ในที่สุด หนึ่งในมหกรรมงานเทศกาลกาแฟที่ยิ่งใหญ่ระดับโลกที่เรียกกันว่า “เวิลด์ ออฟ คอฟฟี่” (World of Coffee) กำลังเดินทางมาถึงประเทศไทยเสียที หลังจากกรุงเทพมหานคร ได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ ประจำภูมิภาคเอเชียในปีหน้า
เมื่อกลางเดือนพฤษภาคมนี้เอง สมาคมกาแฟพิเศษ (SCA) ประกาศระหว่างงานเทศกาลกาแฟ เวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ จาการ์ต้า 2025 ว่า เมืองต่อไปที่จะจัดงาน ประจำปี 2026 คือ “กรุงเทพมหานคร” โดยมีสมาคมบาริสต้าแห่งประเทศไทย เป็นเจ้าภาพร่วมกับสมาคมกาแฟพิเศษ (SCA) และเอ็กซ์โปรัม บริษัทใหญ่ด้านการรับจัดงานอีเวนท์และนิทรรศการจากเกาหลีใต้
ผู้เขียนออกจะเซอร์ไพรส์มากทีเดียว ตอนแรกคิดว่าไม่โตเกียวก็ปักกิ่งน่าจะได้เป็นเจ้าภาพปีหน้า แต่พอทราบข่าวว่า เวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ จะมาจัดงานกันที่ประเทศไทย ก็ดีใจเป็นธรรมดาครับ เพราะเป็นงานแสดงสินค้าและอีเวนต์ที่สำคัญมากๆ ของวงการ “กาแฟพิเศษ” (Specialty Coffee) ถือเป็นอีกเทศกาลกาแฟที่มีชื่อเสียงระดับโลก
เป้าหมายของงานก็คือเชื่อมโยงทุกภาคส่วนของกาแฟเข้าไว้ด้วยกัน ตั้งแต่เกษตรกร, ผู้ผลิต, ผู้นำเข้า, โรงคั่ว, ร้านกาแฟ, บาริสต้า, ผู้จำหน่ายผลิตภัณฑ์ และผู้บริโภค รวมทั้งมีมืออาชีพด้านกาแฟจากทั่วโลกมาชุมนุมกันด้วย โชคดีของคนกาแฟเมืองไทยที่จะมีโอกาสสัมผัสกับผู้เชี่ยวชาญระดับโลก
คอกาแฟบ้านเราเตรียมตัว-เตรียมสตางค์-เตรียมเดินทางกันไว้ได้เลยครับ “เวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ แบงก์ค็อก” มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 7- 9 พฤษภาคม 2026 ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กทม.
อันที่จริง เทศกาลกาแฟในบ้านเราก็จัดกันบ่อย ปีหนึ่งๆ ก็มีหลายงานหลายเจ้าภาพทีเดียว แต่สำหรับเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ สเกลจะมีขนาดใหญ่ขึ้นมาก จากระดับชาติที่คุ้นเคยกันก็จะยกระดับขึ้นสู่เวทีสากลระดับโลก นอกจากเป็นการรวมตัวของคนในแวดวงกาแฟจากทั่วทุกมุมโลกแล้ว แล้วยังมีรายการแข่งขันประกวดกาแฟ “ชิงแชมป์โลก” มาอยู่ในเทศกาลนี้ด้วยนะ
ย้อนรอยประวัติกันสักนิดนึงครับ…เทศกาลกาแฟเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1999 โดยสมาคมกาแฟพิเศษ แรกๆก็จัดงานกันที่เมืองบอสตัน รัฐแมสซาชูเซตส์ คล้ายๆงานประจำปี จากนั้นพอกระแสตลาดกาแฟพิเศษเริ่มร้อนแรงขึ้น ก็เริ่มตระเวนไปจัดตามเมืองใหญ่ๆของโลก เช่น มิลาน, เจนีวา, บาร์เซโลนา, เอเธนส์ และดูไบ พอปี 2024 ก็มาแตกไลน์แบ่งจัดงานออกเป็น 2 ภูมิภาค คือ “ยุโรป” กับ “เอเชีย”
