5 วิธีเรียกสติ ถ้าธุรกิจกำลังมีปัญหา

คอลัมน์: สื่อสารการตลาดตามใจฉัน

โดย…บราลี อินทรรัตน์

จากข่าวดังๆ ที่เกิดความสูญเสียต่อชีวิตติดๆ กัน ที่ผ่านมาไม่นาน ส่งผลต่อสภาพจิตใจผู้คนมากมาย เลยเป็นที่มาของหัวข้อตอนนี้

ถึงจะไม่ใช่โค้ชผู้สร้างแรงบันดาลใจให้ใครๆ แต่ก็อยากส่งต่อกำลังใจให้ผู้ประกอบการหลายๆ ธุรกิจ ที่เผชิญสถานการณ์เศรษฐกิจชะลอตัว ยอดขายตก เจ้าหนี้เร่งรัดหนี้สิน แถมแบงก์ไม่ให้กู้เพิ่ม บางรายถึงกับต้องปิดกิจการ เอาล่ะ ในเมื่อทุกปัญหามีทางออก เรามาดู 5 วิธีเรียกสติ ถ้าธุรกิจกำลังเผชิญปัญหา

1.วิเคราะห์ปัญหาให้ถูกจุด
เรื่องนี้สำคัญมาก ที่ผู้ประกอบการต้องนั่งนิ่งๆ คิดทบทวนไต่ตรอง ใคร่ครวญสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นกับธุรกิจ โดยไม่ใช้อารมณ์ในทางลบ เสียใจ โกรธแค้น ผิดหวัง เพราะจะยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปตามความคิดของเรา หาสาเหตุให้เจอตรงไปตรงมา อาจจะเกิดขึ้นจากตัวผู้ประกอบการเอง ที่ตัดสินใจผิด เชื่อคนง่าย วิเคราะห์การลงทุนผิดพลาด ลูกค้าไม่อุดหนุน

ได้โปรดอย่าโทษตัวเองว่าเราไม่ได้เรื่อง แต่จงคิดในแง่บวกสุดๆ ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น ถือเป็นประสบการณ์ คุณได้เสียค่าหน่วยกิตแล้วเรียบร้อย ไม่มีนักธุรกิจคนไหนในโลก (หรือแม้กระทั่งในไทยเอง) ที่ประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ มียอดขายหลายพัน หลายหมื่นล้าน มีชื่อเสียงโด่งดัง ไม่เคยผิดพลาด ล้มเหลว ทุกคนล้วนมี “เรื่องราว” ที่หัวเราะไม่ออกในตอนนั้นกันทั้งนั้น

เพียงแต่เมื่อรู้ว่า พลาดตรงไหน ก็หาทางแก้ไข หากแก้ไขไม่ได้ ก็ต้องหาที่ปรึกษาแต่ละด้านให้ช่วย ให้คำแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ธนาคาร ที่ปรึกษาธุรกิจทั้งหลาย หรือแม้กระทั่งเพื่อนฝูง รุ่นพี่ จากสื่อโซเชียลทางออนไลน์ ก็มีหลายๆ เคส ที่เผยแพร่แนวคิด ไอเดีย จากเจ้าของธุรกิจประเภทต่างๆ ที่เขาทำธุรกิจประสบความสำเร็จ ให้เราได้หาไอเดียใหม่ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ไม่แน่นะ คุณอาจจะพบไอเดียบางอย่างที่พลิกฟื้นธุรกิจคืนมาได้

