไลฟ์สไตล์เรื่อง Work from Home เพราะเมื่อก่อนคนจะอยู่บ้านตอนหลังเลิกงาน และช่วงสุดสัปดาห์ แต่ตอนนี้ต้องปรับปรุงบางมุมของบ้านให้ใช้งานได้ตลอดเวลา มีห้องทำงาน
เรียกว่าในวิกฤติยังมีโอกาส อยู่ที่เราจะปรับตัวให้ทันกับวิกฤตินั้นหรือไม่ แล้วเราปรับตัวถูกต้องหรือไม่ ซึ่งโชคดีที่ SCG ปรับตัวได้ดีพอสมควรในช่วงล็อกดาวน์ที่ผ่านมา เราได้รับผลกระทบไม่มาก ช่วงที่ปิดร้าน ในต่างจังหวัดยังขายได้ แล้วมีโครงการที่ยังไม่เสร็จและมีโครงการต่อเนื่องมา
ซึ่ง SCG ได้เตรียมความพร้อมไว้ก่อนแล้วเรื่องออนไลน์ มีคนจับจ่ายใช้สอยออนไลน์มากขึ้น เพราะออกนอกบ้านไม่ได้ ทำให้ออนไลน์ถือเป็นช่องทางสำคัญ เราก็ปรับวิธีการค้าขายแทนที่จะขายแต่หน้าร้าน ก็ขายออนไลน์ด้วย ร้านค้าผู้แทนจำหน่าย และสำนักงานขายของเราก็ปรับขายทางเฟซบุ๊ก ขายทางออนไลน์ ขายทางโซเชียลมีเดียมากขึ้น ทำให้สามารถบริการลูกค้าได้ค่อนข้างดีและต่อเนื่อง และเมื่อร้านค้ากลับมาเปิดใช้ได้ ร้านค้าพวกนี้ก็สามารถติดต่อลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ก็ถือว่าเราปรับตัวได้ค่อนข้างดี เอาช่องทางออนไลน์เป็นกลยุทธ์ และปรับได้ทันเหตุการณ์
เรามีการเปิดเฟซบุ๊กไลฟ์ และเปิดผ่านยูทูป แสดงให้ผู้บริโภคเห็นว่าสินค้าวัสดุก่อสร้างของเราเป็นอย่างไร และมีความสำคัญอย่างไร เพราะช่วงนั้นคนแทบไม่ออกไปไหนเลย อยู่กันที่บ้าน ซึ่งในช่วง Work from Home สินค้าหลายตัวขายดีมาก โดยเฉพาะสินค้าเกี่ยวกับสุขภาพ เครื่องฟอกอากาศขายดีมากในช่วงนั้น
บรรณ กล่าวว่า ยอดขายออนไลน์โตขึ้น 8 เท่า ซึ่งเราไม่ได้เน้นแค่ยอดขาย แต่ต้องเน้นเรื่องการบริการ เพราะถ้าขายได้แต่บริการไม่ดี ก็จะทำให้เสียลูกค้าได้ ที่ผ่านมา ด้านบริการจัดส่งเราก็ส่งโดยบริษัท SCG EXPRESS ก็ได้รับการตอบรับจากลูกค้า โดยเฉพาะเรื่องการบริการก็ได้รับการชื่นชมค่อนข้างมาก นอกจากบริการจัดส่ง ก็มีบริการให้เซอร์วิสด้านการเงิน เพราะลูกค้าเราไม่ได้มีแค่เจ้าของบ้าน แต่มีช่างด้วย เราก็คุยกับธนาคารว่าให้สินเชื่อกับช่างมากขึ้น
เรามีแพลตฟอร์มที่เป็นไฮเทค เป็นฟินเทค นอกจากนี้ ก็มีแพลตฟอร์มดีไซน์ ที่ให้บริการด้านการออกแบบทางออนไลน์ ตอนนี้สถาปนิกของเราสามารถคุยกับลูกค้าทางไลฟ์ได้ และลูกค้าก็ไม่ต้องมาถึงที่ร้าน แล้วยังมีแพลตฟอร์มจองคิวช่างทางออนไลน์ ผ่าน https://scghome.com ถือว่าเป็นแพลตฟอร์มใหม่ๆ ของเราที่จะทำให้ลูกค้าสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
สำหรับการก้าวผ่านวิกฤติโควิด-19 นั้น บรรณ กล่าวว่า SCG ได้เตรียมความพร้อมว่าจะเกิดวิกฤติมาตลอด ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วม หรือไฟไหม้ แต่เราไม่เคยเตรียมความพร้อมว่าจะเกิดวิกฤติด้านสุขภาพ โชคดีที่เรามองไปข้างหน้าว่าอนาคตจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร อย่างครั้งนี้เราคิดว่ามันจะเปลี่ยนแปลงเป็นออนไลน์ในอีก 8-10 ปีข้างหน้า เราก็เตรียมไว้ก่อนแล้ว
“ถ้าเกิดช่วงวิกฤติ เรื่องที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องผู้บริหาร ถ้าเป็นเจ้าของกิจการต้องมีความเป็นผู้นำ ทาง SCG ผู้บริหารก็ไม่ได้หยุด พนักงานหยุด แต่ผู้บริหารมาทำงานทุกวัน ทำงานแบบที่เรียกว่าช่วงวิกฤติ ต้องคุยกันมากขึ้น ทำงานร่วมมือกันมากขึ้น เพราะฉะนั้นมันก็เร็วขึ้น สปีดเป็นเรื่องสำคัญ พอเราปรับตัวได้เร็วขึ้น คุยกันบ่อยขึ้น แล้วเราคิดว่ามันเป็นวิกฤติอยู่เสมอ เราก็เปลี่ยนปรับตัวได้ทัน แล้วถ้าปรับตัวแล้วคิดว่ามันไม่ดี เราก็เปลี่ยนวิธีการปรับตัว เมื่อเรามีการเตรียมความพร้อม ปรับตัวได้รวดเร็ว ก็ทำให้ธุรกิจเราดูเหมือนว่าผ่านวิกฤติไปได้ค่อนข้างใช้ได้ ทำให้พนักงานผ่านไปอย่างปลอดภัย คู่ค้าก็ดูแลอย่างดี แล้วธุรกิจเราก็ถือว่าผ่านไปด้วยดี”
นอกจากนี้ ในเรื่องของสังคม อะไรที่เราคิดว่าตอบแทนสังคมได้ก็พยายามในช่วงที่เกิดวิกฤติ อยากเชิญชวนทุกคน อย่าง SCG เราก็มีนวัตกรรมหลายอย่างที่ช่วยให้แพทย์และพยาบาลปลอดภัยจากโควิด-19 สุดท้ายเพื่อสังคมและประเทศชาติ พวกเราต้องดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัวทุกๆ คน พร้อมเป็นส่วนเล็กๆ ช่วยให้ประเทศเราเข้มแข็ง และกลับมาแข็งแรงอีกครั้งหนึ่ง @
