“ลาเต้กะทิ” อีกหนึ่งของดีเอเชีย

ต้องยอมรับว่า ในเวลานี้เครื่องดื่มกาแฟอย่างCoconut Latte” ที่มีชื่อเรียกในภาษาไทยหลากหลายชื่อ ตั้งแต่“ลาเต้กะทิ”, “ลาเต้มะพร้าวกะทิ” ไปจนถึง “กาแฟกะทิสด” ได้รับความนิยมไปทั่วโลกแล้ว ด้วยรสชาติของเครื่องดื่มแบบเขตร้อนอันเป็นเอกลักษณ์ มีเนื้อสัมผัสเนียนนุ่ม เป็นทางเลือกที่สดชื่นสำหรับคอกาแฟในกลุ่มได้เป็นอย่างดี

ด้วยการผสมผสานระหว่างรสชาติกาแฟอันเข้มข้นของ “ช็อตเอสเพรสโซ่” กับรสชาติหอมหวานมันของ “กะทิ” ทำให้เกิดเป็นรสชาติที่โดดเด่นและน่าลิ้มลอง ดังนั้น กระแสความนิยมเมนูลาเต้กะทิในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ ไม่เพียงแต่เป็นเทรนด์ในโลกโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่แบรนด์ร้านกาแฟดังๆในเอเชียทั้งจีน, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และไทย ต่างนำเสนอเป็นเมนูประจำร้านทั้งแบบสูตรร้อนและสูตรเย็น

หลายๆ แบรนด์มีการตอบรับจากลูกค้าดีมาก จนกาแฟผสมกะทิกลายเป็นเมนู “ซิกเนเจอร์” ของร้านไปโดยปริยาย มียอดขายเป็นล้านๆ แก้วก็มี

Coconut Latte มีชื่อเรียกหลายชื่อ ตั้งแต่ลาเต้กะทิ, ลาเต้มะพร้าวกะทิ ไปจนถึงกาแฟกะทิสด ภาพ : Charlie Waradee

ร้านกาแฟในบ้านเราก็มีเมนูลาเต้กะทิหลายสูตรมานำเสนอให้ลูกค้าเช่นกัน รวมไปถึงเชนร้านกาแฟ “คาเฟ่ อเมซอน” (Café Amazon) ที่เปิดตัวกาแฟซีรีส์โคโคนัทไปเมื่อต้นปีนี้เอง

“ราล์ฟ คอฟฟี่” (Ralph’s Coffee) คาเฟ่สไตล์อเมริกันจากแบรนด์แฟชั่นระดับโลก ที่ประเดิมสาขาแรกในไทยเมื่อปลายปีที่แล้ว ด้วยการพรีเซนต์เมนูลาเต้กะทิให้เป็นเมนูสุดพิเศษ ฉลองเปิดร้านแรก

อย่างไรก็ตาม ประเทศที่ลาเต้กะทิกลายเป็น “เทรนด์แรง” มากๆ ในขณะนี้ ยังมีเฉพาะจีน, มาเลเซีย และสิงคโปร์ เท่านั้น แต่กระแสความนิยมกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

การใช้กะทิแทนนมวัวเติมลงไปในเอสเพรสโซ่จนเกิดเป็นเมนูลาเต้กะทิ ไม่ปรากฏข้อมูลอย่างเป็นทางการว่าใครเป็นผู้คิดค้นสูตร แต่เมื่อทั้งกาแฟและมะพร้าวต่างก็เป็นพืชเศรษฐกิจในเขตร้อนด้วยกัน ผู้เขียนเลยขอทึกทักเอาว่าน่าจะเป็นผู้คนในโซนร้อนนี้แหละที่สร้างเมนูนี้ขึ้นมา

ที่เวียดนาม มีการนำกะทิใส่ลงในกาแฟแทน “นมข้นหวาน” ที่หายากในช่วงสงครามเวียดนาม กลายเป็นเมนูที่ดื่มกันมาจนถึงทุกวันนี้