2.เชื่อมั่นในตน มี Mission ในใจว่า “คุณผ่านมันไปได้แน่นอน”
ทำไมต้องบอกให้เชื่อมั่นตัวเอง เพราะร้อยทั้งร้อยหากเราทำอะไรไม่สำเร็จ ผิดพลาด เจ้าความเชื่อมั่นตัวเองว่าเราเคยทำรายได้หลายๆ ล้าน หลายๆ แสน มาแล้ว พอมันทำไม่ได้เหมือนเคย สมองเราเริ่มจะคิดตำหนิตัวเอง พาลใจฝ่อไปอีก ว่าชั้นมันไม่ได้เรื่อง จะไปทำอะไรได้อีก ในเรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างพลังใจ จะบอกว่า คุณจะต้องรวบรวมแรงฮึดทั้งหมด แล้วปักหมุดบนเป้าหมายในการกู้วิกฤติ ตั้งใจแน่วแน่ว่า “คุณผ่านมันไปได้แน่นอน”

ในเรื่องนี้ หากเป็นกฎแรงดึงดูดแล้วล่ะก็  เราจะไม่ใช้คำเหล่านี้เลย>> จะ บางที อาจจะ  มีคำว่า “ไม่” นำหน้าอยู่ทุกคำที่คุณสื่อสาร เช่น ชั้นเป็นคน “ไม่” เก่ง ชั้นจน ชั้น “ไม่” มีเงิน หรือ ชั้น “จะ” ผ่านมันไปได้แน่นอน กฎเรื่องนี้สำคัญต่อทุกการสื่อสาร คำพูดของคุณ คิดอย่างไร พูดอย่างไร ก็จะได้ยังงั้น! นี่คือเรื่องจริงที่คุณต้องเชื่อ จิตใต้สำนึกคนเรานั้น มีพลังมหาศาล เพียงแต่คุณต้องใช้เค้าให้ถูกวิธีเท่านั้น ถ้าใช้ผิด ชีวิตเปลี่ยนน่ะแหละค่ะ

3.พลังของการขอบคุณ การสำนึกรู้คุณ (Grateful)
ข้อนี้เป็นสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องฝืนใจพอควร คนเรากำลังแย่ๆ ธุรกิจกำลังอยู่ในช่วงขาลง จะมีกะจิตกะใจ ไปขอบคุณอะไรได้อีก แต่เชื่อเถอะค่ะ ลองทำดู แล้วจะเห็นความมหัศจรรย์   เพียงแต่มีวิธีการตามนี้ค่ะ

•คิดถึงสิ่งดีๆ ในชีวิตที่ผ่านมา กล่าวขอบคุณ คน/เหตุการณ์/คนในครอบครัว/ผู้มีพระคุณ/ร่างกาย/อวัยวะ/บ้าน/ปัญหาที่เจอ/การเงิน/สุขภาพ/อะไรก็ได้ที่คุณอยากขอบคุณ แล้วรู้สึกจากใจจริงๆ ว่าคุณอยากขอบคุณสิ่งเหล่านั้น
•พูดออกเสียงดังๆ ทุกเช้าและก่อนนอน เป็นเวลาติดกัน 28 วัน ยิ่งขอบคุณสิ่งใดคุณจะได้รับสิ่งนั้นมากขึ้น
•ขอบคุณจากความรู้สึกจริงๆ ไม่ใช่แค่คำพูด  หรือทำให้จบๆไป
•ความรู้สึกสำนึกรู้คุณ การขอบคุณ เป็นพลังงานน่าอัศจรรย์ ไม่จำกัดระยะทาง เวลา อดีต อนาคต สามารถทำได้ตามจินตนาการ
•อย่ามัวแต่สงสัย ว่าจริงหรือไม่จริง ให้ลงมือทำติดต่อกัน 28 วัน แล้ว

 

4.เปลี่ยนความท้อแท้ให้เป็นพลัง
•เฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ทุกวัน
เพียงคุณตั้งใจทำบางสิ่งบางอย่าง ที่คิดว่าคุณมักจะละเลยที่จะทำมันให้สำเร็จ เช่น การลดน้ำหนัก การออกกำลังกาย  การเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน การนอนให้เร็วขึ้น ตั้งใจทำ 1 อย่างให้สำเร็จให้ได้ เช่น ตื่นแต่เช้าออกไปวิ่ง ถ้าคุณทำได้ จงให้รางวัลตัวเองและเฉลิมฉลองความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ นี้  ด้วยจิตใจที่พองฟู อิ่มเอม

