บริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) และ เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศปิดดีลขายโครงการโรงไฟฟ้า 12 แห่ง และโครงการผลิตเชื้อเพลิง SRF 3 แห่งให้แก่ยักษ์ใหญ่อย่าง GULF ด้วยมูลค่าสูงถึง 1,100 ล้านบาท เพื่อลดความซับซ้อนในการบริหารและเสริมสภาพคล่องให้แก่บริษัทในสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มเข้าสู่สภาวะเงินฝืด
การตัดสินใจขายโครงการครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความท้าทายหลายมิติ เนื่องจากสัดส่วนการถือหุ้น 50% ของทั้งสองบริษัทส่งผลให้เกิดความซับซ้อนในการบริหารงาน นอกจากนี้การลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าทั้ง 12 แห่งและโรงผลิตเชื้อเพลิง 3 แห่งต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ซึ่งอาจส่งผลต่อสภาพคล่องของ BWG และ ETC ในระยะยาวได้เนื่องจากการระดมทุนของกลุ่มบริษัทฯมาจากการออกหุ้นกู้จึงทำให้มีต้นทุนทางการเงินสูง ทางฝ่ายบริหารจึงได้วิเคราะห์ผลตอบแทนและความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ โดยทางบริษัทเชื่อมั่นว่าการขายโครงการโรงไฟฟ้าและโรงผลิตเชื้อเพลิงจะเป็นการเสริมความแข็งแกร่งด้านสภาพคล่องให้แก่ทั้ง 2 บริษัทฯและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อผู้ถือหุ้น
BWG และ ETC สามารถปิดดีลมูลค่า 1,100 ล้านบาท โดยมีกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital gain) ที่บริษัทได้รับสูงถึง 517.5 ล้านบาท ซึ่งเมื่อเทียบกับมูลค่าปัจจุบันสุทธิ (NPV) ของโครงการ นับว่าเป็นผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจโดยไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงในการดำเนินงานเลย
ณัฐพรรณ เหลืองวิริยะ กรรมการและรองกรรมการผู้จัดการสายงานพัฒนาธุรกิจและสื่อสารองค์กร กล่าวว่า “การขายโครงการครั้งนี้คือการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้ถือหุ้น เรามองว่าเป็นราคาที่เหมาะสม รวมถึงการลงทุนในสภาวะเศรษฐกิจที่มีความท้าทายในหลายด้านอาจส่งผลเสียในระยะยาวต่อบริษัทฯ ทางฝ่ายบริหารจึงตัดสินใจขายโครงการเพื่อลดสัดส่วนหนี้สินเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจและมองหาโอกาสเติบโตครั้งใหญ่ในอนาคต”
สำหรับก้าวต่อไปของ BWG และ ETC วางแผนจะนำเงินสดที่ได้ไปชำระหนี้หุ้นกู้เพื่อลดสัดส่วนหนี้สินเนื่องจากบริษัทฯมีต้นทุนทางการเงินที่ค่อนข้างสูง การถือเงินสดส่วนที่เหลือจากการชำระหนี้หุ้นกู้ไว้ในมือท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจโลกที่น่ากังวลคือ “โอกาสครั้งสำคัญ” ที่จะใช้ในการเข้าลงทุนและสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดในอนาคต ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า BWG และ ETC กำลังจะเปิดฉากธุรกิจบทใหม่ในเร็วๆ นี้ ณัฐพรรณ กล่าวเสริม