ตกถึงปี 2026 ก็เพิ่ม “ละตินอเมริกา” เข้ามาอีกหนึ่งโซน จะมีการจัดขึ้นที่ปานามาเป็นครั้งแรกของทวีปนี้ รวมเบ็ดเสร็จแล้วก็ 3 ภูมิภาค ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นตลาดผู้บริโภคกาแฟขนาดใหญ่ทั้งสิ้น
เวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ เวอร์ชั่นเอเชีย เริ่มจัดเป็นครั้งแรกที่ปูซาน เกาหลีใต้ เมื่อปี 2024 ตามด้วยจาการ์ตา ของอินโดนีเซีย ปี 2025 ต่อด้วยกรุงเทพมหานคร ในปี 2026
ไม่ได้ชมเชยกันเพราะความเป็นคนไทยนะครับ ผู้เขียนมองด้วยสายตาแล้วพบว่า การออกแบบ “โลโก้” งานที่กรุงเทพฯ มีความประณีตและความงดงามมากๆ หยิบเอาวัฒนธรรมและความศิวิไลซ์มาผสมผสานกันอย่างลงตัว ดูจะมีเสน่ห์ชวนมองมากกว่าโลโก้ที่ปูซานและจาการ์ต้า …นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆ เลยครับ
อ้อ.. สมาคมกาแฟพิเศษที่มักนิยมเรียกชื่อกันสั้นๆว่า SCA เป็นองค์กรระดับโลกที่มุ่งเน้นส่งเสริมคุณภาพและมาตรฐานในวงการกาแฟพิเศษ รวมไปถึงกำหนดกฎกติกาในการแข่งขันประกวดกาแฟด้วย องค์กรนี้เกิดจากการรวมตัวกันของสมาคมกาแฟพิเศษสหรัฐอเมริกากับสมาคมกาแฟพิเศษยุโรป เมื่อปลายปี 2016
มาฟังเหตุผลกันหน่อยครับว่าทำไมถึงเลือกกรุงเทพฯเป็นสถานที่จัดงาน เวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ เอเชีย ในปีหน้า
“ยานนิส อะโพสตูลอปูลอส” ซีอีโอสมาคมกาแฟพิเศษ วิศวกรเคมีที่หันมาเอาดีในวงการกาแฟพิเศษ กล่าวเอาไว้ว่า ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา วงการกาแฟพิเศษของประเทศไทยเติบโตแบบก้าวกระโดดทีเดียว
หัวเรือใหญ่สมาคมกาแฟพิเศษ ยังบอกว่า การเลือกไทยให้เป็นสถานที่จัดงานในปีหน้า ก็เป็นเพราะความแข็งแกร่งของชุมชนกาแฟไทย ตั้งแต่ไร่กาแฟบนดอยที่เชียงใหม่ไปจนถึงร้านกาแฟในกรุงเทพฯ ที่สะท้อนให้เห็นถึงนวัตกรรมและงานฝีมือแบบคราฟส์แมนชิพ รวมไปถึงวัฒนธรรมกาแฟที่หยั่งรากลึกในประเทศไทย นอกจากนั้น กรุงเทพฯก็ยังมีความพร้อมในการจัดงานอีเวนท์ระดับโลกอีกด้วย
ส่วน “แดนนี่ ชิน” ซีอีโอแห่งเอ็กซ์โปรัม กล่าวว่า ในโลกของกาแฟทั่วเอเชีย เราจะได้เห็นเอนเนอจี้ใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ และโอกาสใหม่ๆ กรุงเทพมหานครถือเป็นก้าวต่อไปที่สมบูรณ์แบบในการเดินทางของโลกกาแฟ เมืองนานาชาติที่เปี่ยมไปด้วยพลัง มีร้านกาแฟพิเศษที่มีชื่อเสียง และมีอิทธิพลที่เพิ่มมากขึ้นในแวดวงกาแฟระดับโลก
ก็เป็นเรื่องจริงไม่อิงนิยายและสัมผัสได้ในเรื่องที่ว่าตลาดกาแฟพิเศษในไทยมีการเติบโตที่รวดเร็วอย่างค่อนข้างมีคุณภาพทั้งในส่วนของผู้ผลิตและผู้บริโภค ตั้งแต่ต้นน้ำอย่างเทคนิคการปลูกกาแฟ, เก็บเกี่ยว, แปรรูป, การคั่ว และการชง จนถึงปลายน้ำอย่างการดื่มกาแฟที่ผู้บริโภคก็มีความรู้รอบควบคู่ไปกับพัฒนาของเครื่องดื่มกาแฟ แถมเป็นตลาดที่ผู้บริโภคหันมาดื่มกาแฟกันมากขึ้น สังเกตุจากร้านกาแฟทุกระดับที่ผุดขึ้นราวดอกเห็ด
