เปิดมุมมอง เจ้าสัว “บุญเกียรติ โชควัฒนา” ทางเลือก ทางรอดจากวิกฤติโควิด-19

เจ้าสัว”บุญเกียรติ โชควัฒนา” เตือน คนไทยอย่าตื่นตระหนกเรื่องเชื้อไวรัสโควิด-19 ขอให้ทำตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ที่เกิดการแพร่ระบาดเยอะ เพราะคนละเลยไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำ เชื่อ อีกไม่นานสถานการณ์จะดีขึ้น

ดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา กรรมการผู้อำนวยการ และประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ทุกอย่างเงียบไปหมด แต่ก็มีบางธุรกิจที่อาจได้ประโยชน์จากไวรัส เช่น เรื่องหน้ากากอนามัย เรื่องเจลแอลกอฮอล์ ซึ่งต้องไม่ค้ากำไรเกินควรกับประชาชน ต้องขายในราคาที่เหมาะสม

ดร.บุญเกียรติ โชควัฒนา

เรื่องอาหารตอนนี้มีคนกักตุนกันเยอะ ส่วนตัวมองว่าเป็นการกักตุนที่มากเกินไป ทำให้สินค้าขาดแคลน ยิ่งสินค้าขาดแคลน คนก็ยิ่งตกใจไปกันใหญ่ สิ่งสำคัญคือคนไทยอย่าตกใจในเรื่องที่ไม่ควรตกใจ กำลังการผลิตสินค้าอุปโภค บริโภค ของบริษัทในเครือสหพัฒน์ไม่มีปัญหา แต่เนื่องจากคนตกใจ ก็จะซื้อแบบไม่ลืมหูลืมตา ของเท่าไรก็ไม่พอ แล้วก็อาจเอาไปตุนไว้เฉยๆ ไม่ได้ใช้

ดร.บุญเกียรติ เชื่อว่าอีกไม่นานสถานการณ์จะต้องดีขึ้น โดยดูจากประเทศจีนที่ตอนนี้ก็เห็นสัญญาณแล้วว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เริ่มหยุดแล้ว การที่จีนหยุดได้เร็ว เพราะคนของเขายอมทำตามคำแนะนำของภาครัฐ ซึ่งคนไทยจริงๆ ส่วนใหญ่ก็เชื่อฟัง แต่มีส่วนน้อยที่อาจเป็นปัญหา ก็ต้องบอกคนส่วนน้อยที่อาจไม่อยากทำตามหรือดื้อดึงว่าต่อไปนี้ให้ตั้งใจทำตามคำแนะนำของภาครัฐ ซึ่งไม่ได้ลำบากมากมาย เพียงสวมหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ อย่าเอามือไปจับหน้าจับปาก ก็ไม่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 แล้ว แต่คนที่ละเลยไม่ทำตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ทำให้เกิดปัญหาพวกนี้

สำหรับการดูแลพนักงานในเครือสหพัฒน์ก็เหมือนกับทุกที่ คือ จะมีการตรวจวัดอุณหภูมิ ติดสติ๊กเกอร์ แล้วให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ แล้วในออฟฟิศก็สนับสนุนให้พนักงานใส่หน้ากากอนามัย ส่วนฝ่ายธุรการก็ต้องทำความสะอาด เช็ดราวจับบันได เช็ดโต๊ะ ให้สะอาดด้วยแอลกอฮอล์ หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค

บริษัทในเครือสหพัฒน์ และไอ.ซี.ซี. ยังไม่ได้ให้พนักงาน work from home เพราะขณะนี้ในบริษัทยังไม่พบคนที่ติดเชื้อ และสถานการณ์ยังไม่ได้รุนแรงถึงขั้นติดเชื้อกันได้อย่างง่ายดาย อย่างไรก็ตาม เราต้องดูสถานการณ์อีกทีว่าจะทำขนาดไหน อย่างไร เพราะสมัยนี้การสื่อสารดีมาก สามารถทำงานที่บ้านได้ ไม่ลำบาก หรือถ้าสถานการณ์หนักจริงๆ ก็ให้ทำงานอยู่บ้านทั้งหมดก็ได้ เฉพาะคนที่ใช้แรงงานที่ต้องมาทำงาน การประชุมก็สามารถใช้วิดีโอเทเลคอนเฟอเรนซ์ได้

