SET Social Impact Day : งานนี้ชวนไปออกแบบโมเดลแก้ปัญหาสังคม

เมื่อพูดถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย หลายคนคงนึกถึงตลาดหุ้น เพราะคุ้นชินกับบทบาทในการเป็นตลาดทุน และบางคนอาจไม่ทราบว่าตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังมีบทบาทในการพัฒนาสังคมด้วย

“นพเก้า สุจริตกุล” ผู้ช่วยผู้จัดการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาเพื่อสังคม และสื่อสารองค์กร ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า บทบาทของตลาดหลักทรัพย์ที่ทำเกี่ยวกับภาคสังคมนั้นมีอยู่ 4 กรอบ

นพเก้า สุจริตกุล

 

1.การให้ความรู้ทางการเงิน

“ในยุคแรกเมื่อ 15-20 ปีที่แล้ว เรามี issue ในเรื่องของความไม่รู้ทางการเงิน ที่อาจมีทั้งผู้ลงทุนและผู้ระดมทุนที่อาจเข้ามาสู่ตลาดทุนแล้วมีปัญหา เพราะฉะนั้นยุคแรกๆ เลยของตลาดหลักทรัพย์ ที่เราทำงานเกี่ยวกับสังคมคือเรื่อง Financial literacy การให้ความรู้ทางการเงิน

ซึ่งทำมาจนวันนี้ ถือว่าเป็นกิจกรรมหลักเลยขององค์กรเรา จากจุดเริ่มต้นที่ตลาดฯ ทำเมื่อ 10 ปีที่แล้ว วันนี้ถือว่ามีหลากหลายภาคส่วนที่เข้ามาทำเรื่องความรู้ทางการเงินด้วย ก็ถือว่าเป็นแรงช่วยๆ กันที่ทำให้ระดับความเข้าใจในเรื่องนี้มีจำนวนเพิ่มมากขึ้น”

2.การทำงานร่วมกับบริษัทจดทะเบียน เพื่อให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน
“เพราะเรามองว่าตัวบริษัทจดทะเบียนก็ต้องพัฒนาไปพร้อมกัน การพัฒนาคุณภาพในเรื่องของ ESG เรื่องของสิ่งแวดล้อม เรื่องของสังคม เรื่องของธรรมภิบาลควบคู่ไปกับการที่จะมีผลประกอบการที่ดีด้วย เพราะเรามองว่าบริษัทที่เข้มแข็งในเรื่องของคุณภาพใน 3 ด้านนี้ จะสามารถส่งผลต่อผลประกอบการที่ยั่งยืนได้ด้วยเช่นกัน

3.การทำงานด้วยสิ่งที่เรียกว่า SET Social Impact Platform
“เราเริ่ม Platform นี้มาตั้งแต่ปี 2016 บน Platform นี้ เราเอื้อมมือไปไกลกว่า Stakeholder หรือกลุ่มที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน แต่เข้าไปทำงานกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน เน้นคำว่า “ยั่งยืน” เพราะเราเน้นการทำงานร่วมกับ Social Entrepreneur หรือนักธุรกิจเพื่อสังคม ซึ่งก็คือคนที่ใช้กลไกทางธุรกิจขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสังคม เพื่อให้การแก้ไขปัญหานี้มันเป็นไปได้อย่างยั่งยืน ในระยะยาว”

“สำหรับ Social Enterprise เป็นอีก node หนึ่งของประเภทธุรกิจที่ยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดฯ แต่เขาเป็นเหมือน SME ไซส์เล็กมาก และบริษัทจดทะเบียนบางแห่งก็มี Social Enterprise ของตัวเอง

แต่ส่วนใหญ่ในประเทศไทย ณ ปัจจุบัน ตัว Social Enterprise เกิดจากการตั้งขึ้นมาเองโดยผู้ประกอบการรายเล็กๆ ที่มีนวัตกรรมทางสังคม ก็ตั้งธุรกิจเพื่อสังคมขึ้นมา

เขาจะไม่ใช่บริษัททั่วไป เขาจะไม่ใช่ OTOP ไม่ได้เริ่มต้นจากการต้องการจะสร้างกำไรเยอะๆ แต่เริ่มจากการแก้ไขปัญหาสังคม เพราะฉะนั้น Platform ที่เรียกว่า SET Social Impact ของตลาดก็เข้ามาทำตรงนี้ เพราะเราถือว่าตลาดทุนมีศักยภาพในการส่งเสริมหรือสร้างศักยภาพให้ผู้ประกอบการรุ่นเยาว์เหล่านี้ หรือผู้ประกอบการเริ่มต้นที่ต้องการแก้ไขปัญหาสังคม