งานนี้คุณ “มีชัย อมรพัฒนกุล” นายกสมาคมบาริสต้าไทย ได้เดินทางไปลงนามในพิธีส่งมอบสิทธิความเป็นเจ้าภาพเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ เอเชีย ครั้งที่ 3 ถึงกรุงจาการ์ตาเลยทีเดียว
กับงานที่จาการ์ตาในปีนี้ซึ่งเพิ่งจบไป ยานนิส อะพอสโตโลโปลอส หัวเรือใหญ่สมาคมกาแฟพิเศษ พูดถึงเป้าหมายสำคัญของงานว่า ต้องการเปลี่ยน “มุมมอง” ของคนที่มีต่อกาแฟเสียใหม่ในฐานะที่อินโดนีเซียก็เป็นประเทศผู้ผลิตกาแฟอยู่ด้วย คือ อยากให้มองกาแฟเหมือนกับอาหารหรือไวน์ชั้นเลิศ มากกว่าเป็นเครื่องดื่มธรรมดาๆ
ส่วนที่กรุงเทพฯ ในปีหน้า เข้าใจว่ายังไม่ได้กำหนดคอนเซปท์ของงานกันชัดเจน แต่ผู้เขียนไปเห็นข่าวจากเว็บไซต์เดลี่คอฟฟี่นิวส์ ที่ให้ข้อมูลว่า อาจจะเป็นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการ “แก้ไขปัญหา” ของทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคกาแฟพิเศษในคราวเดียวกัน
อีกเรื่องที่ผู้เขียนสนใจใคร่อยากรู้มากๆ ก็คือ ในเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ แบงก์ค็อก จะได้รับเกียรติให้เป็นเวทีจัด “ศึกชิงแชมป์โลก” กาแฟรายการไหนกันบ้าง
ปี 2024 ที่ปูซาน มีการจัดแข่งขัน “บาริสต้า” ชิงแชมป์โลก ก็ที่มิคาเอล จาซิน หนุ่มอินโดนีเซีย แห่งฟอเร่ คอฟฟี่ (Fore Coffee) คว้าแชมป์ไปครอง ส่วนที่จาการ์ต้าในปีนี้ เปลี่ยนไปจัดประกวด “บรูเออร์ส” ชิงแชมป์โลกแทน มีบาริสต้าชาวจีน เจ้าของโรงคั่วกัปตันจอร์จ คอฟฟี่ โรสเตอร์ส (Captain George Coffee Roasters) นามว่า จอร์จ จินหยาง เผิง ได้แชมป์ไป
ถ้าให้ลองเดาล้วนๆ ก็น่าจะเป็นรายการบาริสต้าชิงแชมป์โลกนะ เพราะเจ้าภาพจัดงานเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ เอเชีย ที่กรุงเทพฯ ก็ไม่ใช่ที่ไหน คือ สมาคมบาริสต้าแห่งประเทศไทย นั่นเอง
ตอนพิธีเปิดงานเมหกรรมกาแฟโลกที่จาการ์ต้า นั้น รัฐมนตรีกิจการด้านอาหารของอินโดนีเซีย ได้ประกาศแผนใหญ่ระดับบิ๊กโปรเจกต์ ต้องการผลักดันให้อินโดนีเซียกลายเป็นผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่เป็น “อันดับสองของโลก” ตั้งเป้าขอแซงหน้าทั้งเวียดนามกับโคลอมเบีย พร้อมกับเรียกร้องให้ภาครัฐและภาคเอกชนร่วมมือร่วมใจกันอย่างจริงจัง
ผู้เขียนเลยชักจะอยากรู้อีกแล้วว่า เมื่อจะต้องป่าวประกาศให้ชาวโลกได้รับรู้กันอย่างเป็นทางการ รัฐบาลไทยวางทิศทางอนาคตของตลาดกาแฟไว้อย่างไรกันบ้าง หากว่าในพิธีเปิดเวิลด์ ออฟ คอฟฟี่ แบงก์ค็อก 2026 สมาชิกในคณะรัฐบาลหรือกระทั่งระดับผู้นำได้รับเชิญให้ไปพูดในเรื่องราวที่จำเป็นต้องมีเนื้อหาสาระสำคัญจริงๆ
ขอต้อนรับสู่ประเทศไทยด้วยความยินดียิ่ง สุดยอดมหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ระดับโลก World of Coffee Bangkok 2026
facebook : CoffeebyBluehill
