“Big Motor Sale 2020” จัดเต็มแบบ New Normal เน้น “ขาย” กระตุ้นเศรษฐกิจ

ภาพจาก Facebook : Bigmotorsale

งาน Big Motor Sale 2020 จัดขึ้นเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียน โดยทุกแบรนด์มีแคมเปญเด็ด ขณะที่ผู้จัดยืนยันความปลอดภัย ใช้มาตรการเข้มข้นป้องกันโควิด-19

วิภาวี สิทธิโยธาคาร

วิภาวี สิทธิโยธาคาร รองประธานบริหารทั่วไป บริษัทยานยนต์สแควร์ กรุ๊ป จำกัด ผู้จัดงาน Big Motor Sale 2020 กล่าวว่า งานปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 21-30 สิงหาคมนี้ ที่ไบเทค บางนา ภายใต้แนวคิด “มหกรรมยานยนต์ เพื่อขายวิถีใหม่” ซึ่งปีนี้อาจไม่คล่องตัวเหมือนกับปีอื่นๆ ที่ผ่านมา เนื่องจากสถานการณ์โควิด-19

เมื่อเราคิดว่าจะจัดงาน ก็ต้องมีมาตรการที่ทำให้คนรู้สึกปลอดภัย ซึ่งเป็นมาตรการทั่วๆ ไปที่ทำให้ประเทศเราหลุดพ้นจากสถานการณ์โควิด-19 คือ การสวมหน้ากาก รักษาระยะห่าง หมั่นล้างมือบ่อยๆ เราต้องไม่เป็นพาหะและต้องไม่ไปรับเชื้อมา นี่คือหลักการทำงานในปีนี้ที่เพิ่มขึ้นมาเป็นพิเศษ ทุกหน่วยงานที่เข้ามาร่วมกับเรา รวมทั้งผู้ประกอบการต้องปฏิบัติตามมาตรการค่อนข้างเข้มข้น เพื่อให้ผู้มาชมงานรู้สึกปลอดภัย

เริ่มจากเดินเข้างานต้องมีการวัดอุณหภูมิ สแกนคิวอาร์โค้ด เมื่อเข้าไปในงานแล้ว ผู้ที่เข้าชมงานก็มีความอยากซื้อ ผู้ประกอบการก็คือคนที่อยากขาย เมื่อสองฝ่ายมาเจอกัน น่าจะตกลงกันได้ง่าย เพราะมีแคมเปญต่างๆ ที่เตรียมเสนอไว้อย่างเข้มข้น เป็นแคมเปญของคนที่อยากจะขาย

แคมเปญพวกนี้ส่วนใหญ่จะใกล้เคียงกันในแต่ละแบรนด์ คนที่คิดว่าจะตัดสินใจซื้อด้วยแคมเปญอย่างเดียวอาจจะมีบ้าง แต่หลายคนที่เป็นแฟนหนังสือของเรา ก่อนที่จะเปิดงานก็มีโทรเข้ามา แอดไลน์เข้ามาถามรายละเอียดข้อมูลต่างๆ ของรถ แล้วค่อยเอาไปผสมกับแคมเปญที่เจอในงาน มีการทดลองขับขี่ ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญของคนที่อยู่ในรถวันละหลายชั่วโมง ทั้งนี้แคมเปญเป็นส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งที่เป็นส่วนใหญ่ ก็คือคุณภาพของรถ สมรรถภาพของรถ และความพอใจที่ผู้ซื้อจะมีต่อรถนั้นๆ ดังนั้นคิดว่าการที่เราได้เห็นหลายๆ แบรนด์ในที่เดียวกัน ดีกว่าไปที่โชว์รูมแต่ละแบรนด์ๆ แน่นอน

วิภาวี กล่าวว่า ภายในงานจะพบแบรนด์รถยนต์ชั้นนำทุกแบรนด์ และแบรนด์มอเตอร์ไซต์ 5 แบรนด์ แต่แอกเซสซอรีปีนี้ จะน้อยกว่าเดิม ซึ่งเท่าที่มีอยู่ก็เป็นอุปกรณ์ที่มีคุณภาพ และมีคนที่พอใจก็มาเลือกซื้อกัน พวกอุปกรณ์ประดับยนต์จะค่อนข้างน้อย เพราะเราเน้นที่รถยนต์ เน้นที่มอเตอร์ไซต์ นอกจากนี้ ยังมีรถมือสองซึ่งเป็นรถระดับพรีเมียม และมีรถนำเข้าจากผู้นำเข้าอิสระ

สำหรับคนที่มาร่วมงาน ยอมรับว่าต้องดรอปลงกว่าปีที่แล้วแน่นอน ด้วยสถานการณ์หลายๆ อย่าง แต่ว่ามั่นใจว่าคนที่มาชมรถในงาน ส่วนใหญ่จะมีกำลังซื้อและคิดว่าซื้อ ในขณะที่แบรนด์ที่มาก็คือแบรนด์ที่อยากขาย ซึ่งการซื้อรถคันหนึ่งหรือขายรถได้คันหนึ่ง จะมีส่วนที่จะช่วยผลักดันเศรษฐกิจได้มาก เพราะรถหนึ่งคันมีอุปกรณ์ มีชิ้นส่วน มีแรงงานที่ต้องใช้

แล้วแรงงานนั้นมีครอบครัวมั้ย พนักงานขายมีครอบครัวมั้ย แค่ร้านขายข้างแกงหน้าโรงงานก็มีผลแล้ว คือมีการเคลื่อนไหว ถ้าเราขายรถได้คันหนึ่ง นอกจากนี้ยังมี บริษัทประกัน บริษัทการเงิน ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร รวมถึงการท่องเที่ยวที่เป็นเส้นเลือดสำคัญของประเทศเรา แต่ละอย่างมันต้องเคลื่อนไหวไปด้วยกัน ดังนั้น ถ้ายอดรถตกแล้วไม่สู้เลย เป็นความคิดที่ง่ายไป มันต้องดิ้นถึงจะอยู่รอดได้ เราจึงจัดงานนี้ขึ้นมา

วิภาวี กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ขึ้นมา เพราะหนึ่งคิดว่าจะต้องสู้ สอง ในการจัดงานนี้ ไม่ได้มีความเคลื่อนไหวเฉพาะผู้จัดงาน หรือผู้ขายรถ แต่เริ่มตั้งแต่การจ้างงาน จ้างการก่อสร้าง การเช่าสถานที่ การบริหารจัดการในเรื่องการแสดง ทำให้กระแสเงินเกิดการไหลเวียน เรามองว่าการที่ทำงานแบบนี้มันไม่ใช่ขายรถได้อย่างเดียว แต่มีอย่างอื่นแฝงเข้ามาเยอะ ที่ทำให้เกิดรายได้ เกิดเงินหมุนเวียน อย่างไรก็ต้องจัด

ซึ่งงานปีนี้จะไม่คึกคักเหมือนทุกปี แต่คนที่มาคือคนที่อยากจะซื้อ คนที่มีกำลังที่จะซื้อได้ ดังนั้นจึงอยากเชิญชวนให้มาชมมาดู มาร่วมกันกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยยืนยันมาตรการความปลอดภัยจากโควิด-19 ที่มีอย่างหนาแน่นมาก  @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น