ราล์ฟ คอฟฟี่ ปล่อยเมนูพิเศษลาเต้กะทิในแก้วทรงแชมเปญสุดหรูหรา ฉลองเปิดร้านแรกในประเทศไทย ภาพ : instagram.com/ralphscoffee

ลาเต้กะทิหรือโคโคนัท ลาเต้ เป็นสูตรเครื่องดื่มกาแฟที่เริ่มแพร่หลายก็ช่วงต้นทศวรรษ 2010 หลังเว็บไซต์อาหารและเครื่องดื่มหลายแห่งในอเมริกาเหนือและยุโรปมีการแนะนำสูตรและวิธีทำ ตอนนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นการชงดื่มกันเองตามบ้านสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรสชาติหอมหวานมันแบบกะทิ หรืออยากลิ้มลองว่าเมื่อใส่กะทิแทนนมวัวแล้วรสชาติลาเต้จะออกมาเป็นเช่นไร ต่างไปจากลาเต้ที่ใช้นมวัวหรือไม่

จนปีค.ศ. 2015 นั่นแหละ เชนร้านกาแฟใหญ่ของสหรัฐอย่าง “สตาร์บัคส์” (Starbucks)  เพิ่มกะทิลงในเมนูของร้านสาขาทั่วอเมริกาเหนือ โดยเป็นทางเลือกให้ผู้บริโภคที่ไม่ดื่มนมวัว อีกหนึ่งปีต่อมา สตาร์บัคส์ก็เปิดตัวเครื่องดื่มสูตรเย็นที่มีส่วนผสมจากมะพร้าวกะทิเป็นเมนูแรก คือ ไอซ์ โคโคนัท มิลก์ มอคค่า มัคคิอาโต้  จากนั้นในปีค.ศ. 2020 ก็เพิ่มเมนูโคโค มิลก์ ลาเต้ หรือลาเต้กะทิ เข้ามาเป็นครั้งแรก

ในเว็บไซต์ของ “เนสกาแฟ” (Nescafé) ก็เปิดสูตรวิธีทำลาเตะกะทิแบบสูตรเย็นด้วยเช่นกัน โดยใช้กาแฟสำเร็จรูปพรีเมี่ยมเนสกาแฟ โกลด์ เครมมา เป็นตัวยืน มีการเติมไซรัปน้ำเชื่อมด้วยเล็กน้อย

แต่เวอร์ชันที่ได้รับความนิยมและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์คือ ลาเต้กะทิ ของ “ลัคอิน คอฟฟี่” (Luckin Coffee) เชนร้านกาแฟสัญชาติจีนที่เน้นโมเดลแบบรีเทลคอฟฟี่ ที่เปิดตัวเมนูนี้เมื่อปีค.ศ. 2021 พร้อมโฆษณาว่าสร้างปรากฏการณ์ขายหมดใน 1 วินาที ใช่ครับ… 1 วินาที

ไอซ์ โคโคนัท ลาเต้ เมนูขายดีของลัคอิน คอฟฟี่ กลายเป็นซิกเนเจอร์ประจำร้านไปในทุกวันนี้ ภาพ : instagram.com/luckin_coffeeus

ขายหมดเร็วแบบสร้างสถิติโลกแบบนั้น ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรสชาติที่ใช้กะทิสดแท้ๆ หรือใช้กลยุทธ์การตลาดการขายที่ผสานออนไลน์และออฟไลน์เข้าด้วยกัน เน้นสั่งออเดอร์ผ่านแอปพลิเคชันที่รวดเร็ว และมีสาขาขนาดเล็กที่เปิดรับเมนูเทคอะเวย์และเดลิเวอรี่เป็นหลัก ทำให้ขายกาแฟได้ในราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า

หลังจากเปิดตัวมาได้ครบหนึ่งปี ลัคอิน คอฟฟี่ ก็เคลมว่า มียอดขายลาเต้กะทิไปแล้วกว่า 100 ล้านแก้ว และเมื่อครบสามปีก็เคลมว่าขายไปได้ 700 ล้านแก้ว ว่ากันว่าความนิยมกาแฟมะพร้าวกะทิอย่างล้นหลามในจีน ช่วยให้ลัคอิน คอฟฟี่ กลายเป็น “ผู้เล่นหลัก” ในตลาดกาแฟจีนไปในทันที แน่นอนว่าลาเต้กะทิจึงกลายเป็นเมนูซิดเนเจอร์ของร้านไปอย่างไม่ต้องสงสัย