*งดเว้นเรื่องเกี่ยวกับการทานอาหารนะคะ เช่น วันนี้ดีใจ ได้ทานส้มตำ ลาบ ไก่ย่าง เพราะไม่งั้นคุณอาจจะได้น้ำหนักที่เพิ่มขึ้นเข้ามา หากเฉลิมฉลองด้วยการทานอาหาร

•อ่านหนังสือ ศึกษาเคสการทำธุรกิจของนักธุรกิจดังๆ ที่มีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จทั้งในไทยและในระดับโลก จะเห็นว่ากว่าเขาเหล่านั้นจะประสบความสำเร็จ เขาล้มเหลวกี่ครั้ง กี่หน ถึงจะทำธุรกิจได้จนประสบความสำเร็จ ไม่มีใครสำเร็จได้ด้วยความฟลุคหรือโชคลาภจริงๆ เช่น เคสผู้พัน Sander เจ้าของตำนาน KFC ไก่ทอดก็ยืนยันได้ว่า จริงแท้แน่นอน

5.สวดมนต์ นั่งสมาธิ ทุกเช้า และก่อนนอน
อันนี้จะว่าสายมู ก็มูนะ เพราะเรื่องที่เรามองไม่เห็นนี้ ก็เป็นพลังงานบางอย่าง หากเราทำในสิ่งที่ดี ผลก็ย่อมดี การสวดมนต์ นั่งสมาธิ เป็นกลวิธีในการให้เรา ได้สงบจิต สงบใจ ไม่คร่ำครวญหวนไห้กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขณะที่เรานั่งสมาธินั้น สภาวะของจิต ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ทำความชั่วใดๆ จิตของเราอยู่ในสภาวะที่สะอาด แจ่มใส

มีพลัง เกิดบุญกุศล ทำแล้วส่งเสริมสติปัญญา ให้เรามี “ปัญญา” มี “สติ” คิดในสิ่งที่ถูก ที่ควร จัดว่าเป็นการบำบัดสภาวะจิต จากความคิด ฟุ้งซ่าน สติแตก ให้กลับมาคิดในสิ่งที่ดี

การนั่งสมาธิ ทำได้ทุกศาสนา ทำแล้วส่งเสริมให้จิตมีพลัง เป็นบุญ เป็นกุศล เวลาที่ชะตาชีวิตตกต่ำหรือมีปัญหา หากหันกลับมาทำสิ่งนี้ เพื่อสร้างพลังใจที่ดี ก็จัดว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีการที่เราไม่ควรละเลย

ถ้าคุณทำได้ทั้ง 5 ข้อโดยไม่ต้องรอให้ ธุรกิจเกิดปัญหา ก็ยิ่งดีต่อใจมากๆ ค่ะ


เกี่ยวกับผู้เขียน: บราลี  อินทรรัตน์ (ลี)
:มีประสบการณ์การเป็นผู้บริหาร บริษัทที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์และสื่อสารการตลาด การสร้างภาพลักษณ์องค์กร ดูแลวางแผนกลยุทธ์ให้ลูกค้าทุกประเภทธุรกิจ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากกว่า 30 ปี
:ปัจจุบัน เป็นที่ปรึกษางานสื่อสารการตลาด และการตลาดออนไลน์ให้กับหน่วยงานภาครัฐ องค์กรและผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม
:เป็นเจ้าของธุรกิจ จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ต่อต้านความเสื่อมชราระดับยีน
:มีคลาสสัมมนาแพลตฟอรม์ออนไลน์ สอนฟรี 3 ชม.ให้กับ SME ที่สนใจธุรกิจออนไลน์  เลือกวันเรียนลงทะเบียนได้ที่นี่ www.bgdigitalsolution.com/smartonline
ติดต่อสอบถามแอดไลน์ที่นี่ค่ะ https://lin.ee/6lNppJi

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น