4.การทำงานผ่านมูลนิธิตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
“จะเป็นเรื่องของการเข้าไปแชร์ เช่น ภัยพิบัติต่างๆ เรามีโครงการเข้าไปส่งเสริมคนดี เรียกว่า SET เชิดชูผู้ทำความดีเพื่อสังคม หรือการส่งเสริมในลักษณะที่เป็นสาธารณะ เรื่องของการบริจาคต่างๆ ซึ่งการทำงานผ่านมูลนิธิจะมีหลากหลายด้าน ทั้งกีฬา ดนตรี ศาสนา ส่วนใหญ่เราจะทำงานในเชิงปิดทองหลังพระพอสมควร เพราะจะทำงานภายใต้หน้ากากที่เป็นโครงการในชื่อของเน็ตเวิร์คหรือพันธมิตรที่เกี่ยวข้อง

ซึ่งเงินทุนนั้นเราเอาส่วนหนึ่งของผลประกอบการตัดเข้ามา และใส่เข้ามาในกองทุนมูลนิธิ ซึ่งมูลนิธิได้ตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี 2006 ในอดีตเราไม่ได้เสียภาษี แต่ตอนนี้เราเสียภาษีแล้ว เพราะฉะนั้นช่วงนั้นโดยนโยบายเราก็มองว่าแม้เราไม่ได้เสียภาษี เป็นองค์กรเฉพาะ เราก็ยังสามารถจะมีส่วนในการพัฒนาสังคมได้ ผู้บริหารก็เลยตั้งมูลนิธิขึ้นมา”

นพเก้า บอกว่า การตั้ง SET Social Impact Platform นั้น จะเป็นงานที่มองในเชิงของการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืน ในภาวะที่เกิดวิกฤต เช่น เกิดแผ่นดินไหว น้ำท่วม การบริจาคก็เป็นเรื่องที่จำเป็น หรือเกิดอะไรที่ต้องมีการระดมสรรพกำลังมากๆ

แต่ในระหว่างที่ไม่มีวิกฤตการณ์ อะไรที่เป็นความยั่งยืนในการแก้ไขปัญหาสังคม ในลักษณะการทำงานกับพันธมิตรร่วมกันผ่านการทำงานของ Social Enterprise หรือนักธุรกิจเพื่อสังคม ก็เป็น solution หนึ่ง ก็เลยตั้ง SET Social Impact Platform ขึ้นมา

“เราจะจัดงาน SET Social Impact Day ปีละครั้ง ซึ่งจัดมา 4 ปีแล้ว เราต้องการให้คนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสังคมอย่างยั่งยืนมาเจอกัน เราถึงจัด Event แต่ก่อนหน้าที่จะจัด Event จริงๆ ตลาดหลักทรัพย์ก็ได้นำฝั่งที่เป็นน้องๆ นักธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise

และอีกฝั่งหนึ่งที่เป็นพี่ๆ บริษัทจดทะเบียน เข้ามาเจอกันบนรูปแบบของเว็บไซต์และเฟซบุ๊ก เพื่อให้เขาต่อยอดการทำงานร่วมกัน ได้เห็นซึ่งกันและกันขณะเดียวกันบน SET Social Impact Platform เราก็พยายามจะเอาความรู้ความสามารถของพี่ๆ ฝั่งบริษัทจดทะเบียน มาช่วยในเรื่องความรู้ความสามารถของน้องๆ ที่เป็นนักธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise โดยผ่านกิจกรรมต่างๆ

ซึ่งก่อนจะมาถึง SET Social Impact Day เรามีโครงการ เช่น SE 101, 102 และ SET Social Impact Gym ซึ่งถือว่าเราได้บริษัทจดทะเบียนที่ทำธุรกิจตั้งแต่ระดับเริ่มต้น เป็นเจ้าของเอง เข้าใจธรรมชาติของความเป็น Enterprise เข้ามาช่วยเป็นพี่เลี้ยงให้

อันนี้คือการเชื่อมต่อระดับที่ 1 ทำให้เกิดการแชร์ประสบการณ์ หรือสร้างแรงบันดาลใจซึ่งกันและกัน ในการที่เราจะมองหาทั้งนวัตกรรมของทางด้านสังคมขณะเดียวกันผู้ประกอบการพี่ๆ ก็สามารถเอาความรู้ของตัวเองมาช่วยน้องๆ ได้