ร้านกาแฟดังของจีนอีกแห่งคือ “คอตติ คอฟฟี่” (Cotti Coffee) ซึ่งผู้ก่อตั้งก็เป็นอดีตผู้บริหารของลัคอิน คอฟฟี่ นั่นเอง  ก็มีเครื่องดื่มลาเตกะทิอยู่หลายเวอร์ชั่นเช่นกัน แล้วเมนูนี้ก็จัดเป็นเบส-เซลเลอร์ของร้านด้วยนะ

เรียกว่า นอกจากเป็นร้านคู่แข่งเดือดกันแล้ว ลัคอิน คอฟฟี่กับคอตติ คอฟฟี่ ก็ยังทำตลาดกาแฟกะทิแข่งดุกันในตลาดจีนอีกด้วย

ไอซ์ อูเบ โคโคนัท ลาเต้ หรือลาเต้กะทิมันม่วง หนึ่งในซีรีส์กาแฟประจำฤดูใบไม้ผลิปีนี้ของสตาร์บัคส์ ภาพ : about.starbucks.com

เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว คอตติ คอฟฟี่ เคลมกลับว่า ลาเต้กะทิของร้านมียอดขาย 100 ล้านแก้วทั่วโลก และเมื่อกลางปีนี้เอง ก็ประกาศผ่านอินสตาแกรมของร้านสาขาในยูเออีว่า ยอดขายทั่วโลกพุ่งเกินกว่า 200 ล้านแก้วไปแล้วนะ

ล่าสุด คอตติ คอฟฟี่ ก็เปิดตัวเมนูใหม่สุดที่สาขาในสิงคโปร์เมื่อกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมานี้เอง ชื่อว่า แพนแดน โคโค ลาเต้ หรือ “ลาเต้กะทิกลิ่นใบเตย” ประกอบด้วยสามผสาน คือ เอสเพรสโซ่, ครีมมะพร้าวกะทิ และไซรัปกลิ่นใบเตย แม้เป็นเมนูใหม่ที่สิงคโปร์ แต่ร้านสาขาในไทยมีขายตั้งสองปีมาแล้วนะ

“ซูส คอฟฟี่” (Suz coffee) เป็นร้านกาแฟดาวรุ่งพุ่งแรงในสไตล์รีเทลคอฟฟี่ของมาเลเซีย ก็มียอดจำหน่ายลาเต้กะทิสูงเช่นกัน หลังจากเปิดตัวมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้ว พอถึงช่วงกลางปีก็อัพเกรดเมล็ดกาแฟของเมนูนี้ โดยเปิดตัวกาแฟกะทิในซีรีส์ซีอีโอ ลาเต้ เน้นรสชาติเอสเพรสโซ่ที่นำหน้ากลิ่นรสกะทิ ใช้เมล็ดกาแฟซิงเกิล ออริจิ้น จากโคลอมเบียและบราซิล นอกจากนั้น ยังมีเมนูสแปนิช ลาเต้ ที่ใช้กะทิแทนนมด้วย

ซูส คอฟฟี่ ร้านกาแฟโตเร็วของมาเลเซีย ก็มีลาเต้กะทิ เป็นเมนูเบสเซลเลอร์ ในภาพเป็นสาขาในเมืองยะโฮร์ บาห์รู ภาพ : Charlie Waradee

ผู้เขียนไปเที่ยวยะโฮร์บาห์รู  เมืองทางใต้สุดของมาเลเซียเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หนึ่งในความตั้งใจคือไปชิมลาเต้กะทิของซูส คอฟฟี่ ปรากฎว่า ไม่มีจำหน่าย เพราะกะทิซึ่งเป็นส่วนผสมหลัก “หมดสต๊อก” หมดแบบไม่มีขายสักสาขาในมาเลเซีย