สินค้าในเครือสหพัฒน์ที่ขายดี เช่น พวกอาหาร มาม่า น้ำดื่ม เพราะคนซื้อเยอะเกินไป เยอะจนบางทีผลิตไม่ค่อยทัน ส่วนพวกเสื้อผ้า ยอดขายจะตกเยอะที่สุด เพราะคนจะเห็นว่าไม่จำเป็นเท่าไร และตอนนี้คนไปเดินซื้อของในห้างสรรพสินค้าน้อยลงมาก เราต้องให้บริการลูกค้าดีขึ้น ทักทายลูกค้ามากขึ้น อาจทำให้เขาซื้อสินค้าเรามากขึ้น หรืออาจมีกิจกรรมบางอย่างที่ทำให้คนมาซื้อของในจุดที่เราตั้งของไว้ขายมากขึ้น และการลดราคาก็ไม่ใช่การแก้ปัญหา เพราะตอนนี้ปัญหาคือคนไม่เข้ามาที่ร้าน

ดร.บุญเกียรติ กล่าวว่า สถานการณ์แบบนี้ ธุรกิจเล็กๆ อาจปิดไปแล้ว ในส่วนของบริษัทที่ตนเองดูแลจะไม่มีเรื่องการลดคนอย่างเด็ดขาด เพราะสถานการณ์แบบนี้การหางานใหม่เป็นเรื่องที่ยากมาก ถ้าแย่จริงๆ ก็อาจขอให้ทำงานในเวลาน้อยลง หรือเต็มที่ก็คือลดเวลาทำงาน ทุกคนก็ยังมีเงินเดือนอยู่ ซึ่งหวังว่าวิกฤติโควิด-19 จะจบลงเร็วๆ นี้

ส่วนที่มีคนเสนอให้รัฐบาลปิดประเทศนั้น ดร.บุญเกียรติ กล่าวว่า คนที่เสนออาจไม่ได้คิดเยอะ มีแต่ความกลัวเป็นที่ตั้ง การปิดประเทศมีความเสียหายมากมาย แล้วจะปิดขนาดไหน วันนี้ก็ไม่มีใครมาแล้ว คนที่มาเขาก็ออกไปประเทศเขาเกือบหมดแล้ว ถ้าปิดแบบปิดทุกอย่างในประเทศไม่น่าใช่ ปิดให้ทุกคนอยู่บ้านอย่างเดียวออกไปข้างนอกไม่ได้ก็ไม่น่าใช่

“ถ้าเราใส่หน้ากาก ล้างมือ มันก็ไม่มีทางติดอยู่แล้ว แล้วไปกลัวกันเยอะแยะเลย แค่ทำตามกติกา มีหน้ากาก เจลล้างมือ จบแล้ว มันไม่ติดทุกๆ ส่วนในร่างกาย คนที่ชุ่ย คนที่ละเลย ทำให้เกิดปัญหา แล้วมันก็แพร่ระบาด คนที่ไปดูมวย ผมมั่นใจว่าส่วนใหญ่ไม่ใส่หน้ากาก แต่ถ้าใส่หน้ากากเขาก็ไม่มีปัญหา เพราะคนไม่เชื่อว่ามีปัญหา ไม่ทำตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข ผมอยู่คนเดียวก็ใส่หน้ากากในห้องทำงาน ไม่ใช่เพราะกลัว แต่ทำให้เป็นสัญลักษณ์ ทำให้คนอื่นเห็นว่าผู้ใหญ่ก็ใส่ ให้เป็นเรื่องปกติของคนใส่หน้ากาก” ดร.บุญเกียรติ กล่าว

ดร.บุญเกียรติ ไม่คิดว่าสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 จะยืดเยื้อ อย่างที่ข่าวบอกจะนานถึง 18 เดือนนั้น ถ้านานขนาดนั้น เราก็ลำบากขึ้นเรื่อยๆ เศรษฐกิจโลกพังหมด ส่วนตัวคาดการณ์ว่าสถานการณ์จะจบเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งไม่ใช่ว่าจะจบแบบ 100% แต่จบในแง่เชื้อไวรัสไม่ลุกลาม และจะค่อยๆ ลดลง คนจะหายมากกว่าคนที่ติดเชื้อ

ตอนนี้ข่าวออกมาว่าวัคซีนก็เจอแล้ว ยาที่กินแล้วรักษาได้อย่างรวดเร็วก็เจอแล้ว เพียงแต่ผลิตออกมาให้ทันเท่านั้น และประเทศจีนก็ส่งสัญญาณว่าปัญหาเขาหมดแล้ว ขอให้คนไทยอย่าตื่นตระหนก เพราะถ้าตื่นตระหนกแล้ว จะทำให้เราทำอะไรที่ผิดธรรมชาติ ผิดความเหมาะสมไป เราต้องเชื่อว่าเราไม่ติดเชื้อ แค่เราเดินตามขั้นตอนต่างๆ ที่ทางการขอให้เราช่วยทำ และทำให้เต็มที่ ทำให้ครบถ้วนเท่านั้นเอง  @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น