ซึ่งบน Platform นี้ จะมีผู้ประกอบการทางสังคมอยู่ 5 ด้าน คือ สิ่งแวดล้อม การศึกษา สุขภาพ กลุ่มผู้เปราะบาง เกษตรและพัฒนาชุมชน”

“เราจัดงาน SET Social Impact Day เพื่อจะเอาผู้ประกอบการเหล่านี้มาเจอกับนักธุรกิจรายอื่นๆ หรือคนที่อยากแก้ไขปัญหาสังคมเหมือนๆ กัน เวทีนี้ก็จะเป็นเวทีสำหรับการโชว์เคสของน้องๆ ธุรกิจเพื่อสังคมเหล่านี้ และมีพี่ๆ บริษัทจดทะเบียนที่สามารถเข้ามาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และต่อยอดการทำงานซึ่งกันและกันได้”

งาน SET Social Impact Day 2019 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 17-18 กรกฎาคม 2562 ที่อาคารตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ใช้ธีมงาน “ออกแบบทางออกมหาชน” คือการมาร่วมมือกันสร้างโมเดล การออกแบบหาทางออกในการแก้ไขปัญหาสังคมต่างๆ

ส่วนการใช้คำว่า “มหาชน” ก็เพื่อต้องการชี้เป้าว่ากลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย หรือกลุ่มผลประโยชน์ของทุกๆ คนในชีวิตนั้น มันมีมากกว่ากลุ่มผลประโยชน์ทางธุรกิจ เพราะสิ่งแวดล้อม พืชผัก อากาศ น้ำ เป็นส่วนหนึ่งของ Stakeholder หรือลูปของระบบนิเวศในความเจริญทั้งสิ้น ซึ่งจะพยายามนำเสนอสะท้อนความหมายนี้ในงานนี้ด้วย

นพเก้า กล่าวว่า เราได้พันธมิตรที่ดีมากๆ คือ บริษัท ไลฟ์อีส กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นกลุ่มของนภ พรชำนิ และบอย โกสิยพงษ์ เข้ามาเป็นพันธมิตร ในการนำเซเลบริตี้ นักคิด นักออกแบบ มาเป็นวิทยากรหลายๆ คนบนเวที

เพราะฉะนั้นเวทีเสวนาหัวข้อต่างๆ จะประกอบด้วย ผู้แทนบริษัทจดทะเบียน น้องๆ นักธุรกิจเพื่อสังคม เซเลบริตี้ที่ทำงานเพื่อพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน นักวิชาการ และคนที่เป็นผู้เผชิญเหตุ

“ในงาน SET Social Impact Day ทุกคนมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาสังคมได้ โดยเฉพาะภาคธุรกิจ เราทำธุรกิจ เราสร้างผลกระทบหลากหลาย และอาจมีส่วนใดส่วนหนึ่งที่ท่านสามารถจะมาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และหาพันธมิตรในการทำ CSR ในกระบวนการธุรกิจของท่านร่วมกัน หรือเป็นการทำ Sustainable CSR หรือการแก้ไขปัญหาสังคมร่วมกันอย่างยั่งยืนที่สอดรับกับธุรกิจ

ขณะเดียวกันท่านไหนที่เป็นภาคสังคมอยู่แล้ว หรือผู้บริโภคปกติก็สามารถเข้ามาร่วมงาน แล้วมาหาไอเดียดีๆ หานวัตกรรมทางสังคมดีๆ ได้ในงาน เพราะนอกจากเสวนาแล้ว เรายังมีส่วนที่เป็น Impact Gallery และ Impact Market ซึ่งมีน้องๆ Social Enterprise ถึง 60 บูธในงาน

มีทั้งของที่มาจากผู้เปราะบาง สินค้าที่มีทั้งคุณค่าและคุณภาพ ก็คือมีคุณค่าในเชิงที่ว่า ทุกชิ้นของสิ่งของที่ขายในงาน มีผลในการไปช่วยเหลือในการแก้ไขปัญหาสังคมทั้งสิ้น ขณะเดียวกันก็มีคุณภาพด้วย มีมาตรฐาน ปลอดภัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

งาน SET Social Impact Day จัดขึ้นวันที่ 17-18 กรกฎาคมนี้ ผู้สนใจเข้าไปดูรายละเอียด หรือลงทะเบียนร่วมการเสวนาได้ที่ www.setsocialimpact.com หรือสอบถาม SET Contact Center 0 2009 9999 @

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น