แต่ความหวังยังไม่สิ้นครับ ได้ข่าวว่า สาขาในประเทศไทยที่เพิ่งเปิดใหม่ มีเมนูที่ผู้เขียนอยากดื่มนี้ด้วย

เนื่องจากกาแฟเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีความหลากหลายของรูปแบบ และมักปรับตัวไปตามกระแสความนิยมของการบริโภค เช่น เวลานี้เมนู “มัทฉะ ลาเต้” ได้รับความนิยมสูงมาก จึงมีคนนำไปต่อยอดเมนูคาเฟ ลาเต้ ด้วยการเติมมัทฉะลงไปกลายเป็น ไอซ์ มัทฉะ คอฟฟี่ ลาเต้  บางคนก็ปรับสูตรนิดหน่อย เปลี่ยนจากนมวัวไปใช้นมพืชทางเลือก เช่น กะทิ ก็มีไม่น้อย

ย้อนกลับไปราวสองปีก่อน หนึ่งในเทรนด์อาหารที่ร้อนแรงที่สุดแห่งปีในสหรัฐ คือ “อูเบ” (ube) มันเทศสีม่วงซึ่งเป็นพืชพื้นเมืองของฟิลิปปินส์ มีร้านกาแฟนำไปเพิ่มในลาเต้ กลายเป็นอูเบ ลาเต้ สีสันสวยงามน่าดื่มมาก ด้วยชั้นหรือเลเยอร์เครื่องดื่มที่แบ่งออกเป็นสามสี คือ น้ำตาล,ขาว และม่วง

แพนแดน โคโค ลาเต้ หรือลาเต้กะทิกลิ่นใบเตย จากคอตติ คอฟฟี่ ร้านกาแฟดังจากประเทศจีน ภาพ : instagram.com/cotticoffee.official

แล้วหนึ่งในซีรีส์กาแฟประจำฤดูใบไม้ผลิปีนี้ของสตาร์บัคส์ มีไอซ์ อูเบ โคโคนัท ลาเต้ หรือ “ลาเต้กะทิมันม่วง” รวมอยู่ด้วย สูตรคือ รินช็อตเอสเพรสโซ่และกะทิลงบนน้ำแข็ง ก่อนเทโคลด์โฟมเข้มข้นที่มีส่วนผสมของกะทิและอูเบลงไป และโรยหน้าด้วยมะพร้าวอบแห้งอีกเล็กน้อย ทว่าเมนูนี้มีจำหน่ายเฉพาะร้านสาขาในชิคาโก,นิวยอร์กซิตี้ และซีแอตเทิ้ล เท่านั้น

โดยทั่วไป ท็อปปิ้งบนลาเต้กะทิ นิยมใช้ผงอบเชย,วานิลลา, น้ำผึ้ง รวมไปถึงมะพร้าวอบแห้งแบบสตาร์บัคส์ด้วย

ข้อพึงสังเกตสำหรับท่านที่อยากลิ้มรสกะทิสดในกาแฟ หรือเป็นผู้ที่แพ้แลคโตสในนมวัว ก็คือ มีสูตรลาเต้กะทิอีกแบบหนึ่งที่ไม่ใช้กะทิสดหรือกะทิกล่อง แต่ใช้ “ไซรัปกลิ่นกะทิ” หรือ “น้ำมะพร้าวสด” ลงไปในการทำกาแฟลาเต้โดยทั่วไปที่ใช้นมวัว  หรือบางร้านใช้มะพร้าวอบแห้งโรยหน้าลาเต้ที่ใช้นมวัว แล้วเรียก โคโคนัท ลาเต้ ก็มีนะครับ

เวลาไปสั่งออเดอร์หน้าเคาน์เตอร์ร้าน สอบถามพนักงานเลยนะครับ จะได้ไม่พลาด

แล้วถ้าไปร้านกาแฟแล้วสั่งว่ากาแฟมะพร้าว ก็อาจจะได้เอสเพรสโซ่กับน้ำมะพร้าวหอมๆ มาแทนลาเต้กะทิหรือโคโคนัท ลาเต้ นี่เป็นอีกข้อพึงสังเกตครับ


facebook : CoffeebyBluehill

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *