คอลัมน์: สื่อสารการตลาดตามใจฉัน
โดย อ.ลี บราลี ที่ปรึกษาธุรกิจสร้างภาพลักษณ์องค์กรและสื่อสารการตลาด
ช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงเวลาทองสำหรับธุรกิจทุกประเภท เพราะเป็นช่วงที่ผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูง ตั้งแต่เทศกาลต่างๆ จนถึงการเตรียมตัวรับปีใหม่ การวางแผนกลยุทธ์การตลาดที่ถูกต้องจะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตและทำยอดขายได้อย่างน่าพอใจ ผู้เขียนเลยรวบรวมกลยุทธ์การตลาด และการทำโปรโมชั่นสินค้าในช่วงปลายปี ที่เคยทำมาแล้วได้ผลรับที่ดีเอามาแชร์ต่อ ทุกประเภทธุรกิจสามารถปรับเอาไปใช้ได้ตามต้องการเลยค่ะ
1.การตลาดเทศกาล – ใช้โอกาสพิเศษให้คุ้มค่า
ช่วงไตรมาสสุดท้ายเต็มไปด้วยเทศกาลสำคัญไล่มาตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้ เช่น ฮัลโลวีน ลอยกระทง คริสต์มาส และปีใหม่ การนำเทศกาลเหล่านี้มาใช้ในการทำการตลาดจะช่วยสร้างความใกล้ชิดกับลูกค้าได้มากขึ้นและกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากจับจ่ายใช้สอย เพราะอาจได้สินค้าราคาพิเศษหรือกิฟท์เซทที่มีเฉพาะช่วงเวลานี้เท่านั้น
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ร้านอาหารอาจจัดเมนูพิเศษช่วงลอยกระทง เช่น มาทานข้าวตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป รับกระทงใบตอง ที่นำไปลอยในแม่น้ำได้โดยไม่ทำลายแม่น้ำและสิ่งแวดล้อม หรือ ลอยกระทงออนไลน์กับทางร้าน ลอยเสร็จรับคูปองส่วนลดเงินสดสำหรับมาทานอาหารครั้งหน้า
- ร้านเสื้อผ้าจัดคอลเลคชั่นสีทองเงินต้อนรับปีใหม่
- ร้านกาแฟทำ Christmas Blend พร้อมแก้วสุดพิเศษที่สั่งทำมาเฉพาะช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่นี้เท่านั้น
หลักสำคัญคือต้องเชื่อมโยงสินค้าหรือบริการให้เข้ากับบรรยากาศเทศกาลอย่างเป็นธรรมชาติ ไม่ใช่แค่แปะโลโก้เทศกาลเข้าไป
2.โปรโมชั่นแบบขั้นบันได – กระตุ้นยอดขายอย่างต่อเนื่อง
แทนที่จะทำโปรโมชั่นครั้งเดียวใหญ่ๆ ลองแบ่งเป็นหลายช่วงแทน เช่น “โปรแรงวันลอยกระทง” “โปรอุ่นใจรับหนาว” และ “โปรส่งท้ายปี” วิธีนี้จะช่วยรักษาความสนใจของลูกค้าตลอดทั้งไตรมาส
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ร้านเครื่องสำอางอาจเริ่มด้วย “ซื้อ 1 แถม 1 ลิปสติก” ต้นเดือนตุลาคม ต่อด้วย “ลด 30% ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวหน้าหนาว” เดือนพฤศจิกายน และจบด้วย “ของขวัญปีใหม่ฟรี” เมื่อซื้อครบจำนวน
- ร้านเสื้อผ้าแบ่งเป็น “ลดราคาเสื้อกันหนาว 20%” → “ซื้อ 2 ชิ้น ลดเพิ่ม 10%” → “ลดสุดสัปดาห์สุดท้ายปี 50%” หากคาดการณ์ว่าหน้าหนาวนี้อาจไม่หนาวมาก ลองปรับการทำโปรโมชั่นเสื้อกันหนาวเป็นแจ๊กเกตกันลม กันฝน ที่สามารถนำไปใช้ได้ตลอดทั้งปี จะทำให้คนสนใจโปรนี้มากกว่า
3.การตลาดแบบเฉพาะกลุ่ม – เข้าใจลูกค้าให้ลึกซึ้ง
แทนที่จะโฆษณาไปทั่วๆ ลองมองลูกค้าเป็นกลุ่มเล็กๆ แล้วทำการตลาดที่ตอบโจทย์แต่ละกลุ่มเป็นพิเศษ
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ร้านเบเกอรี่อาจแบ่งเป็น “ขนมคุกกี้สำหรับคุณแม่ที่อยากทำให้ลูก” และ “เค้กสวยหรูสำหรับผู้หญิงวัยทำงานที่จะเอาไปเลี้ยงเพื่อนร่วมงาน” หรือเปิดให้ลูกค้ามีส่วนร่วมในการออกแบบดีไซน์หน้าเค้ก ตามที่ลูกค้าต้องการโดยทางร้าน ต้องเตรียมคนมาช่วยสอนลูกค้าก็จะถูกใจ ลูกค้าที่ชอบทำอะไรแบบดีไซน์เฉพาะตัวมีชิ้นเดียว เพื่อเอามาทานในครอบครัวหรือส่งมอบเป็นของขวัญในงานเลี้ยงคริสตมาส งานปีใหม่
- ธุรกิจฟิตเนสแบ่งเป็น “คลาสลดน้ำหนักก่อนปีใหม่สำหรับคนอายุ 30+” และ “คลาสเต้นเพื่อสุขภาพสำหรับวัยรุ่น” และคลาสออกกำลังกายเฉพาะผู้สูงวัย 60 ปีขึ้นไป
การรู้จักลูกค้าแต่ละกลุ่มทำให้เราสื่อสารได้ถูกใจและลูกค้ารู้สึกว่าเราเข้าใจเขาจริงๆ
4.เน้นประสบการณ์มากกว่าสินค้า – สร้างความประทับใจ
คนสมัยนี้ไม่ได้อยากได้แค่สินค้า แต่อยากได้ประสบการณ์ที่ดีด้วย โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลที่ทุกคนอยากได้ความสุขและความทรงจำดีๆ อันนี้เป็นโจทย์ของผู้ประกอบการธุรกิจที่จะสร้างสรรค์ไอเดียอย่างอิสระ ทั้งการจัดโปรโมชั่น การเลือกทำโปร การเสนอโปรแกรมทดลองใช้ที่ให้ลูกค้ารู้สึกอยากใช้สินค้านั้นสักครั้งนึง ก่อนตัดสินใจซื้อเป็นเจ้าของชิ้นนั้นๆ
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ร้านกาแฟจัดมุมถ่ายรูปสวยๆ แต่งตามเทศกาล พร้อมเครื่องดื่มสีสันสดใส หรือครีเอทกาแฟสูตรพิเศษ ที่มีเฉพาะช่วงเทศกาลเท่านั้น
- ร้านหนังสือจัดกิจกรรมอ่านหนังสือร่วมกัน พร้อมเชิญนักเขียนที่อยู่ในความสนใจในช่วงเวลานั้นๆ มาพูดคุยกับผู้อ่าน พร้อมเสิร์ฟชาร้อนในบรรยากาศอบอุ่น
- ร้านดอกไม้จัดคลาสทำพวงมาลัยกระทงเองแทนที่จะแค่ขายกระทงสำเร็จรูป
- ร้านเบเกอรี่ สอนลูกค้าทำเค้กสูตรที่ออกแบบเองและดีไซน์หน้าเค้กด้วยตัวเอง
- แบรนด์ เครื่องสำอาง ใช้เทคโนโลยี AR (Augmented Reality) ฟิลเตอร์สำหรับทดลอง สีลิปสติก หรือการแต่งหน้าตามสีสรรต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นสีจริงๆเวลาอยู่บนหน้า เชิญลูกค้าร่วมทดลองทั้งแบบ online และที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
เมื่อลูกค้าได้ประสบการณ์ดี พวกเขาจะกลับมาซื้อซ้ำและแนะนำเพื่อนมาด้วย
5.ใช้สื่อสังคมออนไลน์แบบมีกลยุทธ์ – เข้าถึงลูกค้ายุคใหม่
การโพสต์ลงโซเชียลมีเดียไม่ใช่แค่แชร์ภาพสินค้า แต่ต้องมีแผนและเป้าหมายชัดเจน
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ใช้ Facebook ส่วนตัวหรือ FaceBook Reels รวมทั้ง FaceBook Story สร้างสรรค์งานสำหรับโพสต์ข่าวสารและโปรโมชั่น ที่แตกต่างชิ้นงานกัน เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังใช้เฟซบุ๊กเป็นหลัก โดยทำเป็นคลิปสั้นใส่เพลงกระแส ใส่ข้อความสั้นๆที่น่าสนใจจะทำให้คนอยากดูมากกว่า นำเสนอสินค้าหรือโปรโมชั่นแบบตรงไปตรงมา
- ใช้ Instagram สำหรับโชว์บรรยากาศร้านและภาพสินค้าสวยๆ อย่าลืมการ tag สินค้าเมื่อทำการโพสต์เพื่อให้คนกดเข้าไปดูสินค้านั้นๆ
- ใช้ TikTok ทำคลิปสั้นสอนวิธีใช้สินค้าหรือเบื้องหลังการทำงาน รวมทั้งการสร้างแบรนด์ของสินค้าอย่างต่อเนื่อง เปิดใช้งาน TikTok Shop เพื่อนำเสนอสินค้าที่จัดโปรโมชั่น ส่วนลดพิเศษกับทางแพลตฟอร์มตลอดปี
- ใช้ LINE Official Account สำหรับส่งโปรโมชั่นเฉพาะลูกค้าพิเศษ และเปิดใช้งาน Line Shopping เพื่อทำกิจกรรมการตลาด จัดโปรโมชั่นต่างๆ ได้ต่อเนื่อง
อย่าลืมตอบข้อความลูกค้าให้เร็วและเป็นมิตร เพราะนี่คือจุดที่ทำให้ลูกค้าประทับใจได้ง่ายที่สุด
6.สร้างความร่วมมือกับธุรกิจข้างเคียง – ขยายฐานลูกค้า
แทนที่จะแข่งกันเดี่ยวๆ ลองหาพาร์ทเนอร์ที่ธุรกิจเสริมกันมาจอยโปรโมชั่นกัน หรือทำกิจกรรมพิเศษร่วมกันเฉพาะกิจ
ตัวอย่างการใช้งาน:
- ร้านกาแฟจับมือร้านเบเกอรี่ ทำโปรโมชั่น “กาแฟ + ขนมปังราคาพิเศษ”
- ร้านดอกไม้ร่วมมือร้านของขวัญ จัดแพ็กเกจ “ดอกไม้ + ของขวัญ” สำหรับคนที่จะไปเยี่ยมมิตรสหาย
- ร้านเสื้อผ้าจับมือร้านกระเป๋า ให้ส่วนลดซึ่งกันและกัน
การร่วมมือแบบนี้ช่วยให้ลูกค้าของแต่ละร้านได้รู้จักร้านอื่นด้วย ขยายฐานลูกค้าโดยไม่ต้องลงทุนโฆษณาเพิ่ม
สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้
การทำการตลาดในไตรมาสสุดท้ายไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องเตรียมตัวให้พร้อมและมีแผนชัดเจน เริ่มจากการเข้าใจลูกค้าของเราจริงๆ ว่าพวกเขาต้องการอะไร แล้วจึงเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจและงบประมาณของเรา
อย่าพยายามทำทุกกลยุทธ์พร้อมกัน เลือกสัก 2-3 อย่างแล้วทำให้ดี การทำน้อยแต่ดีจะให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าทำเยอะแต่กระจัดกระจาย
สุดท้ายแล้ว การตลาดที่ดีที่สุดคือการทำให้ลูกค้ารู้สึกดีเวลาที่ซื้อสินค้าหรือใช้บริการเรา เมื่อพวกเขามีความสุข Happy จากผลลัพธ์การใช้สินค้าและบริการที่ดีประทับใจพวกเขาจะเป็นทั้งลูกค้าประจำและนักโฆษณาให้เราโดยอัตโนมัติ ชอบการทำกิจกรรมการตลาดแบบไหนส่งท้ายปี ลองเอาไปปรับใช้กันดูนะคะ ลีเลือกเอามาเฉพาะที่ไม่ได้ใช้งบเยอะทุ่มทุนเกินไป เอาที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์อัพเดทสิ่งใหม่ๆลงไป ปรับให้ตรงกับแบรนด์ก็จะมีกิจกรรมส่งท้ายปี ที่ใช้ได้จริงค่ะ
เกี่ยวกับผู้เขียน อาจารย์ ลี บราลี
- ที่ปรึกษาด้านสื่อสารการตลาด (Marketing Communications) การสร้างภาพลักษณ์องค์กร การประชาสัมพันธ์ และการตลาดออนไลน์
- มีประสบการณ์การเป็นผู้บริหาร Chief Operation Officer บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาด การสร้างภาพลักษณ์องค์กร ดูแลวางแผนกลยุทธ์ให้ลูกค้าทุกประเภทธุรกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่า 37 ปี
- ทำธุรกิจ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชราทั้งในไทยและต่างประเทศ
- อาจารย์พิเศษ คณะนิเทศศาสตร์ให้กับมหาวิทยาลัยภาครัฐ และเอกชน
- วิทยากรบรรยายด้านการสื่อสารการตลาด สร้างภาพลักษณ์องค์กร การประชาสัมพันธ์ และการตลาดออนไลน์ ให้กับหน่วยงานภาครัฐและบริษัทเอกชน
- วิทยากรบรรยายด้านสุขภาพศาสตร์แพทย์ชะลอวัย และ Wellness
- ดิจิตัล ครีเอเตอร์ ช่องเกี่ยวกับสุขภาพศาสตร์ชะลอวัย
- คอลัมนิสต์บทความด้านการตลาด การตลาดออนไลน์และประชาสัมพันธ์ให้กับเว็บไซต์สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจ www.SMEbiznews.com คอลัมน์ SME Knowledge